เค้นสอบ6ชม.
‘นพดล’ดอดให้ปากคำ‘ปทส.’
รับสายตรงประสานผอ.
ขอ‘เปรมชัย’เข้าเที่ยวป่า
“นพดล” ดอดพบพนักงานสอบสวนปทส.เค้นสอบนาน 6 ชั่วโมง รับสายตรงประสานผอ.กาญจนา ขอเปรมชัยเข้าป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ พฐก.เร่งสอบวัตถุพยาน เผยเพิ่งได้รับปืนของกลางเร่งหาดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ “ศรีวราห์”ลุยตรวจที่ดินภูเรือ สั่งเช็กวิถีกระสุน-หาจุดลั่นไกฆ่า”เสือดำ”ขณะที่ชุดพญาเสือเข้าตรวจจุดเกิดเหตุห้วยปะชิเก็บหลักฐานอีกรอบ พบจุดยิง-ชำแหละซากสัตว์ข้างจุดตั้งแคมป์
ความคืบหน้าคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี หลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ บุกจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหารและ กรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ พร้อมพวกอีก 3 คนคือ นายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี นางนที เรียมแสน อายุ 43 ปี และนายธานี ทุนมาศ อายุ 56 ปี พร้อมของกลางซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำ อาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง
“นพดล”ดอดให้ปากคำตร.ปทส.
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ออกหมายเรียกนายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และปรึกษาบริษัท อินตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) เข้าให้ปากคำ เนื่องจากถูกระบุว่า เป็นคนประสานให้นายเปรมชัยกับพวกเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ให้มาพบวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปรากฏว่า ช่วงเย็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายนพดลเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปทส.ก่อนกำหนดในหมายเรียก เนื่องจากไม่ต้องการพบกองทัพสื่อมวลชน
เค้นสอบ6ชม.-รับโทรหาผอ.กาญจนา
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังนายนพดลเข้าพบพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่สอบปากคำมากกว่า 6 ชั่วโมง เบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ต่อคดี และยอมรับว่าเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทของนายเปรมชัยจริง และวันที่ 31 มกราคมได้โทรศัพท์ไปหาน.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ขอประสานให้นายเปรมชัยเข้าพื้นที่ไปเที่ยวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
ทั้งนี้ เหตุที่มาพบพนักงานสอบสวนก่อนกำหนดเพื่อหลบสื่อมวลชน และจากการสอบปากคำยังมีอีกหลายประเด็นตกค้าง ซึ่งพนักงานสอบสวน ปทส.จะเรียกนายนพดลสอบปากคำอีกครั้ง
“ศรีวราห์”ลุยตรวจรังเย็นรีสอร์ท
ขณะที่พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) โดยนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ ศปก.พป. ร่วมกับชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เดินทางเข้าตรวจสอบ รังเย็น รีสอร์ท ที่ อ.ภูเรือ จ.เลย
สั่งพิสูจน์วิถียิงเสือดำ-ล่าคนลงมือ
โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์เผยความคืบหน้าคดีนายเปรมชัยว่า ช่วงค่ำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายนพดลเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน บก.ปทส. แต่ตนยังไม่ได้รับรายงานรายละเอียด สำหรับการสืบสวนคดีที่เข้าไปล่าสัตว์ยังดำเนินการต่อเนื่อง โดยผลตรวจซากเสือดำเบื้องต้นพบวิถีกระสุนถูกยิงจากด้านบนลำตัว ตนสั่งให้พิสูจน์ให้ได้ว่ายิงจากจุดใด และใครยิง ทั้งนี้ การดำเนินคดีข้อหาล่าสัตว์ป่านั้นเอาผิดได้อยู่แล้ว จากการพบปืนของนายเปรมชัย พร้อมซากสัตว์ มีการนำเข้าไปในป่าก็ถือว่าร่วมกันล่าสัตว์ป่า เข้าองค์ประกอบความผิดแล้ว รอเพียงผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันอีกครั้ง
พบพื้นที่กว่า6พันไร่ส่อรุกป่า
นายอรรถพลกล่าวถึงการตรวจสอบที่ดินว่า เบื้องต้นที่ดิน 2 แปลงที่เข้าไปตรวจนั้น แปลงแรกเป็นส่วนของพื้นที่รังเย็น รีสอร์ทมี 19 ไร่ อยู่ที่ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ เป็นพื้นที่มีโฉนด ถือว่าถูกต้องไว้ก่อน แต่ต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง อีกส่วนเป็นพื้นที่ครอบครองโดยบริษัท ซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 6,215ไร่ เดิมมีเอกสารสิทธิ์เป็น นส 3 ก แต่ถูกเพิกถอนไปตั้งแต่ปี 2546 ต่อมาบริษัทมาทำเรื่องขอเช่า โดยอ้างว่าใช้ทำการเกษตร ต่อมาไม่นานก็ได้ยกเลิกการเช่า และเอาพื้นที่ดังกล่าวส่วนหนึ่ง 38 แปลงที่ทับซ้อนอยู่ในพื้นที่ที่ถูกเพิกถอนไปแล้วจำนวน 679 ไร่ ไปขอออกโฉนดในช่วงที่เดินสำรวจ และออกโฉนดสำเร็จเรียบร้อยแล้ว
“กรณีนี้เราพิจารณาแล้ว เห็นว่าการออกโฉนดน่าจะไม่ถูกต้อง เพราะถือว่ายังเป็นที่ดินของรัฐแต่เดิม เหตุผลและหลักฐานสำคัญคือ การขอเช่าตั้งแต่เดิม จะต้องเข้าดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าเป็นพื้นที่ทั้งหมด 6,000 กว่าไร่ รวมทั้งดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมายที่ดินด้วย”นายอรรถพลกล่าว และว่า เรื่องนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยตั้งคณะกรรมการร่วม 5 ฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ที่ดิน ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรออกลาดตระเวนตรวจพื้นที่รอบบนภูเขาใกล้กับรังเย็น รีสอร์ทและพบรีสอร์ทอีกแห่ง มีป้ายติดว่าบ้านชัยชนะ อยู่บนภูเขาห่างจากรังเย็น รีสอร์ท 2 กิโลเมตร ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นของบริษัทซี พี เค เช่นกัน
พฐก.เพิ่งจะได้รับปืนของกลาง
ด้านพล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยการตรวจสอบวัตถุพยานคดีลักลอบล่าสัตว์ของนายเปรมชัยว่า ในส่วนวัตถุพยานที่ได้รับมาจากพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) เพื่อตรวจสอบ เช่น อาวุธปืนนั้น เพิ่งมาถึงตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลางช่วงเย็นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนี้นำหลักฐานเข้าห้องปฏิบัติการ เพื่อเริ่มกระบวนการตรวจสอบทั้งลายนิ้วมือแฝง สารพันธุ์กรรม (ดีเอ็นเอ )แล้ว
ส่วนกระแสข่าวว่าปืนที่ยึดได้จากกลุ่มผู้ต้องหามีชื่อนายเปรมชัย และบุคคลอื่นครอบครองนั้น พล.ต.ต.ธวัชชัยกล่าวว่า กำลังตรวจสอบหมายเลขทะเบียนปืน ก่อนนำไปยืนยันกับกรมการปกครอง ถึงจะบอกได้ว่าปืนที่ยึดมา 3 กระบอกนั้นใครเป็นเจ้าของบ้าง สำหรับรถโตโยต้าของนายเปรมชัยที่ถูกยึดวันที่ถูกจับกุม ยังอยู่ที่พนักงานสอบสวน ถ้าส่งมาให้ตรวจพิสูจน์ ก็จะตรวจสอบตามความต้องการ ผลส่วนใดออกก็จะรีบรายงานพนักงานสอบสวนให้ทราบทันที
ส่งมอบรถของกลางให้พฐ.
อีกด้านหนึ่งมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่จ.กาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ มอบหมายให้นายปิยะพงษ์ สืบเสน นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกเคลื่อนย้ายรถยนต์ของกลางของนายเปรมชัย ไปส่งมอบให้ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ทองผาภูมิ เพื่อลงบันทึกข้อมูล ก่อนส่งต่อไปพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำแห่งชาติ เพราะต้องใช้เครื่องมือเทคนิคพิเศษในการตรวจสอบ ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถของกลางในคดีอาญาที่ 26/61 ยึดทรัพย์ที่ 12/61 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์
ชุดพญาเสือเข้าป่าเก็บหลักฐานเพิ่ม
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือพร้อมพ.ต.อ.สมหมาย โชติกะนาวิน นักวิทยาศาสตร์ สัญญาบัตร 4 กลุ่มงานเคมีฟิสิกส์ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 จ.กาญจนบุรีเดินทางเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ เพื่อทำแผนจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกขั้นตอนอีกครั้ง เพื่อหาร่องรอยเขม่าดินปืน ลายนิ้วมือ โดย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบบริเวณห้วยประชิ เพื่อเก็บหลักฐานในพื้นที่เพิ่มจากที่เก็บไปแล้วบางส่วน แต่ครั้งนี้จะตรวจอย่างละเอียด โดยเฉพาะรอบที่ตั้งแคมป์ เช่น ซากสัตว์ คราบเลือด ร่องรอยจุดชำแหละสัตว์
รู้จุดยิง-ชำแหละเสือดำ
ซึ่งนายชัยวัฒน์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ลงพื้นที่จุดที่นายเปรมชัยตั้งแคมป์ บริเวณลำห้วยประชิ และใช้โดรนบินบันทึกภาพมุมสูง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่ที่พบเครื่องในสัตว์ห่างไป 700 เมตร สันนิษฐานว่าอาจเป็นซากสัตว์ป่า แต่วันนี้ทราบแล้วว่าเป็นซากเสือดำ ฉะนั้นเสือดำน่าจะถูกยิงบริเวณนั้น ก็ต้องสแกนดูกระสุนปืนเพิ่มเติม จุดที่ชำแหละอาจเจอหลักฐานเพิ่ม เพื่อผลทางคดี ปิดช่องทางที่มีการกล่าวอ้าง ซื้อเนื้อสดจากข้างนอกเข้ามา โดยได้จำลองภาพที่เกิดเหตุ เพราะเกี่ยวข้องกับเต็นท์ คน ซากเนื้อ ซึ่งห่างกัน 2-7 เมตร รวมถึงข้ออ้างว่าผลัดลงออกนอกเส้นทาง
เรียกรับทราบข้อหาเพิ่ม
“อยากให้สื่อมวลชนดูว่าเส้นทางที่เข้าไปคุณมีโอกาสหลงหรือไม่ โดยเพิ่มข้อหาทารุณกรรมสัตว์ อีกหนึ่งข้อหา และจะเรียกนายเปรมชัย พร้อมพวก มาให้การกับพนักงานสอบสวน ภายในสัปดาห์นี้” นายชัยวัฒน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี