5 ก.พ.61 จากกระแสข่าวว่า มีนักดำน้ำในพื้นที่ ริมแม่น้ำประแสร์ ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง มีการกล่าวถึงการพบเรือสมบัติอยู่ใต้ทะเลระยอง ในพิกัดระหว่างเกาะมันนอก ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง หรือที่ชาวประมงเรียกกันมาตั้งแต่โบราณว่า จุดกองหินเมย์ หลังข่าวแพร่กระจายออกไป ทำให้บรรดานักดำน้ำต่างฮือฮา พากันลงไปสำรวจในบริเวณดังกล่าวตามคำร่ำลือ แต่ส่วนใหญ่ไม่พบ เพราะไม่มีการเปิดเผยจุดพิกัดที่แน่นอน ประกอบกับน้ำลึกถึง 20 เมตร จึงทำให้นักดำน้ำที่ไม่ผ่านการฝึกดำน้ำลึกลงไปไม่ถึงจุดดังกล่าว
นายอนุรักษ์ ดีนาน ประธานสภาเทศบาลตำบลเนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง เมื่อสอบถามถึงเรือสมบัติที่มีการลือกัน ก็บอกว่าเป็นเรื่องจริง พร้อมทั้งพาไปพบกับนักดำน้ำในพื้นที่ ที่เป็นคนค้นพบเรือสมบัติตามที่ร่ำลือกัน ซึ่งนักดำน้ำคนดังกล่าว คือนายวิเชียร สิงโตทอง อายุ 57 ปี นักดำน้ำมือฉมังของพื้นที่ ที่รีสอร์ทรินธารา ริมแม่น้ำประแสร์ เมื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว ก็ยืนยันว่าเป็นความจริง พร้อมทั้งนำภาพสเก็ตรูปร่างเรือมาแสดงพร้อมกับเหรียญกษาปณ์ยุค ร.5 ตอนปลาย และ ยุค ร.6 ตอนต้น ระบุปี พ.ศ.2459 และตังค์รู ที่อ้างว่าเก็บได้จากบริเวณตัวเรือที่พบ เมื่อครั้งแรกที่ลงไปดำหาปลาลำพังคนเดียว เมื่อ 25 ปีก่อน เมื่อปี พ.ศ.2555
โดยนายเปรม วัชรางกูร หัวหน้าโบราณคดีใต้น้ำค่ายเนินวง กรมศิลปากร จ.จันทบุรี ได้พาคณะครูและนักศึกษาเกี่ยวกับโบราณคดีใต้น้ำ มาขอความร่วมมือจากตน ให้ช่วยหาสถานที่ฝึกดำน้ำลึกประมาณ 20 เมตร จึงนึกขึ้นได้ว่าจุดที่เคยพบซากเรือโบราณ มีความลึกประมาณ 20 เมตร จึงพากันลงไปดำ ซึ่งนักศึกษาต่างก็ตื่นตะลึงกับเรือลำดังกล่าว แต่ก็ไม่มีใครเข้าใกล้ แต่มีนักศึกษาคนหนึ่งเข้าไปในตัวเรือแต่ก็รีบออกมา พร้อมกับแสดงท่าทางบอกว่า ต้องการขึ้นผิวน้ำจึงรีบพาขึ้น เมื่อสอบถามก็บอกด้วยอาการปากคอสั่น หวาดกลัวอย่างรุนแรง หลังตั้งสติได้จึงเล่าว่า เจอภาพคนนั่งกันอยู่ในเรือแล้วก็หายไปต่อหน้า ซึ่งในคืนนั้นนักศึกษาคนดังกล่าว ก็ฝันผวาทั้งคืนว่ามีคนตามมา จึงพาไปทำบุญอาบน้ำมนต์และก็ไม่พาลงไปในจุดเดิมอีก
ต่อมาทางนายเปรม วัชรางกูร หัวหน้ากลุ่มโบราณคดีค่ายเนินวง กรมศิลปากร จ.จันทบุรี และครูฝึกดำน้ำชื่อว่า ครูบิลลี่ ได้มาปรึกษากับตนว่าต้องการลงไปสำรวจเรือโบราณ ซึ่งทางตนก็แนะนำว่าต้องทำพิธีขอขมาก่อน หลังทำพิธีบนเรือบอกกล่าวว่า หากสิ่งไหนที่ต้องการให้ข้าพเจ้าทั้งสองนำขึ้นมาก็ขอให้เห็น หากไม่ต้องการให้ก็อย่าปรากฎให้เห็น แล้วก็ดำน้ำลงไปทันที เมื่อดำลงไปถึงตัวเรือก็เริ่มทำการตรวจสอบเรือ โดยการวัดตัวเรือ ยาว 41.20 ม. กว้าง 6.5 ม. สำรวจในเรือพบว่าเป็นเรือกลไฟ เพราะมีเครื่องกลอยู่ในเรือ และยังพบกองฟืนหนึ่งกอง พอใช้มือปัดทราย ก็ต้องตะลึง เพราะเหรียญเงินลอยกระจายขึ้นมามากมาย จึงช่วยกันเก็บใส่ถุงได้มากกว่าหนึ่งพันเหรียญ เป็นเหรียญยุค ร.5 ตอนปลาย และยุคร.6 ตอนต้น ด้านหนึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 อีกด้านเป็นรูปช้างสามเศียรและตราแผ่นดิน และยังมีสตางค์รูรวมอยู่ด้วย
พอค้นหาต่อไปพบกับกระดุมเสื้อ คาดเป็นของกัปตันเรือ ซึ่งเป็นกระดุมทองคำจำนวนหนึ่ง หวูดเรือทำจากทองเหลือง ขอบหน้าต่างเรือฉลุจากทองเหลือง และขอบโต๊ะทองเหลือง รวมถึงเครื่องปั้นดินเผา ทั้งถ้วยชามอีกจำนวนหนึ่ง จึงคาดว่าเรือดังกล่าวต้องเป็นของคหบดีในยุคนั้น และเป็นเรือของคนไทย ภายในห้องใต้ท้องเรือได้ถูกทรายทับถมอยู่ จึงไม้กล้าลงไปในห้องใต้ท้องเรือ เพราะกลัวทรายจะถล่มมาทับตอนที่เข้าไป จึงรีบนำของที่พบขึ้นมา และนำไปส่งมอบให้กับพิพิธภัณฑ์กลุ่มโบราณคดีค่ายเนินวง จ.จันทบุรี และก็ไม่ได้ดำน้ำลงไปยังจุดซากเรืออีกเลย
นายวิเชียร กล่าวต่อมา จากการที่ตนเองมาเปิดเผย ก็เพื่อต้องการให้นำเรือลำดังกล่าวขึ้นมาเอาไว้ในพื้นที่ประแสร์ เพื่อเปิดให้ชมเกี่ยวกับเรือโบราณในยุคร้อยปีที่ผ่านมา และกลัวว่าอาจจะเกิดความเสียหายจากการกัดกร่อนของน้ำทะเล ถ้าปล่อยไว้นานอาจจะไม่เหลืออะไรเลย
นายนพดล แสงวิลัย หนึ่งในนักดำน้ำ กล่าวว่า ตนเองเคยดำลงไปจริง และพบเหรียญรัชกาลที่ 5 เก็บได้จากซากเรือจม และเตรียมจะลงไปสำรวจอีกครั้งพร้อมเจ้าหน้าที่ ในเร็วๆวันนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี