ลอยแพนับพัน

เหมืองทองอัคราสวนรบ.

เจอใช้มาตรา44ปิดกิจการ

‘วิษณุ’แจงหลังยุบ3องค์กร

ข้าราชการยังทำหน้าที่ต่อไป

คสช.ใช้อำนาจ ม.44 สั่งระงับต่อใบอนุญาตทำเหมืองแร่ทอง อ้างไม่ต้องการเอาชีวิตปชช.ไปเสี่ยง กพร.เตรียมแจ้ง บ.อัคราฯพร้อมเปิดช่องขอความเป็นธรรมกับศาลยุติธรรมได้ ด้าน บ.อัคราฯเลิกจ้างพนักงานสิ้นปีนี้ ยินดีจ่ายชดเชยตามกฎหมาย ย้ำไม่เคยทำอันตรายสิ่งแวดล้อม-สุขภาพ

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งที่72/2559 เรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา44ไปแล้วนั้น คำสั่งดังกล่าวสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับการอนุญาตให้สํารวจและทําเหมืองแร่ทองคํารวมถึงการต่ออายุประทาน บัตรเหมืองแร่ทองคํา และการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมแร่ทองคําไว้ จนกว่าคณะกรรมการนโยบายบริหารแร่แห่งชาติจะมีมติเป็นอย่างอื่น

ดังนั้นในส่วนของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.)จะแจ้งเรื่องการระงับการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมแร่ทองคํา ไปยังบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน) ที่ยื่นคำขอต่ออายุ ซึ่งบริษัทรับทราบเบื้องต้นแล้วและมีการทำความเข้าใจกับชาวบ้านกลุ่มที่สนับสนุนบริษัทอัคราฯ โดยแจ้งให้ทราบว่ามีชาวบ้านบางส่วนได้รับผลกระทบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานของรัฐทั้งในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะดูแลฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในบางส่วนของพื้นที่เหมืองที่ไม่ได้ดำเนินการ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชน

ส่วนเรื่องแรงงานที่ได้รับผลกระทบ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมจะเข้าไปดูแลเรื่องการจ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างและ การฝึกฝีมือแรงงานเพื่อเข้าสู่อาชีพใหม่จะเป็นขั้นตอนช่วยเหลือที่จะต่อเนื่อง ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข จะทำหน้าที่เฝ้าระวังด้านสุขภาพของประชาชนโดยรอบเหมืองเช่นเดิมมีการดูแลเรื่องฝุ่น เสียง เรื่องน้ำที่มีการร้องเรียนเสมอว่ามีการปนเปื้อนของไซยาไนด์ในพื้นที่แปลงนา ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดไม่พบการรั่วของไซยาไนด์แต่อย่างใด และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบพื้นที่บ่อพักน้ำจากเหมืองทองคำว่ามีการรั่วไหลออกมาหรือไม่ โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบจากญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้มหาวิทยาลัยนเรศวรลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบผลกระทบต่อชุมชนซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าคำสั่ง ม.44 ออกมาไม่ตัดสิทธิ์ผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้อง ค่าเสียหายจากทางราชการตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ เอกชนจึงสามารถยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมกับศาลยุติธรรมได้ ส่วนที่ประชาชนอาจมองว่าเอกชนที่ได้รับผลกระทบจาก ม.44 อาจฟ้องหน่วยงานรัฐเพื่อเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลนั้น เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญผลกระทบต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ของประชาชน มองชีวิตของประชาชนมีค่า การพัฒนาประเทศก็สำคัญซึ่งต้องพิจารณารายละเอียดผลกระทบ และเชื่อว่าหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดก็ตาม คงไม่เอาเรื่องชีวิตของประชาชนเข้าไปแลกไปเสี่ยงแต่เรื่องนี้ภาครัฐสามารถบริหารจัดการได้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคสช.ที่72/2559เรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคําระบุว่าจากที่มีการร้องเรียนการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคําว่าสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนรวมถึงปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ทําเหมืองแร่ทองคํา ซึ่งยังต้องรอการตรวจสอบ หัวหน้าคสช.จึงมีคําสั่งให้มีคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติและให้ผู้มีอํานาจในการออกอาชญาบัตร ประทานบัตร และใบอนุญาตประกอบโลหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ระงับการอนุญาตให้สํารวจและทําเหมืองแร่ทองคํา รวมถึงระงับการต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ทองคําและการต่ออายุใบอนุญาตอีกทั้งให้ผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคํา ระงับการประกอบกิจการไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2560จนกว่าคณะกรรมการจะมีมติเป็นอย่างอื่น

และให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน ร่วมกันแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หลังการให้ระงับการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคํา รวมถึงให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกันตรวจสอบปัญหาพร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ปัญหาการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตพื้นที่กิจการเหมืองแร่ทองคําและพื้นที่ใกล้เคียง หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน1ปีหรือปรับไม่เกิน20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ คําสั่งดังกล่าวให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่งณ วันที่ 13ธันวาคม 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช

ด้าน นายเกรก ฟาวลิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวกรณีมีประกาศคำสั่ง คสช.เรื่อง การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำว่าอัคราฯดำเนินกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี รู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่มีประกาศใช้คําสั่งหัวหน้า คสช.ใช้อํานาจตาม มาตรา44 ให้ผู้ประกอบการต้องระงับการประกอบกิจการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป จนกว่าคณะกรรมการจะมีมติเป็นอย่างอื่น ดังนั้นบริษัทฯจำ ต้องยื่นจดหมายเลิกจ้างให้กับพนักงานทุกคนในบริษัท มีผลทันทีวันที่ 31 ธันวาคม 2559 และ บางส่วนจะมีผลในวันที่ 31 มกราคม และ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ตามลำดับ

“โดยบริษัทฯจะรับผิดชอบจ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างงานให้กับพนักงานทุกคนตามกฏหมายอย่างครบถ้วน ซึ่งพนักงานจะได้รับเงินค่าเลิกจ้างสูงสุดถึง300วันและอัคราฯขอยืนยันอีกว่าบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและถูกต้องเสมอมา ขอยืนยันว่าไม่เคยดำเนินการใดๆที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชนที่เปิดดำเนินการ

วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายกล่าวถึงกรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่71/2559 เรื่อง การยกเลิกกฎหมายว่าด้วยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยสภาพัฒนาการเมือง และกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายว่า คณะกรรมการส่วนใหญ่ในทั้ง 3 หน่วยงาน ก็ครบวาระไปแล้ว หลังจากนี้จะมีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปออกมา ซึ่งมียุทธศาสตร์และการปฏิรูปเกี่ยวกับการเมืองอยู่ด้วยจึงไม่ควรมีหน่วยงานซ้ำซ้อนกันอยู่จึงให้ยกเลิกกฎหมายทั้งหมดเพื่อป้องกันการทำงานซ้ำซ้อน

ส่วนในสำนักงานทั้ง 3 องค์กรนั้น ยังให้คงอยู่ ข้าราชการก็ยังให้ทำงานต่อไปซึ่งตอนนี้ก็มีหน่วยงานต่างๆแสดงความจำนงมาขอบุคคลากรไปทำงานด้วยโดยจะต้องมีการจัดสรรต่อไปซึ่งทั้ง3องค์กร มีบุคคลากรรวมประมาณ 400 คน ขอยืนยันจะพยายามไม่ให้มีผลกระทบต่อข้าราชการ ยกเว้น พนักงานอัตราจ้างที่จ้างเป็นรายปี เมื่อหมดสัญญาจ้าง ก็ต้องเลิกจ้างไป ส่วนที่เป็นข้าราชการก็ได้อยู่ทำงานต่อและจะเลือกให้ได้ทำงานต่อในหน่วยงานที่ใกล้ที่ทำงานเดิมและตรงตามความสามารถมากที่สุด

ขณะที่ นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่าได้เห็นคำสั่งแล้วซึ่งมีผลให้กรรมการองค์กรสิ้นสุดลง ในส่วนสำนักงานและกองทุนสภาพัฒนาการเมือง ยังคงอยู่ การที่คสช.ใช้มาตรา44 ออกคำสั่งเช่นนี้เป็นการยุติการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง แม้จะอ้างเป็นการยุบองค์กรเพื่อรอความชัดเจนของแผนยุทธศาสตร์ก็ตาม หากวันข้างหน้าจะมีองค์กรใหม่มาทำหน้าที่แทนสภาพัฒนาการเมือง ถือเป็นเรื่องดี ถ้าไม่มี ก็ถือว่าทุกอย่างที่เราทำมา เป็นสูญ ทำให้การพัฒนาการเมืองชะงักจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

ด้านนางสุนี ไชยรส คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมา (คปก.)กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 71/2559 กรณียุบ 3 หน่วยงานว่า คำสั่งที่ใช้อำนาจมาตรา 44 ยุติบทบาทขององค์กรสืบเนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ ไม่มีองค์กรคปก.ในร่างรัฐธรรมนูญต่อไป ซึ่งการปฏิรูปกฎหมายที่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเป็นองค์กรที่มีอิสระ ก็จะไม่มีอีกต่อไป จะเป็นการร่างกฎหมายของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในการปฏิรูปกฎหมายแทนโดยที่ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน จะไม่มีใครเห็นร่าง ซึ่งคำสั่งนี้ เป็นการทำลายเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ 2550ที่ตั้งองค์กร คปก.เพื่อปฏิรูปกฎหมาย ให้ยึดโยงกับภาคประชาชน เป็นอิสระปราศจากการครอบงำของรัฐ แต่ร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ และ คำสั่งนี้ ถือเป็นการตัดตอนการปฏิรูปกฎหมาย ที่อาจกลายโฉม เป็นการปฏิรูปกฎหมายโดยภาครัฐแทน ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด