“ทนงศักดิ์ นิลน้อย” หมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน สังกัดสถานีพัฒนาที่ดินสุพรรณบุรี สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1 ที่อยู่ 1/1 หมู่ 3 ตำบลปากน้ำ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เบอร์โทรศัพท์ 08-1888-4795 ได้รับการคัดเลือก เป็นหมอดินอาสาดีเด่น ประจำปี 2559 สาขาการอนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งเข้ารับโล่รางวัล ในวันสถาปนากรมพัฒนาที่ดินเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา แต่ทว่าก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จในอาชีพเกษตรกรรมของตนเอง รวมถึงสามารถเป็นตัวอย่างให้กับพี่น้องเกษตรกรทั่วไปได้นั้น เส้นทางที่ผ่านมาก็ต้องพบเจอกับปัญหาอุปสรรคมาไม่น้อยเลยทีเดียว
นายทนงศักดิ์ นิลน้อย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2544 ที่ผ่านมาส่งผลให้สวนมะม่วงนั้นเสียหายสูญเสียรายได้และต้องใช้เงินนับล้านบาทเพื่อฟื้นฟูสวนมะม่วงให้กลับมาสามารถให้ได้ผลผลิตเหมือนเดิม จากสาเหตุตรงนี้นี่เองทำให้ตนมีแนวคิดที่จะศึกษาหาแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง เริ่มจากหาความรู้และสอบถามผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญได้แก่สถานีพัฒนาที่ดินสุพรรณบุรี จนแน่ใจว่าการอนุรักษ์ดินและน้ำเป็นวิธีที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยคำนึงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรดินและน้ำอย่างคุ้มค่า เพื่อก่อให้เกิดผลผลิตสูงสุดและยั่งยืน
หลังจากได้เรียนรู้และศึกษาเรื่องการอนุรักษ์ดินและมาระยะหนึ่งก็เริ่มดำเนินการฟื้นฟูสวน โดยช่วงแรกที่ได้มีการวางแผนทำคันดินกั้นน้ำและจัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในลักษณะต่างๆ โดยรูปแบบการแก้ปัญหาในสวนมะม่วงของตนนั้น เริ่มจากจัดทำโครงสร้างระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ทำคันล้อม เป็นคันดินกั้นน้ำให้สูงกว่าระดับน้ำที่เคยท่วมสูงสุด ให้มีความสูง ขนาดใหญ่ และแข็งแรงพอ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหาย โดยได้นำดินมาถมเป็นคันกั้นน้ำล้อมรอบสวนมะม่วงเพื่อป้องกันน้ำท่วม ส่วนพื้นที่ด้านในได้ท้าการยกร่องสวนเพื่อปลูกมะม่วง
จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ตนรู้สึกสนใจงานด้านอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างจริงจัง พร้อมกับมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่เกษตรกรทุกคนจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้เอาไว้นายทนงศักดิ์ จึงได้สมัครเข้ารับการฝึกอบรมเป็นหมอดินอาสาประจำหมู่บ้านตั้งแต่ต้นปี 2555 เป็นต้นมา
ภายหลังจากการทำคันดินกั้นน้ำแล้ว ก็ได้นำหญ้าแฝกมาปลูกจนสามารถป้องกันพื้นที่สวนมะม่วงเนื่องจากแนวหญ้าแฝกที่ปลูกสามารถป้องกันการพังทลายของหน้าดิน และเก็บรักษาความชื้นไว้ได้ แนวคิดที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ของตนเองก็เพื่อการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเน้นไปที่หลักปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่สำคัญ 4 ประการ คือ การมีสติ ปัญญา ศรัทธา และความเพียร ซึ่งได้ร่วมกับคนในครอบครัวบริหารจัดการเพื่อการใช้ที่ดินอย่างถูกต้องเหมาะสมและเต็มศักยภาพ ปฏิบัติตามแนวพระราชดำริ เกี่ยวกับหญ้าแฝกที่ถือเป็น“พืชมหัศจรรย์” ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือมีรากแข็งแรงสามารถเจาะลงในดินดานได้ลึกปลูกง่าย ลักษณะกอหนาแน่นเป็นกำแพงธรรมชาติที่มีชีวิต ช่วยหยุดยั้งการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ชะลอความเร็วของน้ำที่ไหลบ่า น้ำจะซึมลงไปเก็บไว้ในดินได้มาก ทำให้ดินมีความชุ่มชื้น และใบหญ้าแฝกยังใช้คลุมดิน เพื่อรักษาความชื้นอีกด้วย เป็นประโยชน์ในการพัฒนาที่ดินปรับปรุง ฟื้นฟูดิน และสภาพแวดล้อม สามารถต่อยอดในการสร้างอาชีพและรายได้ อีกหลายประการทั้งในด้านเกษตรกรรมและด้านวิศวกรรมอีกทั้ง หญ้าแฝกมีรากแข็งแรง สามารถเจาะลงในดินดานได้ลึกปลูกง่าย ลักษณะกอหนาแน่น จึงจัดเป็นกำแพงธรรมชาติที่ช่วยหยุดยั้งการชะล้างการพังทลายของหน้าดินได้อย่างดีเยี่ยม
นายทนงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงแรกที่ได้ดำเนินการฟื้นฟูสวนภายหลังประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ได้มีการวางแผนอย่างเป็นระบบว่าจะต้องหาทางป้องกันน้ำให้ได้ด้วยการใช้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกแนวหญ้าแฝกเพื่อให้ทำหน้าที่ในการอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการยอมรับในหมู่บ้าน และเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์ดินและน้ำให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถต่อยอดในการสร้างอาชีพ และรายได้จากการทำการเกษตรที่ดีขึ้น โดยผลผลิตมะม่วงในแปลงที่เพิ่งให้ผลผลิตปีแรกหลังจากน้ำท่วมสามารถขายส่งได้กิโลกรัมละ 50 บาท มีรายได้ไม่น้อยกว่า780,000 บาท ในการผลิตมะม่วงแต่ละรุ่นมีต้นทุนเฉลี่ยกิโลกรัมละ25 บาท ซึ่งหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือกำไรสุทธิรุ่นละประมาณ 390,000 บาท และมีรายได้เพิ่มจากการขายกิ่งพันธุ์มะม่วงประมาณ 200,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการทำนาปลูกข้าวพันธุ์ กข. 49 จำนวน 10 ไร่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 100 ถัง/ไร่ เนื่องจากตนนั้นเน้นการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภาพจากธรรมชาติต่างๆ จึงทำให้มีต้นทุนการผลิตต่อไร่ประมาณ 3,500 บาท ทำให้มีกำไรต่อรอบการผลิตเป็นเงิน 32,000 บาท ส่งผลให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันนายทนงศักดิ์ นอกจากได้รับการยอมรับจากเกษตรกรในพื้นที่และเจ้าหน้าที่จากภาครัฐแล้ว ยังเป็นแกนนำสำคัญในการจัดทำกิจกรรมตรวจวิเคราะห์ดินให้กับพี่น้องเกษตรกร ทั้งนี้ก็เพื่อตรวจสอบธาตุอาหารพืชที่มีอยู่ในดิน ตรวจสภาพความเป็นกรด–เป็นด่าง ทำให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการที่ดินสำหรับการทำเกษตรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมตามความต้องการของพืช ซึ่งจะเน้นให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยสั่งตัดพร้อมกับการอนุรักษ์ดินและน้ำไปพร้อมกัน รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรวมด้วย
สำหรับเกษตรกรหรือผู้อ่านท่านใดที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดต่อเข้าศึกษาดูงานในพื้นที่ของนายทนงศักดิ์นิลน้อย สามารถติดต่อได้ที่ บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 3 ตำบลปากน้ำ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เบอร์โทรศัพท์08-1888-4795
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี