ไฟเขียว14พย.
กิจกรรมบันเทิง-ทีวีคืนผัง
งดน้ำเน่า/ตลกหยาบคาย
ให้ชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา
สั่งทำสมุดภาพพสกนิกร
ร่วมสักการะพระบรมศพ
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 เวลา 07.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ คุณพลอยไพลินเจนเซน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง และถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 31 ตุลาคม ก่อนเสด็จฯกลับ
เวลา 15.14 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
วันเดียวกัน ยังคงมีประชาชนจำนวนมากทยอยมารอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระบรมโกศ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยสำนักพระราชวังเริ่มเปิดให้ประชาชนกลุ่มแรกเข้ากราบสักการะพระบรมศพตั้งแต่เวลา 05.00 น. ให้เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ก่อนที่เวลา 08.00 น. จะเปลี่ยนให้ประชาชนที่มาถวายสักการะเข้าผ่านประตูมณีนพรัตน์ เลี้ยวขวาก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าประตูวิหารยอด เข้าสู่ตัววัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ฝั่งทิศเหนือ เลี้ยวซ้ายเดินตามทางพระระเบียงคต วนรอบพระระเบียงคตไปทางประตูสนาม เข้าสู่ถนนอมรวิถี เดินผ่านหน้าพระนั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่สำนักพระราชวังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมวัดพระแก้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนผู้สูงอายุและคนพิการที่นั่งรถเข็น เจ้าหน้าที่ยังอำนวยความสะดวกให้เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานชัยศรีได้เหมือนเดิม
เปลี่ยนชุดดำ4วันกว่าพันคน
สำหรับบรรยากาศที่จุดบริการเปลี่ยนชุดดำสุภาพฟรี ด้วยความปรารถนาดีจาก สน.ชนะสงครามมีผู้ใช้บริการ 4 วัน เกิน 1,000 คนแล้ว โดยนายเฉลิมชนม์ น่าชม ผู้ดูแลจุดบริการเปิดเผยว่า ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมามีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งชุดเพียงพอรองรับประชาชน แต่มีหลายคนไม่ได้เตรียมตัวแต่งกายสุภาพมาจากบ้าน มาขอเปลี่ยนชุดที่จุดบริการก่อนเข้าถวายสักการะ จึงอยากขอร้องให้เตรียมพร้อมด้วยตัวเองก่อน เพราะจุดนี้อยากเตรียมชุดให้ผู้ที่ไม่มีชุดสุภาพจริงๆเป็นหลัก และสำหรับผู้ที่ยืมชุด อยากให้นำมาคืนทันทีหลังเข้าถวายสักการะเสร็จ เพื่อให้ผู้ใช้บริการคนอื่นๆ ได้ใช้ต่อให้เพียงพอกว่านี้ สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบริจาคชุดสีดำสุภาพ นำมาบริจาคได้ที่จุดบริการบริเวณสนามหลวงฝั่งถนนหน้าพระธาตุ ซึ่งขณะนี้ต้องการเสื้อโปโลหรือเชิ้ตสีดำ ไซส์ผู้ชายและกางเกงสแล็กสีดำ
พระองค์โสมทรงให้เพิ่มไก่ทอด
เวลา 16.15 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุในฐานะองค์นายกกิติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย เสด็จฯยังรถเคลื่อนที่มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก หน้ากรมศิลปากร ถนนหน้าพระธาตุ เพื่อทรงทอดไก่หมักทรงเครื่องประทานพร้อมข้าวเหนียว ซึ่งวันนี้เตรียมไก่ทอด 1,100 กิโลกรัมและข้าวเหนียว 500 กิโลกรัม พร้อมแอปเปิ้ล ขนุน มะม่วง มีพสกนิกรมาเฝ้ารอชื่นชมพระบารมีเนืองแน่น หลังทรงทอดไก่แล้ว ยังได้เสด็จประทานข้าวเหนียวไก่ทอดให้ประชาชนด้วยพระองค์เองอีกด้วย ทั้งนี้ ทรงมีรับสั่งให้เพิ่มจำนวนไก่เป็นห่อละ 3 ชิ้นจากเดิน 2 ชิ้น เพื่อให้เหมาะกับปริมาณข้าวเหนียว
เปิดวัดพระแก้ว-นทท.ใส่ชุดสีเข้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังวัดพระแก้วเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ เข้าเที่ยวชมตามปกติเป็นวันแรก มีกลุ่มนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมตั้งแต่เช้า บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยนักท่องเที่ยวนั่งรถบัสปรับอากาศเข้ามาถึงรอบนอกสนามหลวง จากนั้นเดินเท้าเป็นหมู่คณะเข้ามาบริเวณสนามหลวง เข้าประตูวิเศษไชยศรี และซื้อบัตรเข้าชมและเข้าภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยไม่ปะปนกับพสกนิกรที่เดินผ่านระเบียงคดแต่อย่างใด เพราะมีเชือกปิดกั้นพร้อมป้ายประกาศให้ทราบ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใส่ชุดสีเข้ม บางคนใส่ชุดสีดำร่วมไว้ทุกข์กับคนไทย
ทัวร์เกาหลีใต้เข้าเยี่ยมชมชุดแรก
นายชาญชัย ศริญญวัจน์ มัคคุเทศก์ของบริษัทฮุนได ทัวร์กล่าวว่า ตนนำลูกทัวร์ชาวเกาหลีมาเยี่ยมชมวัดพระแก้วตามโปรแกรมที่แจ้งไว้ โดยลูกทัวร์กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มแรกตั้งแต่ที่ได้งดการเยี่ยมชมไป ตนอธิบายให้ลูกทัวร์รับทราบถึงสถานการณ์ของประเทศไทย และความเศร้าโศกของคนไทยที่มีต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งส่วนใหญ่เข้าใจและเสียใจกับเหตุการณ์นี้
ผบ.ตร.-น.1ตรวจรอบวัง-สนามหลวง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยรอบสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมยังปกติเรียบร้อย โดยช่วงเช้ามีประชาชนและกรุ๊ปทัวร์จำนวนมากเดินทางมาที่สนามหลวง ซึ่งได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และแจกเอกสารชี้แจงการปฎิบัติตัว ขอความร่วมมือแต่งกายสุภาพรัดกุม ไม่พกทรัพย์สินมีค่า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดคัดกรองบุคคลที่จะเข้าสนามหลวงอย่างละเอียดป้องกันการก่อเหตุ และนำรูปผู้ต้องสงสัย หรือผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดมาติดไว้บริเวณจุดคัดกรองทุกจุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสัมภาษณ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จิตอาสาที่มาให้บริการฟรี นำกำลังตำรวจตรวจความเรียบร้อยรอบพระบรมมหาราชวังและสนามหลวง
ยังไม่กำหนดค่าใช้จ่ายเจ้าภาพร่วม
อีกด้านหนึ่ง หลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) ถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ และถวายเป็นพระราชกุศล โดยแสดงความจำนงได้ที่สำนักพระราชวังตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นั้น ตลอดทั้งวันนี้ มีบริษัทเอกชนมายื่นเอกสารและส่งโทรสารมาที่ฝ่ายทะเบียน อาคาร 601 สำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า) ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิตจำนวนมาก
จากนั้นมีเอกสารจากสำนักพระราชวังแจ้งว่า ผู้เป็นเจ้าภาพ 1 ราย จะเข้าร่วมได้ 50 คนโดย 5 คน จะนั่งบนพระที่นั่ง และ 45 คน นั่งด้านล่าง ซึ่งผู้ที่นั่งบนพระที่นั่ง มีระเบียบแต่งกายดังนี้ ชายแต่งกายด้วยชุดขอเฝ้า หญิงแต่งกายด้วยชุดไทย ขณะที่ผู้นั่งด้านล่าง ชายแต่งกายด้วยชุดสูทและหญิงแต่งกายด้วยชุดดำ ทั้งนี้ สำนักพระราชวังจะส่งหนังสือตอบรับ กำหนดวันและแจ้งรายละเอียดการเป็นเจ้าภาพให้ผู้ที่ส่งเอกสารขอเป็นเจ้าภาพทราบก่อนวันและเวลาที่เป็นเจ้าภาพล่วงหน้า 15 วัน
ส่วนที่มีกระแสข่าวในสังคมออนไลน์เรื่องค่าใช้จ่ายการเป็นเจ้าภาพ 9 หมื่นบาทนั้น สำนักพระราชวังยืนยันว่า ยังไม่มีการกำหนดเรื่องค่าใช้จ่าย และผู้ที่ต้องการทราลบรายละเอียดสามารถสอบถามได้ที่งานทะเบียน สำนักพระราชวังโทร 02-224-3273 และ 02-280-8721
ประเมินสถานการณ์รับวันหยุด
หลังการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) พล.ต.ธรรมนูญ วิถี รองแม่ทัพภาคที่1 แถลงว่า ที่ประชุมรับฟังสรุปผลประเมินสถานการณ์เตรียมแผนรองรับ หลังสำนักพระราชวังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว คาดว่าช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยว และประชาชนเข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพิ่มมากขึ้น สำหรับภาพรวมวันนี้เป็นระเบียบเรียบร้อย
จัดระเบียบแจกอาหาร-จุดจอดรถ
พล.ต.ธรรมนูญกล่าวต่อว่า ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้กอร.รส.กำชับให้กทม.ดูแลประชาชนระหว่างต่อแถวรอเข้าไปภายในพระบรมมหาราชวัง โดยจัดระเบียบให้อยู่ในเต๊นท์ด้านทิศใต้ ก่อนจัดเต๊นท์อำนวยความสะดวกให้ประชาชนระยะยาวไว้ด้านทิศเหนือ รวมถึงการจัดระเบียบแจกอาหารให้ประชาชน ซึ่งวันที่ 3 พฤศจิกายน กทม.จะทดลองกำหนดช่วงเวลาแจกอาหารแบ่งเป็น 3 เวลาคือ เช้า กลางวัน เย็น สำหรับจุดจอดรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มมากับทัวร์และมาเอง โดยที่มากับทัวร์จอดรถส่งที่หน้ารร.รอยัลรัตนโกสินทร์ และหน้ารร.รัตนโกสินทร์ ถ้าจะกลับทางเรือ ต้องใช้บริการที่ท่าช้าง ส่วนที่มาทางเรือนักท่องเที่ยวลงเรือที่เอเชียทีคและขึ้นที่ท่ามหาราช ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนจะผ่านจุดคัดกรองที่ติดตั้งโดยรอบท้องสนามหลวง ขณะนักท่องเที่ยวที่มาเองประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความเข้าใจเรื่องการแต่งกายและข้อควรปฏิบัติในการเดินทางเข้ามาภายในสนามหลวง
ทีวีคืนผังแต่ของดตลกหยาบเถื่อน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงแนวทางมาตรการจัดกิจกรรมบันเทิงหรือกิจกรรมต่างๆตามที่รัฐบาลขอความร่วมมือช่วงไว้ทุกข์ 30 วันว่า จะมีการปลดล็อคเรื่อยๆ และทุกคนเข้าใจสถานการณ์ดี ประเทศไทยมีเรื่องการท่องเที่ยว การใช้ชีวิตประจำวัน แต่ก็ต้องดูเรื่องความเหมาะสมและสถานที่จัดงาน ทั้งพื้นที่ส่วนตัวและกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น บนเกาะ และอื่นๆ โดยมอบให้พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หารือเพื่อชี้แจงต่อไป แต่ขอร้องอย่าทำผิดกฎหมาย อย่าแต่งตัวไม่สุภาพช่วงนี้ ส่วนการจัดงานในที่รโหฐานจัดได้ ทั้งศิลปินดาราแสดงได้แต่ต้องอยู่ในกรอบ ไม่หยาบคาย หรือแสดงให้เห็นวัฒนธรรมที่ไม่ดีงาม
“เมื่อครบ 30 วัน สถานีโทรทัศน์สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นปกติได้ แต่ขอร้องให้ลดโทนลงบางรายการ เช่น เรื่องตลกโปกฮา เถื่อนๆ ขอให้ใช้วาจาสุภาพ เชื่อว่าทำได้ รัฐบาลขอความร่วมมือแต่ไม่ห้ามไปทั้งหมด”นายกฯระบุ
สั่งทำหนังสือรวมภาพถวายอาลัย
และว่า ขอขอบคุณสื่อทุกแขนงร่วมมือช่วงการโศกเศร้าเสียใจ เผยแพร่พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้คนรุ่นหลังรับทราบ และภาพประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชแบบมืดฟ้ามัวดิน ซึ่งตนสั่งการให้รวบรวมจัดทำเป็นหนังสือภาพแต่ละวันว่าในกทม. ต่างจังหวัดและต่างประเทศเป็นอย่างไร ทุกคนที่มาไม่ได้ถูกบังคับ เวลานี้เป็นช่วงที่ต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศ สังคมต้องเรียนรู้ว่าควรเป็นแบบไหนอย่างไร อย่าหลุดโลกกันอีกเลย
ของดละครน้ำเน่า/แย่งผัว-เมีย
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯและเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.)กล่าวเพิ่มเติมถึงเนื้อหาละครว่า ให้ผู้จัดพิจารณาตามความเหมาะสม นโยบายรัฐบาลคือ อยากให้ทุกอย่างเป็นปกติ เคยทำอะไรมาก็ทำต่อ ถ้าทำอยู่แล้วก็ฉายได้ เว้นแต่ละครบางเรื่องประเภทแย่งผัว แย่งเมีย ตบตีกันตลอด อยากให้เอาเรื่องอื่นมาแทนก่อนได้หรือไม่ ส่วนละครบางเรื่องอาจมีช่วงขำๆในบทบางตอนก็ไม่เป็นไร หรืออาจเอาละครแนวสืบสวนสอบสวน ประวัติศาสตร์ เรื่องรักประโลมโลกที่ไม่มากนักสามารถนำมาฉายได้ ถ้าน้ำเน่ามากๆควรพิจารณา ไม่ถึงขั้นต้องส่งบทละครมาให้ตรวจ เพราะไม่มีการเซ็นเซอร์ใดๆ เราทราบดีว่าการขอความร่วมมืองดรายการรื่นเริง 30 วัน กระทบเรื่องโฆษณาต่างๆรัฐบาลอยากให้เดินหน้าไปได้ ส่วนสีของรายการโทรทัศน์กลับมาเป็นปกติ แต่ถ้าทางช่องจะใช้สีขาวดำ หรือสีหม่นก็ได้
ครม.ปลดล็อคกิจกรรมบันเทิง
พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงมติครม.ในเรื่องแนวทางจัดกิจกรรมบันเทิงหรือกิจกรรมต่างๆตามที่รัฐบาลขอความร่วมมือครบ 30 วันว่า นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมาได้ข้อสรุปและเสนอครม.ให้จัดกิจกรรมต่างๆได้ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายนเป็นต้นไป เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ และเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยจำแนกกิจกรรมเป็น 9 ลักษณะคือ
1.งานเทศกาลระดับประเทศ เช่น ลอยกระทง คริสต์มาส วันปีใหม่ ตรุษจีน 2.งานเทศกาลระดับจังหวัด เช่น งานกาชาด เทศกาลผีตาโขน 3.งานส่งเสริมเศรษฐกิจระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น เช่น งานกิจกรรมถนนคนเดิน งานประเพณีชนวัว 4.งานรื่นเริง วัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น ลิเก ลำตัด ดนตรี มหรสพ และการประกวดต่างๆ 5.กิจกรรมสถานบันเทิง เช่น ไนต์คลับ ผับ บาร์ 6.กิจกรรมที่จัดภายในโรงแรม เช่น การจัดประชุมสัมมนา งานเลี้ยงสังสรรค์ 7.การแสดงคอนเสิร์ต 8.งานตามประเพณีวัฒนธรรม เช่น งานกฐิน ผ้าป่า งานมงคลสมรส งานบวช และ 9.งานแข่งขันกีฬาทุกระดับ และกองเชียร์ อย่างไรก็ตาม ผู้จัดงานต้องพิจารณาความเหมาะสมให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้คำแนะนำและปรึกษากับภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้การใช้พื้นที่จัดกิจกรรมเป็นไปอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่
14พย.ให้ชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา
พ.อ.หญิงทักษดากล่าวต่อว่า ขณะที่การจัดรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์สามารถดำเนินการได้ตามปกติ โดยขอความร่วมมือผู้รับผิดชอบรายการพิจารณาความเหมาะสม และควรสอดแทรกรายการที่ให้ความรู้เพื่อการพัฒนาด้านต่างๆของประเทศ
สำหรับข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่รัฐให้ไว้ทุกข์มีกำหนด 1 ปี เช่นเดิม สำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวให้พิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนการลดธงครึ่งเสา 30 วัน ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีจะครบกำหนดวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ ดังนั้น วันที่ 14 พฤศจิกายนจะเป็นวันแรกในการชักธงเต็มเสาเหมือนเดิม
แห่ต่อแถวแลกเหรียญที่ระลึก
สำหรับบรรยากาศแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ที่กรมธนารักษ์เตรียมไว้ โดยมีเหรียญกษาปณ์ทองคำขัดเงา ชนิดราคา 16,000 บาท โลหะทองคำ ร้อยละ 96.5 เส้นผ่าศูนย์กลาง 26 มม. น้ำหนัก 15 ก. จำหน่ายเหรียญละ 30,000 บาท เหรียญกษาปณ์เงินขัดเงา ชนิดราคา 800 บาท โลหะเงินร้อยละ 92.5 เส้นผ่าศูนย์กลาง 35 มม. น้ำหนัก 22 ก. จำหน่ายเหรียญละ 1,600 บาท และเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 50 บาท เส้นผ่านศูนย์กลาง 36 มม. น้ำหนัก 21 ก. จำหน่ายเหรียญละ 50 บาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายจังหวัด มีประชาชนจำนวนมากมาต่อแถวตั้งแต่เช้ามืด เพื่อแลกเหรียญดังกล่าว แต่ด้วยความต้องการที่มีมากเกินกว่าจำนวนเหรียญทำให้หลายคนต้องผิดหวัง ส่วนคนที่ได้แลกเหรียญต่างรู้สึกดีใจมาก โดยจะเก็บเหรียญไว้เป็นที่ระลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ ๙
ราชบุรีกว่า3หมื่นคนแปรอักษร
ขณะเดียวกัน หลายจังหวัดจัดกิจกรรมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างที่จ.ราชบุรี นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผวจ.ราชบุรี นำข้าราชการ พสกนิกรทุกหมู่เหล่ากว่า 3 หมื่นคนร่วมแปรอักษรเป็นข้อความ “เลข ๙ ราชบุรีทำดีเพื่อพ่อ” พร้อมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีดังกึกก้อง และยืนสงบนิ่ง 9 นาทีเพื่อแสดงความอาลัยต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า หลายคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
อบจ.สุพรรณแปรอักษร“รักพ่อ”
ที่สำนักงาน อบจ.สุพรรณบุรี นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรี นำคณะผู้บริหาร สมาชิก เจ้าหน้าที่และประชาชนทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ เนื่องในวันสถาปนาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกล่าวถวายราชสดุดี และตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะสืบสานพระราชปณิธาน ให้เป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ด้วยการน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางดำเนินชีวิต จากนั้นร่วมกันแปรอักษร“รักพ่อ” และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงต้นไม้ของพ่อ และยืนไว้อาลัยและแสดงความจงรักภักดี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ทหารรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ
ส่วนที่หน้ากองบังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 72 ค่ายพิบูลสงคราม ต.ท่าแค อ.เมือง จ.ลพบุรี พ.อ.ชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผบ.กรมทหารปืนใหญ่ที่ 72 นำข้าราชการและครอบครัว หน่วยงานขึ้นตรง ร่วมแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมแปลอักษรเป็นเลข ๙ และยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยเป็นเวลา 1 นาที ก่อนร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
รร.พิจิตรอินเตอร์ร่วมแปรอักษร
ที่ร.ร.พิจิตร อินเตอร์ อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมภาคเรียนวันแรก นักเรียน คณะครู ผู้ปกครอง ศิษย์เก่ารวม 400 คนจัดพิธีแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยแปรอักษรเป็นเลข 9 ไทย ภายรูปในดวงใจ พร้อมข้อความคำว่า “พ่อ” ใต้รูปหัวใจ นอกจากนี้ ยังได้ยืนสงบนิ่งถวายอาลัยเป็นเวลา 89 วินาที พร้อมขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
นร.กาฬสินธุ์ถวายความอาลัย
เช่นเดียวกับที่ ร.ร.เซนต์ยอแซฟกาฬสินธุ์ บาทหลวงวีระพงค์ โพธิมล ผู้จัดการ ร.ร.เซนต์ยอแซฟกาฬสินธุ์ เป็นประธานประกอบพิธีถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปรับใช้ในสถานศึกษา โดยมีซิสเตอร์ทิพย์ภาพร งอยหล้า ผอ.ร.ร.เซนต์ยอแซฟกาฬสินธุ์ พร้อมคณะครู บุคลากร ผู้ปกครอง นักเรียนระดับชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2,500 คนร่วมงาน
เทคนิคตราดแต่งเพลงลูกสุดอาลัย
ด้านนายกิตติศักดิ์ พลอยงาม หรือเฟย นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคตราด ซึ่งเป็นผู้ที่แต่งและร้องเพลง“ลูกสุดอาลัย” พร้อมอัพคลิปลงยูทูบแสดงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีชาวเน็ตแห่ชมคลิปจำนวนมากเปิดเผยว่า ตนฝันถึงพระองค์ในคืนวันที่ 14 ตุลาคม วันรุ่งขึ้นจึงตั้งใจแต่งเพลงเพื่อพระองค์ แต่ตนเป็นเด็กรุ่นใหม่ได้เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์แต่ในสารคดีเฉลิมพระเกียรติ จึงได้พยายามรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อนำมาเขียนเพลงขึ้นใช้เวลา 7 วัน จึงได้เพลง ลูกสุดอาลัย ออกมา โดยได้รับความช่วยเหลือจาก สตูดิโออินดี้ รูม ในอ.เมืองตราดของนายอัจฉริยะ โชติจำรัส อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นห้องอัดเพลงที่ให้บริการฟรี พร้อมทั้งช่วยปรับแต่งทำนองเพลงด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี