สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เป็นสหกรณ์ประเภทหนึ่ง ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยความสมัครใจของสมาชิกที่อยู่ในวงสัมพันธ์เดียวกัน เช่น ชุมชนเดียวกัน ประกอบอาชีพในโรงงาน บริษัท หรือสถาบันการศึกษาเดียวกัน ดำเนินการภายใต้หลักประชาธิปไตย คือ หนึ่งคนหนึ่งเสียง สมาชิกจะสะสมทรัพย์ร่วมกันเพื่อเป็นทุนดำเนินการให้สมาชิกที่มีความเดือดร้อนเป็นผู้กู้ยืมนำไปใช้ คณะกรรมการบริหารได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิก และโดยสมาชิกของสหกรณ์เองผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจะได้รับการจัดสรรสู่มวลสมาชิกในรูปแบบของดอกเบี้ย เงินปันผล และสวัสดิการต่างๆ
ขบวนการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมี 3 ระดับ ได้แก่ ระดับปฐม คือ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในระดับท้องถิ่น ระดับมัธยม หรือ ระดับภาค คือ ชมรมหรือศูนย์ประสานงานเครดิตยูเนี่ยนที่รวมตัวกันใน ซึ่งระดับภูมิภาค หรือในระดับจังหวัด และ ระดับชาติ คือ ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ที่เกิดจากการรวมตัวกันของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ทั่วประเทศมีเพียงแห่งเดียว ชื่อว่า “ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด”
ทั้งนี้ เครดิตยูเนี่ยนแห่งแรกคือ “กลุ่มเครดิตยูเนี่ยนแห่งศูนย์กลางเทวา” ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2508 เป็นระยะเวลา 51 ปีจวบจนปัจจุบัน มีสหกรณ์ และกลุ่มเครดิตยูเนี่ยนทั่วประเทศ จำนวนกว่า 1,206 แห่ง มีสมาชิกรายบุคคลกว่า 1,300,000 คน ครอบคลุมพื้นที่ 76 จังหวัดของประเทศไทย โดยชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด มีสำนักงานสาขา จำนวน 6 แห่ง ทำหน้าที่ให้บริการ สหกรณ์ และกลุ่มเครดิตยูเนี่ยนในแต่ละภูมิภาค เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในด้านการบริการ ได้แก่
1.ช.ส.ค. สาขาภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ 2.ช.ส.ค. สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น 3.ช.ส.ค. สาขาภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี 4.ช.ส.ค. สาขาภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 5.ช.ส.ค. สาขาจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี และ 6.ช.ส.ค. สาขาภาคกลาง กรุงเทพมหานคร
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานราชการที่กำกับ ดูแล เป็นพี่เลี้ยงให้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน โดยสิ่งที่มุ่งหวังอยากให้ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ รับไปดำเนินการคือ เจตนารมณ์ในการดูแลประชาชนในชุมชนโดยขบวนการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนให้มีความเข้มแข็ง สามารถดูแลตัวเองได้ มีความมั่นคงในชีวิต ด้วยจิตที่ยึดมั่นอุดมการณ์ และหลักการสหกรณ์ คือ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะเข้ามาช่วยในเรื่องการสร้างความเข้มแข็ง เรื่องกระบวนการให้ความรู้ การบริหารจัดการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความมุ่งหวังที่จะให้ขบวนการสหกรณ์เป็นสถาบันที่จะทำให้ชุมชน และประชาชน มีความกินดี อยู่ดี มีความยั่งยืนในอนาคต
แม้ที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของขบวนการสหกรณ์จะมีด้านลบออกสู่สายตาประชาชนอยู่บ้าง แต่ก็เป็นส่วนที่น้อยมาก อยากให้หันกลับมามองดูภาพใหญ่ของขบวนการสหกรณ์ที่ได้ดำเนินการอยู่โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เร่งดำเนินการแก้ไขคือ การสร้างความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องของขบวนการสหกรณ์ที่ถูกต้อง ซึ่งประธานกรรมการดำเนินการ จะต้องเข้าถึงประชาชน เพื่อทำความเข้าใจกับสมาชิกว่า เมื่อเป็นสมาชิก ขบวนการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนให้การดูแลในเรื่องใดบ้าง และมีหน้าที่อย่างไรในการเข้าไปเป็นสมาชิกที่ดีของสหกรณ์ และชุมนุมสหกรณ์ เชื่อว่า ความเข้าใจ การมีส่วนร่วม และความรู้ต่างๆ ที่ประชาชนได้รับผ่านคณะกรรมการดำเนินการ จะมีภาพลักษณ์ที่สวยงาม เหมือนเช่น 51 ปีที่ผ่านมา จากนี้ไปก็จะมีความสวยงามเหมือนดั้งเดิม
สำหรับจุดแข็งของชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ คือ การเข้าถึงชุมชน กระบวนการในการสร้างความร่วมมือ กระบวนการให้ความรู้ กระบวนการดูแลสมาชิกอย่างทั่วถึง ซึ่งสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ก่อนที่จะก่อตัวขึ้นเป็นสหกรณ์ได้ จะต้องได้รับความรู้ มีการอบรม และสร้างความเข้าใจในการเข้ามาเป็นสมาชิก ถือเป็นโอกาสที่ดีของสหกรณ์ ในการทำความเข้าใจกับสมาชิก ส่วนคณะกรรมการดำเนินการ ได้แนะนำให้ยึดถือหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ความซื่อสัตย์ และการเข้าถึงสมาชิกทุกคน เชื่อว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้สหกรณ์มีความมั่นคง และแข็งแรง
นายสุภาพ จันทร์ภิรมย์ ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ เป็นองค์กรกลางที่ให้บริการครบวงจรของขบวนการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ในฐานะองค์กรแม่ที่ให้การกำกับ ดูแล ส่งเสริม และสนับสนุน ให้สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนทั่วประเทศ เป็นสถาบันการเงินและสวัสดิการของชุมชนอย่างแท้จริง ตลอดจนเป็นผู้แทนให้ความคุ้มครอง และรักษาประโยชน์ร่วมกันของสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แนวทางในการดำรงอยู่และปฏิบัติของประชาชนในทุกระดับให้ดำเนินการในทางสายกลาง มีความพอเพียง และมีความพร้อมที่จะจัดการต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง โดยจะต้องอาศัยความรู้ที่มี ความรอบคอบ ระมัดระวังในการวางแผน และการดำเนินการทุกขั้นตอน ทั้งนี้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการดำเนินชีวิตอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน เพื่อสามารถอยู่ได้แม้ในโลกโลกาภิวัตน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี