จากกรณีคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาท ที่กำลังหาข้อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่แท้จริงระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังสี จ.กาญจนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจ บช.ภ.7 ได้ทำการสอบสวน พร้อมระบุว่านายปรีชาน่าจะเป็นเจ้าของที่แท้จริง ร่วมทั้งยังเตรียมดำเนินคดีกับ ร.ต.ท.จรูญ อีกด้วย ทำให้เกิดข้อครหา จน ผบ.ตร.ต้องมีคำสั่งโอนคดีมาให้กองปราบปราม เข้าไปดำเนินการ ล่าสุดพนักงานสอบสวนของกองปราบฯก็ได้เบาะแส และพบข้อพิรุธต่างๆมากมาย ทำให้คดีเกิดความชัดเจนขึ้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
9 ก.พ.61 ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจภาค 7 (บช.ภ.7) เพื่อรับมอบสำนวนคดีดังกล่าวจากพนักงานสอบสวนของ บช.ภ.7 ทั้งนี้ หลักฐานต่างๆ ที่กองปราบปรามได้รับมาจากพนักงานสอบสวนชุดเดิม นอกจากเอกสารการสอบสวนแล้ว ยังรวมไปถึงหลักฐานที่เป็นคลิปเสียงการพูดคุยทางโทรศัพท์ ที่ถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญในคดี เบื้องต้นพบมีมากกว่า 2,500 คลิป ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างพยานผู้เกี่ยวข้องในคดีทั้งหมด ซึ่งคลิปทั้งหมดทางกองปราบปราม จะต้องนำกลับมาตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อใช้เปรียบเทียบกับหลักฐานที่กองปราบเคยเก็บรวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
ต่อมา เมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.เพื่อนำหลักฐานในทางคดีมามอบให้ ประกอบด้วย พยานบุคคล และข้อความบทสนทนาในการแชทไลน์ระหว่าง นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ กับลูก เพื่อนำไปใช้ประกอบพิจารณาคดี
นายษิทรา เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาในวันนี้ ก็เพื่อมอบพยานหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวนของกองปราบฯ นำไปใช้สมทบกับหลักฐานที่ตำรวจมี เพื่อใช้ตรวจสอบหาว่าใครคือเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลมูลค่า 30 ล้านบาท ตัวจริง โดยพยานหลักฐานในส่วนที่ 1 ก็คือพยานบุคคลที่ทีมทนายความและลูกความของตน สามารถหาไปหาเพิ่มเติมมาได้ จำนวน 2 ปาก ซึ่งข้อมูลที่สามารถเปิดเผยได้ก็คือ พยานรายนี้เป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับนายปรีชา และอีกคนเป็นข้าราชการสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม โดยพยานทั้งสองคนนี้จะให้ข้อมูลที่สามารถหักล้างกับพยานบุคคลทั้ง 40 ปาก ของฝั่งนายปรีชาได้ทั้งหมด แต่บุคคลดังกล่าวจะเป็นใครนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลต่อรูปคดี ส่วนหลักฐานอีกส่วนหนึ่งเป็นบันทึกข้อความบทสนทนาของนางรัตนาภรณ์ กับลูก ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่มีการระบุเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ว่ายังไม่ทราบว่าใครคือเจ้าของลอตเตอรี่ดังกล่าว ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การก่อนหน้านี้ที่ว่า ทราบว่าใครถูกลอตเตอรี่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ซึ่งจะถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะบอกได้ว่านางรัตนาภรณ์ นั้นไม่ได้พูดความจริง
นายษิทรา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีเมื่อวานที่ผ่านมา ข่าวทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี ได้เปิดเผยคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างปรีชากับ นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ แม่ค้าขายลอตเตอรี่ ในทำนองว่านางรัตนาภรณ์แสดงความดีใจที่นายปรีชาที่ถูกรางวัลดังกล่าว แต่นายปรีชากลับตอบว่าไปซื้อสลากอีกเลขหนึ่งและไม่ได้ถูกรางวัล โดยคลิปเสียงดังกล่าวทางทีมทนายความและลูกความได้ติดตามรับฟังแล้ว ถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีคลิปดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานก็จะถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเกรงว่าคลิปเสียงดังกล่าวจะถูกหักล้างในชั้นศาลว่า เป็นหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบนั้น เบื้องต้นทราบว่า คลิปเสียงดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถกู้ได้จากโทรศัพท์มือถือของนายปรีชา หรือนางรัตนาภรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทีมสืบสวนของ บช.ก.ได้ขออนุญาตนำโทรศัพท์มือถือของนายปรีชา , นางรัตนาภรณ์ และ ร.ต.ท.จรูญ ไปทำการตรวจสอบ ซึ่งทุกคนก็อนุญาตให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบได้ จึงถือว่าเป็นหลักฐานที่ได้มาอย่างถูกต้อง และได้รับอนุญาตจากเจ้าของโทรศัพท์มือถือแล้ว ไม่ได้เป็นการดักฟังทางโทรศัพท์อย่างที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ และถือเป็นหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือ
นายษิทรา กล่าวต่ออีกว่า ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับครูปรีชาและพวกหรือไม่นั้น คงต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบทำการสรุปสำนวนส่งเสียก่อน เนื่องจากภายหลังจากที่ได้เข้าพูดคุยกับทาง พล.ต.ต.ไมตรี นั้น ทราบว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์ คดีดังกล่าวน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ถึงจะสามารถบอกได้ว่าจะดำเนินคดีกับกลุ่มของครูปรีชากลับหรือไม่ แต่เบื้องต้นตนเชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ซึ่งในส่วนนี้คงต้องให้ทางกองปราบฯเป็นผู้ตรวจสอบและสาวถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด
"นอกจากนี้ ยังทราบอีกว่าทางกองปราบได้มีการสืบหาเบาะแสและรวบรวมพยานหลักฐานมาก่อนหน้านี้แล้วและได้มีการส่งมอบให้กับทาง บช.ภ.7 แต่กลับไม่มีการนำมาใช้ในการพิจารณา ซึ่งทาง พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว กลับให้น้ำหนักในพยานบุคคล แต่ทางกองปราบฯให้น้ำหนักไปที่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก" นายษิทรา กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องตนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่ภายหลังจากที่ได้พูดคุยและนำหลักฐานมามอบให้กับทางผู้การกองปราบฯ ก็ทำให้ยิ่งสบายใจขึ้น ส่วนหากผลการพิสูจน์ออกมาแน่ชัดแล้วว่าตนคือเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริง ตนจะนำเงินรางวัลบางส่วนไปทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่คิดไม่ดีกับตน
ด้าน พล.ต.ต.ไมตรี เปิดเผยว่า ล่าสุดมีหนังสืออย่างเป็นทางการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้โอนคดีดังกล่าวมาจาก บช.ภ 7 แล้ว หลังจากนี้ก็จะต้องนำสำนวนเดิมมาตรวจสอบกับคำให้การของพยานบุคคลทั้ง 40 ปาก ว่าตรงไปตามกับข้อมูลที่กองปราบปราม ลงพื้นที่และสืบสวนมาว่าตรงกันหรือไม่ ส่วนจะต้องเรียกพยานทั้ง 40 ปาก มาสอบปากคำใหม่หรือไม่นั้น ก็คงต้องขอตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อนก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี