14 พ.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผศ.ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Chaicharn Thavaravej" เปิดเผยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังกรณีนายองอาจ สาตรพันธุ์ สถาปนิก และศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2552 สาขาทัศนศิลป์ ประกาศถอนตัวจากโครงการเลขที่ 1 ถนนนิมมานเหมินท์ หรือ โครงการรินคำ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่ามา ระบุข้อความว่า
"รบกวนเพื่อนพ้องน้องพี่แชร์กันไปให้แพร่หลาย เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับนักลงทุน ให้กับลูกศิษย์ ให้กับชาวเมืองได้เห็นคุณค่าของเมืองที่เขามีกินมีใช้อยู่ทุกวันนี้ หากเขาไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ก็เท่ากับเป็นการทุบหม้อข้าวหรือฆ่าตัวตายอย่างช้าๆ ของพวกเราชาวเมืองที่จะต้องเกิด โต และตายในที่แห่งนี้ ในขณะที่นักลงทุนไร้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจะหนีไปหาสถานที่ทำลายล้างต่อไป แต่อย่าให้ถึงเวลานั้น ต้องช่วยกันตื่นตัว ปลุกสำนึกเสียแต่บัดนี้ เพื่อรักษามรดกที่บรรพชนมอบไว้ส่งทอดไปยังรุ่นต่อๆ ไป"
หลังจากชุมชนบนถนนเจริญประเทศ ย่านช้างคลาน เมืองเชียงใหม่ รวมตัวกันต่อต้านคอนโดเอื้ออาทรได้สำเร็จ ก็มีข่าวว่าศิลปินแห่งชาติ คุณองอาจ สาตรพันธุ์ สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการเลขที่ 1 ถนน นิมมานเหมินท์ หรือ โครงการรินคำ ถอนตัวจากโครงการนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากได้มีโอกาสออกแบบและคุมงานก่อสร้างเพียงประมาณ 15% เท่านั้นล่าสุดคุณองอาจได้ประกาศแจ้งความในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าได้วางมือจากโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมากที่โครงการที่สามารถยกระดับคุณภาพของเมืองโดยสถาปนิกผู้ออกแบบชั้นบรมครูท่านนี้ไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
เมื่อหยุดงานเพียงแค่นี้ การแก้ไขดัดแปลงแบบแบบเดิมของคุณองอาจอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ลงทุนและสถาปนิกที่รับช่วงต่อถัดไป จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าส่วนใดของโครงการรินคำเป็นผลงานออกแบบของคุณองอาจ สาตรพันธุ์เลย ถ้าหากผู้ที่มาสานต่อมีแนวคิดที่ไม่ประสาน สวนทางกับแนวคิดเดิมของคุณองอาจ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ด้วยสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการศึกษาสร้างสมผ่านประสบการณ์การทำงานเป็นเวลานานกว่าค่อนชีวิตจึงจะสามารถสร้างสรรค์งานที่ดีมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หลายๆ ท่านอาจสงสัยเหมือนผมว่าเหตุใดคุณองอาจจึงตกลงรับทำงานโครงการนี้ทั้งที่ลักษณะโครงการเป็นการลงทุนทางธุรกิจขนาดใหญ่มุ่งผลกำไรและผลตอบแทนรายได้ คำตอบคือคุณองอาจมี ความเชื่อมั่นในแนวคิดพื้นที่ร่วมสาธารณะ (public space) และ market hall หรือตลาดชุมชน ที่เป็นข้อเสนอต่อเจ้าของโครงการตั้งแต่เริ่มรับงาน
คุณองอาจเชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมสาธารณะควบคู่ไปกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยมองว่าโครงสร้างทางกายภาพนี้จะเอื้อต่อวัฒนธรรมชุมชนให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีงามของชาวเชียงใหม่เมื่อหลายปีก่อนฟื้นตัวกลับคืนมาดังเดิมอีกครั้งหนึ่ง
คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวสามารถใช้พื้นที่ ในส่วนที่ออกแบบให้เป็นที่ว่างสาธารณะหรือ public space เพื่อเดินเล่น พักผ่อน ชมงานศิลปะ ซื้อสินค้าพื้นเมือง โดยไม่สร้างบรรยากาศที่ถูก ยัดเยียดให้บริโภคและไม่เน้นดักทัวร์ต่างชาติหรือทัวร์กระทืบแต่เพียงอย่างเดียว นี่คือความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างงานสถาปัตยกรรมคุณภาพกับงานเพื่อการค้าทั่วไปไร้ซึ่งรสนิยม หวังเพียงผลกำไรโดยไม่สนใจในบริบทของเมืองที่ตนเองตักตวงผลประโยชน์
market hall ในโครงการนี้เป็นจุดเด่นข้อหนึ่งที่คุณองอาจวางแนวคิดให้เป็นตลาดสดสมัยใหม่อีกแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เน้นการขายผักและผลไม้และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรปลอดสารพิษ ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ เพื่อให้โอกาสคนเชียงใหม่ได้มีสุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีแต่ไม่จำเป็นต้องแพง
คุณองอาจเห็นว่า public space ลักษณะนี้เป็นเสน่ห์ของเมืองในจีน อินเดีย เนปาล ญี่ปุ่น และยุโรป ที่เมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ไม่มี การสร้าง public space ดังกล่าวขึ้นมาจะทำให้เชียงใหม่กลับมาเป็นเมืองที่น่าอยู่ โดยมีเอกลักษณ์ของตนเองเหมือนเช่นหลายเมืองทางภาคเหนือในอดีตจะต้องมี "ข่วงหรือลานเปิดโล่งเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ของคนเมือง"
ในการวางแผนเบื้องต้นคุณองอาจเห็นว่าโครงการนี้ควรมีร้านค้า ประเภทใดหรือกิจกรรมอะไรบ้าง เพื่อส่งเสริมด้านวัฒนธรรมหรือรสนิยมซึ่งเป็น "คุณค่า" มากกว่า "มูลค่า" ของโครงการ เช่น ควรมี gallery ในพื้นที่ของชั้นที่สามของอาคารที่ติดถนนนิมมานเหมินท์เพื่อส่งเสริมด้านวัฒนธรรมของเมือง มีร้านหนังสือเพื่อส่งเสริม การอ่านในชุมชน โดยคุณพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ผู้ก่อตั้งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ซึ่งได้รับการทาบทามจากคุณ องอาจให้มาเป็นที่ปรึกษาโครงการนี้เห็นด้วยที่โครงการจะมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืน ความเป็นท้องถิ่น
ถัดจาก market hall คือโครงการ ถนน arts & crafts ที่นิมมานเหมินท์ ซอย 1 เดิมที คุณองอาจตั้งใจให้บริเวณซอย 1 เป็นย่านการค้าที่เน้นงานฝีมือและงานศิลปะหัตถกรรมที่สำคัญของเชียงใหม่ โดยคุณองอาจเป็นผู้ทาบทามนิทรรศการ design week ซึ่งจัดขึ้นทุก 2 ปีของ TCDC ที่เชียงใหม่ช่วงต้นเดือนธันวาคมให้มาจัดแสดงที่นิมมานเหมินท์ ซอย 1 เพื่อช่วยโปรโมทโครงการและสนับสนุนแนว คิดด้าน arts and crafts avenue ขึ้นมาอีกแห่งหนึ่ง เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนของเมืองที่คนพื้นถิ่นได้ประโยชน์แล้วผู้ลงทุนโครงการรินคำยังจะได้รับความชื่นชมในความมีน้ำใจที่เอื้อเฟื้อพื้นที่ค้าขายเหล่านี้ให้เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันพื้นที่พาณิชย์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมานี้ก็จะดึงคนมายังโครงการดังกล่าวอย่างแยบยล
น่าเสียดายที่แนวคิดนี้ คงยากที่จะได้รับการสานต่อ และคงไม่สามารถก้าวข้ามการให้ความสำคัญทางเศรษฐกิจระยะสั้นแต่อย่างเพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงสภาพแวดล้อม ซึ่งได้พิสูจน์ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ภายใต้โครงการห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ คอนโดมิเนียม ที่พักอาศัยและโครงการอาคารพาณิชย์มากมายหลายโครงการ ที่ขาดวินัย ไม่เป็นระเบียบตามกฎกติกาของสังคมที่ควรจะเป็น สร้างความเสื่อมโทรมให้กับย่านนิมมานเหมินท์ และเมืองเชียงใหม่ลงทุกขณะ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยชาญ ถาวรเวช
อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร
อดีตคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
อดีตประธานสภาคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย
ขณะที่นายบัณรส บัวคลี คอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "Bunnaroth Buaklee" อธิบายเพิ่มเติมว่าโครงการดังกล่าวเป็นของนายตัน ภาสกรนที นักธุรกิจชื่อดัง และบทความของ ผศ.ชัยชาญ ถือเป็นการตีแสกหน้านายตัน โดยระบุตอนหนึ่งว่า "ปริศนาเรื่องศิลปินแห่งชาติถอนตัวจากเสี่ยตันที่เราฉงนสงสัยมาหลายวันได้รับการไขข้อข้องใจจากบทความตีแสกหน้าของอธิการบดีชัยชาญนี่เอง ไม่รู้ตอนนี้เสี่ยตันยังปกติสุขดีอยู่มั้ยนี่"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี