27 ม.ค.61 จากกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร้องเรียนว่าปัจจุบันมีปัญหาขยะติดเชื้อตกค้างจากโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในพื้นที่เมืองพัทยาและใกล้เคียง ที่เมืองพัทยาได้ขนมาพักไว้ในโรงกำจัดขยะในพื้นที่ ม.4 ต.เขาไม้แก้ว นานกว่า 1 เดือนเพื่อรอนำไปกำจัด จนมีปริมาณขยะติดเชื้อสะสมกว่า 120 ตัน ซึ่งกรณีดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนรำคาญและส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก เนื่องจากขยะเหล่านี้ซึ่งเป็นขยะติดเชื้อไม่มีระบบบริหารจัดการที่ดีทำให้เกิดมลพิษทางกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง อีกทั้งยังมีน้ำเน่าเสียไหลออกจากกองขยะลงสู่แหล่งน้ำทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก
เบื้องต้นทาง อบต.เขาไม้แก้ว ได้ประสานทางอำเภอบางละมุงและเมืองพัทยา เพื่อขอให้หยุดการนำขยะติดเชื้อเหล่านี้เข้ามาพักในพื้นที่อีกและเร่งขนถ่ายขยะทั้งหมดออกไปโดยเร็ว พร้อมมีแผนที่จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับสมปทานหากนำขยะมาทิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ต่อมาจากการหารือร่วมรับแจ้งจากเมืองพัทยาว่าปัญหาเกิดจากเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างทำให้เกิดความล่าช้าจนมีขยะตกค้าง แต่ปัจจุบันได้ว่าจ้างภาคเอกชนจำนวน 2 รายเข้ามาดำเนินการจัดเก็บ และขนส่งเพื่อไปทำลาย พร้อมจะเร่งดำเนินการในแล้วเสร็จใน 20 วันนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วย นายจำเนียร กีทีปกูล นายก อบต.เขาไม้แก้ว พร้อมตัวแทนจากเมืองพัทยา ตัวแทนภาคเอกชนที่รับการกำจัดและเก็บขน รวมทั้งผู้นำชุมชนในพื้นที่ ร่วมลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าของการดำเนินการขนย้ายขยะติดเชื้อดังกล่าวออกจาก ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยพบว่าหลังที่ทาง อบต.เขาไม้แก้วงอนุมัติให้เข้ามาเก็บขนได้ 2 วันจากปริมาณขยะตกค้างกว่า 120 ตันพบว่าปริมาณขยะติดเชื้อลดลงเป็นที่น่าพอใจ
ด้าน นายณัฐวุฒิ บุรารักษ์ ผู้จัดการ บ.มิสไนติงเกล เฮลแคร์ จำกัด ซึ่งรับสัมปทานการเก็บขนขยะติดเชื้อเพื่อนำไปกำจัด เปิดเผยว่าหลังได้รับการอนุมติก็นำรถขนขยะติดเชื้อแบบมาตรฐาน พร้อมกำลังคนเข้ามาเร่งขนย้ายขยะไปทำลายที่เตาเผาที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณขยะลดลงไปแล้วกว่า 14-15 ตัน และเสร็จทันกำหนดแน่นอน อย่างไรก็ตามทางบริษัทยังสามารถเพิ่มปริมาณการขนถ่ายขยะให้มากขึ้นได้ เพื่อให้การเก็บรวดเร็วขึ้น โดยในวันพุธหน้านี้จะนำรถเข้ามาเพิ่มอีก 1 คัน และเพิ่มเที่ยวการขนถ่ายไปกำจัดอีก 1 เที่ยวรวมเป็น 3 เที่ยวต่อวัน
ซึ่งจะทำให้ปริมาณขยะติดเชื้อหมดลงเร็วขึ้น ขณะที่ทางโรงเตาเผาขยะที่ จ.นคร สวรรค์ก็สามารถรับได้ถึง 20 ตันต่อวัน เพียงแต่อาจติดปัญหาเรื่องของข้อกฎหมายที่รถขนขยะติดเชื้อ 1 คันจะสามารถบรรทุกขยะรวมน้ำหนักรถได้เพียง 15 ตัน ซึ่งที่จริงสามารถบรรทุกได้กว่า 20 ตัน ซึ่งหากมีการประสานงานร่วมกับกรมทางหลวงในระหว่างการเดินทางก็จะทำให้ปัญหายุติเร็วกว่าเดิมแน่นอน ขณะที่ในอนาคตจะใช้พื้นที่ใดเป็นจุดพักขยะนั้นคงตอบไม่ได้ คงต้องเป็นเรื่องของเมืองพัทยากับทาง อบต.เขาไม้แก้วที่จะประสานและเจราจากันต่อไป
ด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า การเดินทางลงมาสำรวจครั้งนี้ เพราะเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ปัญหาขยะติดเชื้อตกค้าง อีกทั้งยังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและร้องเรียนไปเป็นจำนวนมากจึงต้องลงสำรวจเพื่อหาทางพิจารณาแก้ไขร่วมกับท้องถิ่น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันทางภาคเอกชนได้เริ่มทำการเก็บขนขยะไปกำจัดแล้ว เพียงแต่พบว่าได้เพียงจำนวนจำกัด ซึ่งแม้จะทันตามข้อตกลงแต่ก็อยากให้ปริมาณขยะติดเชื้อตกลงหมดไปโดยเร็วกว่ากำหนด จึงได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนให้เพิ่มจำนวนรถและกำลังคนให้มากขึ้น ซึ่งตามกฎหมายรถเหล่านี้จะขนขยรวมน้ำหนักรถได้เพียง 15 ตัน เมื่อยกน้ำหนักรถออกจำนวน 9 ตันก็จะทำให้ขนได้เพียง 7 ตัน เมื่อดำเนินการ 2 เที่ยวก็จะได้เพียง 15 ตันต่อวัน ซึ่งจากหารือทางบริษัทก็รับปากว่าจะเพิ่มปริมาณรถให้
ขณะที่จำนวนบรรทุกขยะนั้นตามความเป็นจริงแล้วรถ 1 คันจะสามารถบรรทุกขยะติดเชื้อได้ถึง 10-111 ตันต่อคัน แต่ติดปัญหาด้านการขนส่ง ซึ่งส่วนตัวจะประสานไปยังเมืองพัทยาเพื่อให้จัดทำหนังสือและเอกสารประสานไปยังกรมทางหลวง เพื่อขอความร่วมมือในการเพิ่มน้ำหนักบรรทุกเพื่อให้มีการขนถ่ายมากขึ้น และจะทำให้ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนหมดไปโดยเร็ว ซึ่งหากดำเนินการได้ก็คาดว่าจะขนถ่ายขยะติดเชื้อที่ตกค้างกว่า 120 ตันหมดเร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิมประมาณ 1 อาทิตย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี