รอง ผวจ.กระบี่ อึ้ง! ตรวจสอบน้ำเสียโรงแรม 5 ดาวเกือบทุกแห่ง พบต่อท่อจ่อลงชายหาด ไม่ผ่านการบำบัด จ่อตรวจในแหล่งทุกเที่ยวทุกแห่ง ฮึ่ม!พบผิดฟันไม่เลี้ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ ว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค.61 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัด(ผวจ.) กระบี่ มอบหมายให้ ว่าที่ ร.ต.อภินันท์ เผือกผ่อง รองผวจ.กระบี่ นำชุดปฏิบัติการพิเศษสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโรงแรม ที่พัก และร้านอาหาร บริเวณชายหาดทับแขก หมู่ 3 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงทะเลกันอย่างโจ่งแจ้ง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำให้นักท่องเที่ยวที่ลงไปเล่นน้ำบริเวณชายหาด มีอาการคันตามผิวหนัง และมีกลิ่นเหม็น สร้างความรำคาญให้แก่นักท่องเที่ยวและทำลายภาพพจน์ของการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียของโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวน 5 แห่ง และร้านอาหารจำนวน 1 แห่ง พบว่าทุกแห่งมีการต่อระบบท่อลงชายหาด และมีน้ำไหลตลอดเวลา บางแห่งน้ำมีกลิ่น โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบโรงแรม 3 แห่ง ที่ปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเลโดยไม่มีการบำบัด พร้อมกันนี้ได้เก็บตัวอย่างน้ำที่ปล่อยลงสู่ทะเลจากสถานประกอบการทุกแห่ง ส่งไปตรวจสอบยังสำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 15 รวมทั้งให้รื้อท่อที่รุกล้ำชายหาดสาธารณะ และให้จัดทำระบบการกรองน้ำก่อนปล่อยลงทะเลทุกจุด

ว่าที่ ร.ต.อภินันท์ กล่าวว่า ภายหลังจากการตรวจสอบตามข้อร้องเรียน พบว่า ทุกโรงแรมของหาดทับแขก มีการต่อท่อระบายน้ำจากบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงแรม จ่อลงทะเลทุกแห่ง เชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลแล้วมีอาการคัน เบื้องต้นได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามีการวางท่อรุกล้ำพื้นที่สาธารณะหรือไม่ หากรุกล้ำก็จะให้ทำการรื้อถอนทันที  สำหรับหาดทับแขกเป็นย่านที่ตั้งของโรงแรมระดับ 5 ดาว นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเท่านั้นที่สามารถเข้าพักได้

“หลังจากนี้จะเข้าตรวจตรวจสอบบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงแรม และสถานประกอบการร้านอาหาร จะดำเนินการต่อเนื่องให้ครบทุกแห่งในแหล่งท่องเที่ยวหลัก ทั้งเกาะพีพี อ่าวนาง เกาะลันตา และหนองทะเล โดยไม่มีการเลือกปฎิบัติ เพื่อลดปริมาณน้ำเสียที่มีการปล่อยลงสู่ทะเลให้น้อยที่สุด เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและหากโรงแรมหรือสถานประกอบการใดที่ตรวจสอบแล้วดำเนินการไม่ถูกต้อง หรือไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งภายในกำหนด จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” ว่าที่ ร.ต.อภินันท์ กล่าว