ปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดส่วนใหญ่หันมาใช้เครื่องจักรกลเกษตรในการเตรียมดิน การปลูก ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช และนวดกะเทาะข้าวโพดเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การเก็บเกี่ยวยังใช้แรงงานคนในการหักปลิดเก็บข้าวโพดทีละฝัก ซึ่งต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ทำให้มีค่าใช้จ่ายในขั้นตอนเก็บเกี่ยวสูงกว่า 1,000 บาท/ไร่ หรือมากกว่า 1 ใน 3 ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด นอกจากนั้น ยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานทำให้เก็บเกี่ยวข้าวโพดไม่ทันฤดูกาล ส่งผลให้ผลผลิตเสียหาย หรือเตรียมดินไม่ทันฤดูเพาะปลูก
การใช้เครื่องจักรกลเกษตรในการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพด เป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงานได้
ซึ่งขณะนี้มีการนำเครื่องเกี่ยวนวดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มารับจ้างเก็บเกี่ยวโดยราคาค่าเกี่ยวอยู่ที่ 600-750 บาท/ตัน ซึ่งต่ำกว่าการใช้แรงงานคน ประมาณ 30% อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและลดต้นทุนให้กับเกษตรกร ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น กรมวิชาการเกษตร ได้ออกแบบและพัฒนา “เครื่องปลิดฝักข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แบบปลิดสองแถว” เป็นหนึ่งอีกหนึ่งผลงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร และสามารถขยายผลต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้
นายมงคล ตุ่นเฮ้า วิศวกรการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพด จะมีนายหน้าจัดหาคนงานมารับจ้างเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยคิดค่าจ้างหักข้าวโพดเป็นกระสอบ และเกษตรกรยังต้องจ้างคนงานขนย้ายข้าวโพดออกจากแปลงเข้าไปเก็บในยุ้งเพื่อรอราคา และขนไปลานสีข้าวโพดเพื่อจำหน่ายด้วย จากประเด็น
ดังกล่าว ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่นจึงได้ร่วมกับสถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม ดำเนินการออกแบบและพัฒนาเครื่องปลิดฝักข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แบบปลิดสองแถวขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบเครื่องปลิดฝักข้าวโพดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกร และใช้ทดแทนแรงงานการเก็บฝักข้าวโพดที่นับวันยิ่งขาดแคลน หายาก และมีค่าจ้างที่สูงด้วย
เครื่องปลิดฝักข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แบบปลิดสองแถวมีส่วนประกอบที่สำคัญของตัวเครื่อง 3 ส่วน ได้แก่ ระบบปลิดฝัก ระบบลำเลียงฝักพร้อมเก็บ และระบบขับเคลื่อน โดยลักษณะการทำงานคือ สามารถปลิดฝักข้าวโพดจากต้นได้ครั้งละ 2 แถว แล้วลำเลียงฝักข้าวโพดตามรางลำเลียงขนาดกว้าง 0.4 เมตร ยาว 2.50 เมตร ลงสู่ถังเก็บโดยไม่ปอกเปลือก สำหรับถังเก็บมีปริมาตร 2 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถเปิดและปิดด้านข้างเพื่อเทฝักข้าวโพดได้เมื่อเต็มถังเก็บ
ส่วนระบบขับเคลื่อนเครื่องปลิดฝักใช้ชุดเกียร์ของรถไถนาเดินตาม เครื่องยนต์ต้นกำลังเป็นเครื่องยนต์ดีเซลสูบเดียว ขนาด 16 แรงม้า มีความเร็วการเคลื่อนที่ 0.5-1.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง ความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่ใช้ในการทำงาน คือ 2,400 รอบ/นาที มีอัตราการทำงาน ประมาณ 2 ไร่/ชั่วโมง ซึ่งจากการทดสอบการทำงานของเครื่องดังกล่าว พบว่า มีประสิทธิภาพการปลิดฝักข้าวโพด 73% และมีปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ชั่วโมงละ 2 ลิตร เหมาะสำหรับการใช้งานกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เก็บผลผลิตด้วยวิธีไม่ปอกเปลือก
ทั้งนี้ ระบบปลิดฝักของเครื่องต้นแบบยังมีข้อจำกัด คือ ความสูงของฝักแรกของต้นข้าวโพดต้องไม่ต่ำกว่า 70 เซนติเมตร เนื่องจากหัวปลิดฝักไม่สามารถปรับระดับได้ และระบบลำเลียงฝักยังมีความเร็วรอบไม่เหมาะสมกับการทำงาน ส่งผลให้ฝักกระเด็นเลยถังเก็บเป็นบางช่วง และระบบบังคับเลี้ยวที่ไม่มีต้นกำลังช่วยขับ ทำให้เลี้ยวลำบากในการกลับหัวงาน เป็นต้น ซึ่งสามารถที่จะปรับปรุงและพัฒนาระบบการทำงานบางส่วนให้มีความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพได้
จากการที่ได้พัฒนาเครื่องต้นแบบปลิดฝักข้าวโพดแบบปลิดสองแถว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า เครื่องปลิดฝักข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถที่จะสร้างและผลิตได้ในประเทศไทย โดยใช้วัสดุที่ไม่แพง ต้นทุนการผลิตต่ำ ทำให้ราคาจำหน่ายถูกลง และคืนทุนได้เร็วขึ้น เพียงแต่ต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาเพื่อให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงที่สุด ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าเครื่องจักรกลการเกษตรจากต่างประเทศได้ นอกจากนี้ ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายจากการเก็บเกี่ยวนวดข้าวโพดให้กับเกษตรกรได้ ทำให้ได้รับผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้
หากสนใจ “เครื่องต้นแบบปลิดฝักข้าวโพดแบบปลิดสองแถว” สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โทร.0-4325-5038 หรือ สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม กรมวิชาการเกษตร โทร.0-2940-5790, 0-2579-4497, 0-2940-5581 ในวันและเวลาราชการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี