10 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอหนองแสง พล.ต.ศุภชัย ศุภเมธี รอง ผอ.รมน.อุดรธานี , นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ศปป.2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมป่าไม้ , นายบุญเลิศ วรวงษ์ นายอำเภอหนองแสง , พ.ต.อ.วิเชียร สุนทรพินิจ ผกก.สภ.หนองแสง , นายสมเกียรติ ชั้นบุญใส ผอ.ส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) , นายณรงค์ พระยาลอ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อด.2 หนองวัวซอ, ร.ต.ท.อนันต์ บุตรดีคำ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส.อุดรธานี , ร.ท.สนธนา บุตรดี ผบ.ชป.รส.ร.13 , พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร.13 พัน 2 , ตำรวจ , อส. , ชรบ. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ รวมกว่า 50 นาย ได้ร่วมสนธิกำลังเพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าพันดอน ป่าปะโค หมู่ 2 ต.ทับกุง อ.หนองแสง ที่มีนายทุนเข้าบุกรุกพื้นที่ปลูกต้นยางพารา ต้นยูคาลิปตัส จำนวน 411-2-75 ไร่ ที่เป็นที่ป่าสงวนฯ อยู่กลางหุบเขาของเทือกเขาภูพานน้อย
หลังจากที่ก่อนหน้าทางเจ้าหน้าที่ของ ศปป.2 ได้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมตัดต้นยางและต้นยูคาลิปตัส ในพื้นที่ไปแล้วบางส่วน หลังจากนั้นจึงปิดป้ายประกาศยึดคืนผืนป่าแปลงดังกล่าว เพื่อเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
พล.ต.ศุภชัย ศุภเมธี รอง ผอ.รมน.อุดรธานี เปิดเผยว่า การสนธิกำลังเข้าปฏิบัติงานวันนี้ ได้เข้าทำการตรวจยึดผืนป่าในเขตพื้นที่ อ.หนองแสง จำนวน 411-2-75 ไร่ ตามมาตรา 25 ที่ส่วนใหญ่ถูกบุกรุกจากนายทุนนอกพื้นที่ ที่เข้ามาปลูกยางพาราและยูคาลิปตัส โดยหลังจากยึดคืนจะดำเนินการให้กับราษฎรที่ยากจนในพื้นที่เข้าทำกินตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะจัดสรรให้ในลักษณะเป็นที่ดินส่วนรวม ไม่ได้ให้มอบให้ผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งการปฏิบัติงานวันนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ที่สามารถนำพื้นที่นี้กลับคืนมาเพื่อจะให้กับราษฎรที่ยากจน โดยหลังจากที่มีการดำเนินคดีกับทางนายทุนที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าแห่งนี้เรียบร้อยแล้ว หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง อ.หนองแสง จะเข้ามาฟื้นฟูพื้นที่ ก่อนจะให้ทางราษฎรที่ยากจน เข้ามาร่วมทำกินใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่อไป
นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ศปป.2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า พื้นที่บริเวณนี้ได้ถูกนายทุนนอกพื้นที่ เข้ามาบุกรุกทำลาย เพื่อปลูกยางพารา และยูคาลิปตัส รวมแล้วหลายร้อยไร่ โดยกรมป่าไม้ ทาง ศปป.2 ได้รับนโยบายจากรัฐบาล ติดตามทวงคืนผืนป่าจากกลุ่มนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่า ในการจัดสรรให้ราษฎรที่ยากจนมีที่ดินทำกิน ตามโครงการนำร่องดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ทางคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช.เข้ามา ดำเนินการจัดที่ทำกินให้กับราษฎรที่ยากจน โดยดำเนินการไปแล้ว 2 จังหวัดคือเชียงใหม่และน่าน โดยทำในรูปแบบแปลงรวม ไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดเป็นเจ้าของเอกสารสิทธิ์ มิฉะนั้นก็จะกลับไปเป็นรูปแบบเดิม คือ เวลาผ่านไป ก็จะเปลี่ยนมือไปอยู่กับนายทุน
ทั้งนี้ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติของ จ.อุดรธานี ถูกบุกรุกทั้งจากนายทุนและราษฎร รองจาก จ.เลย เป็นอันดับ 2 ของภาคตะวันอออกเฉียงเหนือหลายหมื่นไร่ วันนี้ทาง ศปป.2 เข้ามาดำเนินการยึดคืนผืนป่าเป็นการนำร่องเป็นพื้นที่แรก ร่วมกับทาง กอ.รมน.จังหวัดอุดรธานี ซึ่งหลังจากนี้เราจะรวบรวมหลักฐานการเข้าบุกรุกป่า เพื่อแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองแสง ในการติดตามหาตัวนายทุนที่เข้ามาบุกรุกกระทำความผิด เพื่อนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี