ระยองปล่อยสัตว์น้ำถวายเป็นพระราชกุศล

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีนายวีระพล พวงพิทยาวุฒิ ผู้อำนวยการสายงานองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บีแอลซีพี นายสงกรานต์ แสงจันทร์ ประมง จ.ระยอง พร้อมผู้นำชุมชน กลุ่มประมงเรือเล็ก นักเรียน ร่วมกันปล่อยสัตว์น้ำ อาทิ ปูกระดองไข่ ปลาหมึก ปลากระพง หอย กุ้ง พร้อมกับวางท่อ ปะการังเทียม เพื่อให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ และเก็บขยะตามชายหาด ที่บริเวณกลุ่มประมงเรือเล็กหาดแสงเงิน ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง

นายสุรศักดิ์กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นด้วยสำนึกพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ร่วมกับประมง จ.ระยอง และกลุ่มอุตสาหกรรม ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำและเก็บขยะชายหาด ถวายเป็นพระราชกุศล โดยพันธุ์สัตว์น้ำที่ปล่อยลงสู่ทะเล มี 5 ชนิด คือ กุ้งกุลาดำ 1,845,000 ตัว หอยหวาน 30,000 ตัว ปลากะพงขาว 10,000 ตัว หมึกหอม 5,000 ตัว แม่ปูไข่นอกกระดอง 1,999 ตัวรวมทั้งสิ้น 1,889,999 ตัว

มรภ.กรุงเก่าจัดงาน ‘พระราชาผู้ทรงธรรม’

นายวิทยา บุรณศิริ นายกสมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าสมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา และมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) พระนครศรีอยุธยา เตรียมจัดงาน “พระราชาผู้ทรงธรรม กลางใจราษฎร์ กลางใจทุ่งกลางใจกรุง ศรีอยุธยา” ที่บริเวณข้างวัดพระราม อุทยานประวัติศาสตร์บึงพระราม เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนาม “ราชภัฏ” และตราประจำมหาวิทยาลัย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเกียรติยศสูงสุดแก่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วพระราชอาณาจักร โดยนาม “ราชภัฏ หมายความว่า เป็นคนของพระราชา”

โดยทางสมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา ได้จัดการประชุมเพื่อจัดงานแสดงความไว้อาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จุดเทียนอาลัยและจัดงาน 111 ปี จากฝึกหัดครูสู่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับจัดกิจกรรม666 ปี กรุงศรีอยุธยา ซึ่งในครั้งนี้ได้จัดกิจกรรมหลากหลายโดยเชิญชวนหน่วยงานต่างๆ ร่วมงาน ใช้ชื่อ พระราชาผู้ทรงธรรม กลางใจราษฎร์ กลางใจทุ่ง กลางใจกรุง “ศรีอยุธยา” ซึ่งกำหนดการจัดงานขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม 2559 ที่ลานวัดพระราม

บีโอไอภาค1หนุนเขตศก.พิเศษเชียงราย

นางอรพิน สวัสดิ์พานิช ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุน (บีโอไอ) ภาคที่ 1เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 นี้ มีโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนในภาคเหนือ จำนวน 90 โครงการมูลค่าการลงทุน 16,074 ล้านบาท โดยพบว่าโครงการส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร มีจำนวน 21 โครงการ วงเงินลงทุน 4,418 ล้านบาท ขณะที่โครงการที่อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในภาคเหนือ 9 เดือนแรกของปีนี้ส่วนใหญ่เป็นกิจการเป้าหมายที่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐมากถึง 50 โครงการ เงินลงทุน 18,136 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินค้าเกษตร มีการลงทุนมากถึง 34 โครงการ เงินลงทุน 18,068 ล้านบาท อาทิกิจการผลิตหรือถนอมอาหาร เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ อาหารแช่แข็ง กิจการขยายพันธุ์ปศุสัตว์หรือสัตว์น้ำ และกิจการผลิตอาหารสัตว์ เป็นต้น นางอรพินกล่าวต่อว่า นอกจากการส่งเสริมการลงทุนทั่วไปในพื้นที่ภาคเหนือแล้ว พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ก็เป็นเป้าหมายสำคัญของการส่งเสริมการลงทุนให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะ จ.เชียงราย ที่ถูกวางให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครอบคลุมพื้นที่ 21 ตำบล ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย เชียงแสน และเชียงของ อย่างไรก็ตาม แม้การลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย จะยังไม่คึกคักมากนัก แต่มั่นใจว่าในอนาคตจะเป็นพื้นที่การลงทุนที่สำคัญ

ปัตตานีจัดกิจกรรมไกล่เกลี่ยเชิงสมานฉันท์

ที่โรงแรมปาร์ควิวรีสอร์ท จ.ปัตตานี นายไพโรจน์ จริตงาม ปลัดจังหวัดปัตตานีเป็นประธานเปิดกิจกรรมอำนวยความเป็นธรรมและการไกล่เกลี่ยเชิงสมานฉันท์ลดความขัดแย้ง สร้างความสงบสุขสู่ชุมชน ภายใต้โครงการปัตตานีเมืองแห่งสันติสุขตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 7)พ.ศ.2550 มาตรา 61/2 โดยได้กำหนดให้อำเภอมีคณะบุคคลผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทของประชาชนที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอในเรื่องที่พิพาททางแพ่ง เกี่ยวกับที่ดิน มรดก และข้อพิพาททางแพ่งอื่นที่มีทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท และได้มีการออกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง พ.ศ.2553 ขึ้น