กรุงเทพมหานครเปิดการจราจรอุโมงค์ทางลอดแยกมไหสวรรย์ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2559 เป็นต้นไป โดยให้ใช้งานชั่วคราวระหว่างเวลา 05.00-22.30 น. ห้ามรถประจำทาง รถบัส รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ลงอุโมงค์เพื่อความปลอดภัย คาดจะก่อสร้างโครงการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2559นี้
นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการทางลอดถนนตากสินกับถนนรัชดาภิเษกหรืออุโมงค์ลอดทางแยกมไหสวรรย์ ก่อสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการจราจรบริเวณแยกมไหสวรรย์ ลดจุดตัดทางแยกโดยรอบ และเชื่อมการเดินทางในแนวถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน กับถนนสุขสวัสดิ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการจราจรในพื้นที่ดังกล่าว ที่ผ่านมามีความล่าช้ากว่ากำหนดเนื่องจาก หลังลงนามสัญญาจ้างบริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2554 เกิดปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ต่อมาพบปัญหาการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคเดิม ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นจุดติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังอุตสาหกรรมรายย่อยจำนวนมาก จึงทำให้การทำงานค่อนข้างยาก ต้องประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการแก้ไขเป็นเวลาประมาณ 2 ปี
นอกจากนี้ ยังพบเสาเข็มเดิมสะพานข้ามคลองบางน้ำชนกีดขวางแนวการก่อสร้างทางน้ำลอดใต้อุโมงค์ (Siphon) ทำให้ต้องปรับแก้แบบและขยายเวลาก่อสร้างหลายครั้ง ล่าสุดโครงการมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 86 โดยส่วนงานโครงสร้างอุโมงค์ทางลอดทั้งบริเวณทางขึ้น-ลงทั้ง 2 ฝั่ง พื้นทางลอด หลังคาทางลอด และบริเวณคลองน้ำชนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงงานเก็บรายละเอียดในส่วนฝาบ่อพัก งานตกแต่งผนัง และงานผิวจราจรและทางเท้าด้านข้างอุโมงค์ทั้ง 2 ฝั่ง
โดยในช่วงเปิดให้ใช้งานชั่วคราวนี้ จะห้ามรถประจำทาง รถบัส และรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ลงอุโมงค์ทางลอดเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมแผนสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉินต่างๆ และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิดเพื่อดูความพร้อมและแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ มั่นใจว่าโครงการทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน เป็นการมอบของขวัญปีใหม่ให้กับชาวกรุงเทพฯ
สำหรับอุโมงค์ทางลอดแยกมไหสวรรย์เป็นทางลอดที่มีความยาวที่สุดในกรุงเทพฯ มีขนาด 4 ช่องจราจร 2 ทิศทาง โครงสร้างทางลอดมีความกว้าง 17 เมตร ความยาวทางลอดประมาณ 887 เมตร รวมความยาวทั้งโครงการ 1,515 เมตร โดยอุโมงค์ทางลอดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายถนนวงแหวนรัชดาภิเษก ที่จะรองรับโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อแก้ปัญหาจราจรเร่งด่วนระยะกลางของกรุงเทพมหานคร ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อปี 2547 โดยใช้งบอุดหนุนของรัฐบาลจำนวนกว่า 969 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี