หอนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งสูงตระหง่านตาที่ตั้งอยู่บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนาแม่น้ำแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองราชบุรี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งนับได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอีกแห่งของเมืองราชบุรี จากประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าต่อกันมาหอนาฬิกาแห่งนี้ อยู่ก่อนยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ราวปีพ.ศ. 2482 หรือ 77 ปีก่อน และเป็นที่รู้จักกันคือ ตลาดสนามหญ้า หรือตลาดราชพัสดุ ที่แต่ก่อนจะเป็นสนามหญ้าถือได้ว่าเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองราชบุรี และยังมีหอนาฬิกาหรือสิ่งปลูกสร้างใด ในอดีตบริเวณแห่งนี้ มีหญ้าปลูกขึ้นเขียวขจีไปทั่วทั้งสนาม และมีน้ำพุตั้งอยู่ตรงกลางสนาม คนทั่วไปจึงเรียกติดปากว่า “สนามหญ้า” มาจนถึงปัจจุบัน

“สนามหญ้า” แห่งนี้เดิมเป็นสถานที่พักผ่อนออกกำลังกายและสนามเด็กเล่นของผู้คนในตลาดและที่อยู่ใกล้เคียงพอถึงเวลาตอนเย็นก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยมาตั้งขายอาหารของกินกันอย่างเรียงราย ตั้งแต่เวลาหกโมงเย็นจนถึงรุ่งเช้า กลายเป็นตลาดโต้รุ่ง เช่นเดียวกับตลาดโต้รุ่งองค์พระที่บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม และตลาดโต้รุ่งแห่งนี้ยังเป็นสถานที่แห่งเดียวในอดีตที่ชาวเมืองราชบุรี สามารถออกมาหาซื้อของกินได้ในเวลากลางคืน

ต่อมาในปี พ.ศ.2527 ทางราชพัสดุได้มีโครงการปรับปรุงตลาดโต้รุ่งสนามหญ้าให้มีระเบียบเรียบร้อยดูสวยงามมากยิ่งขึ้น จึงได้ทำการสร้างหลังคาคุมกันแดดกันฝนขึ้นอย่างถาวร และจัดแบ่งสันพื้นที่ขายของให้แก่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการเข้ามาขาย และได้ตั้งชื่อตลาดโต้รุ่งที่ปรับปรุงใหม่นี้ว่าตลาดราชพัสดุ สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นตลาดขายอาหารของกินตลอดทั้งวันมาจนถึงปัจจุบัน

และเมื่อเอ่ยถึงหอนาฬิกาตลาดสนามหญ้า คงไม่มีชาวราชบุรีคนไหนไม่รู้จักและไม่เคยมา ทุกครั้งที่เทศบาลเมืองราชบุรีได้จัดงานในโอกาสต่างๆ อาทิ ใส่บาตรปีใหม่ จัดงานวันเด็ก งานรื่นเริงอื่น และภายในสนามหญ้า จะมีอาหาร คาว หวาน มาจำหน่ายโดยเฉพาะร้านไอศกรีมเด่นไทย ที่อยู่คู่สนามหญ้ามาตลอด เมนูไอศกรีม แปลกๆ ชวนให้เด็กๆ ต้องมากิน และนั่งคุยกันท่ามกลางความร่มรื่นและมีน้ำพุโอ่งที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางสนาม สร้างตั้งแต่สมัยที่นายวิชัย มณีรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองราชบุรีขณะนั้น ที่ดินตรงนี้เป็นที่ราชพัสดุ ด้วยกาลเวลาทำให้หอนาฬิกาทั้งสี่ด้าน แสดงเวลาไม่ตรงกันบางด้านหยุด ขาดการดูแล จนเป็นเรื่องขำขันว่านัดเวลา โดยใช้หอนาฬิกาด้านทิศใด

ปัจจุบันบริเวณโดยรอบหอนาฬิกา ตลาดสนามหญ้าได้มีการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์ดูแล้วหน้าเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อน มีมุมถ่ายภาพที่สวยงาม โดยใช้หอนาฬิกาเป็นสัญลักษณ์ของการถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังมีอาหารหลากหลายให้เลือกรับประทาน สำหรับการเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกและอยู่ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ประมาณ 90-110 กิโลเมตร เท่านั้น ไม่มีเวลาปิดหรือเปิด เพราะมีร้านจำหน่ายกันตลอด 24 ชม.

สิริมงคล ไกรวงศ์วิชญ์