8 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีครอบครัวสัญชาติลาว พ่อแม่ และลูกสาวอายุ 13 ปี รวม 3 คน ร้องขอความช่วยเหลือและให้ความคุ้มครอง กรณีได้รับการข่มขู่จากลูกชายนายจ้าง ที่ครอบครัวพ่อแม่ลูกมาอาศัยและรับจ้างกรีดยางในพื้นที่ ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยที่ผ่านมาลูกชายนายจ้างได้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงไก่ (นามสมมุติ) เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา โดยพ่อแม่ชาวลาว ได้พาเด็กหญิงไก่เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ปะเหลียน แต่ไม่มีความคืบหน้าของคดี อีกทั้งลูกชายนายจ้างคนดังกล่าวยังบังคับข่มขู่จนพ่อแม่และเด็กได้รับความเดือดร้อนหวาดกลัว จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด นายศุภโชค ช่วยคุ้ม ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง และนักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง เดินทางไปบ้านพลเมืองดีพ่อแม่และเด็กที่มาขออาศัย และเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงชาวลาว อายุ 13 ปี พร้อมมารดาและน้องวัย 1 ขวบ ไปอยู่ในความดูแลภายในบ้านพักเด็กและเยาวชนตรัง อ.เมือง จ.ตรัง
แม่เด็ก เล่าว่า ตนสามีและเด็กหญิงไก่ มาทำงานรับจ้างเป็นเวลา 7 ปี อยู่ภายในแปลงเพาะพันธุ์กล้ายางของนายจ้างรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักการเมืองในพื้นที่ อ.ปะเหลียน แต่ได้ถูกลูกชายของนายจ้าง อายุประมาณ 27 ปี ข่มขืนกระทำชำเรา และล่อลวงส่งต่อให้เพื่อนรายหนึ่งกระทำชำเราต่อ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 19 มกราคม ได้ไปแจ้งความที่ สภ.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน แต่คดีไม่คืบหน้าจนตนและสามีลาออกจากงานและไม่มีเงินติดตัว ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้จึงต้องเร่ร่อน จนชาวบ้านในบริเวณพื้นที่ทราบข่าวและสงสาร จึงให้ความช่วยเหลือต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ เปลี่ยนที่นอนทุกคืนเนื่องจากถูกข่มขู่และกลัวอิทธิพล
ฃ
“หลังจากแจ้งความตนและสามีลาออกจากงาน แต่กลับบ้านไม่ได้เพราะไม่มีเงิน คดีไม่คืบ เมื่อไปสอบถามจากทางตำรวจตำรวจบอกว่า ถ้าจะเอาคนผิดให้ได้ ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี จึงกลัวเกรงว่าจะมีความพยายามวิ่งเต้นจ่ายเงิน เพื่อแลกกับการกลับคำให้การกับตำรวจ จนชาวบ้านในพื้นที่ทราบเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้มีพลเมืองดีให้ที่หลบภัย ต้องหมุนเวียนเปลี่ยนที่นอนทุกคืน ไม่มีงาน ไม่มีเงิน จึงร้องขอความช่วยเหลือ ไม่อยากอยู่ประเทศไทยแล้ว อยากจะกลับบ้าน กลัวไม่ปลอดภัย” แม่เด็ก เล่าให้ฟัง
ทางด้านนายศิลปะชัย เรือนสูงนายอำเภอปะเหลียน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความลับครอบครัวต้องการความคุ้มครอง เป็นพฤติกรรมของเครือข่ายยาเสพติด ที่ผ่านมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้มีการกำชับสั่งการเรื่องการคุ้มครองประชาชน เรื่องดังกล่าวทราบว่าผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเด็กเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่ 15 ปี ไม่น่ามีพฤติกรรมแบบนี้เลย ไม่เกรงกลัวกฎหมาย อีกอย่างเกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งก็ไม่ได้ปฎิบัติไปหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบ หนังสือสั่งการมีความเชื่อมโยงกันหมด ตนเองก็ถูกต่อต้านเข้าไปทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่กระทบต่อบางองค์กรบางกลุ่ม
“ทางผู้เสียไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือมาทางอำเภอ แต่ร้องขอระดับจังหวัด ผู้เสียหายมองว่าหน่วยงานระดับอำเภอไม่ได้เป็นที่พึ่งได้ จึงมองระดับที่สูงกว่าจึงร้องจังหวัด ก่อนหน้านี้ตนทราบและตามเรื่องยาเสพติดอยู่ เป็นชุดใหญ่มากในระดับอำเภอ เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงทางอำเภอเคยจับหลายครั้งแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ มีความฉลาดที่จะหลบเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมาย ไม่เอาของกลางไว้ที่ตัว คนที่มีถูกจับมักจะอยู่ระดับล่างที่ติดยา วิ่งยา ผมไม่ขอระบุว่าเป็นใคร แต่เป็นการกระทำทีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด” นายศิลปะชัย กล่าว
ขณะที่ นายวสันต์ ถนอมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561 ได้มีครอบครัวสัญชาติลาว พ่อแม่ลูก 3 คน มารับจ้างกรีดยางที่บ้านของ อบต.หมู่ 5 โดยที่ลูกชายได้ไปกระทำชำเราเด็กโดยเด็กมีอายุ 13 ปีเศษ หลังจากนั้นพ่อแม่เด็กไปแจ้งความเมื่อวันที่ 19 มกราคม ความคืบหน้าคดียังไม่มีเท่าที่ควร แต่คนที่ไปกระทำชำเราไปแสดงอาการข่มขู่ว่า รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พ่อแม่เด็กจึงร้องขอความช่วยเหลือมาทางจังหวัด ล่าสุดทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตรัง ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด และ อส. เข้าไปดูแลและนำครอบครัวและเด็กมาดูแลที่บ้านพักเด็กเยาวชนที่จังหวัดแล้ว
“วันนี้ตนจะลงไปหาข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมทั้งสั่งการทางอำเภอให้ติดตามความคืบหน้าของคดี สำหรับความปลอดภัยของพ่อแม่และเด็กไม่ต้องเป็นห่วงทางจังหวัดดูแลอย่างดี อย่างไรก็ตามทราบว่า ผู้กระทำติดยาเสพติดหรือติดยาเสพติดแต่ยังมีข้อมูลไม่ชัดเจน ทางตำรวจจะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป” นายวสันต์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี