อดีตแกนนำระดับสั่งการและสมาชิกขบวนการพูโล พร้อมแนวร่วม RKk นำครอบครัว 103 คนรายงานตัวต่อแม่ทัพภาคที่ 4 ขอเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน เปิดใจหากโครงการไปได้ดีจะนำสมาชิกที่เหลือยุติบทบาท ร่วมสร้างสันติสุข
วันนี้ (14 ก.พ.61) ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการปฏิบัติโครงการพาคนกลับบ้าน โดยมี พล.ต.เฉลิมพล จินนารัตน์ ผู้แทนเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, นายบรรจบ จันทรัตน์ ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย, นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยในวันนี้เป็นการประชุมหารือความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการพาคนกลับบ้านในประเด็นการอำนวยความสะดวกด้านกระบวนการยุติธรรมและขั้นตอนการพิสูจน์สัญชาติ โดยล่าสุดมีผู้ที่ประสงค์เข้ามารายงานตัวเข้าสู่โครงการพาคนกลับบ้านเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 103 คน ประกอบด้วยสมาชิก BRN และพูโลเก่ารวมถึงผู้ที่เข้าไปหลบหนียังประเทศเพื่อนบ้าน
โดยหลังการประชุมได้มีการพบปะกับผู้ที่เข้ารายงานตัว โครงการพาคนกลับบ้านจำนวน 103 คนพร้อมญาติพี่น้อง โดยมีผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคงแห่งชาติรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงกระบวนการขั้นตอนโครงการพาคนกลับบ้าน นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำการตรวจดีเอ็นเอ ผู้ที่รายงานตัวเข้าร่วมโครงการในเบื้องต้นอีกด้วย
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานโครงการพาคนกลับบ้านในขณะนี้ได้เชิญทางด้านกระทรวงมหาดไทยกระทรวงยุติธรรมและสภาความมั่นคงแห่งชาติรวมถึงฝ่ายตำรวจและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้มาเพื่อพิสูจน์สัญชาติของผู้ที่เข้าร่วมโครงการล่าสุดจำนวน 103 คนเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นสัญชาติไทยหลังจากนั้นจะนำสู่กระบวนการขั้นตอนโครงการ ยืนยันว่าจะดูแลทุกคนด้วยความยุติธรรมตามกระบวนการกฎหมายไทย เบอร์ในขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการพิสูจน์สัญชาติแล้วจำนวน 24 คน
จากการพูดคุยกับผู้ร่วมโครงการพาคนกลับบ้านในครั้งนี้ท่านหนึ่งเปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ทางรัฐบาลไทยให้การดูแลพวกเขา ขณะนี้ทุกคนต้องการที่จะกลับมาอยู่ประเทศไทยเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ และมีความมั่นใจในกระบวนการขั้นตอนของโครงการพาคนกลับบ้าน ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การดูแลและมีโครงการนี้ขึ้นมา
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า 103 คนถือเป็นการนำร่องโครงการพิสูจน์สัญชาติไทย เป็นสิ่งทีดี จะสำเร็จได้นั้นรัฐบาลต้องมีความจริงใจ ที่สำคัญควรตั้งคณะทำงานในรูปคณะกรรมการที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง เพราะว่าเรื่องการพิสูจน์สัญชาติมีหลายขั้นตอนทั้ง ศอ.บต. และ กอ.รมน.ต้องร่วมมือกันหากติดขัด หรือมีปัญหาเรื่องกฎหมายก็มาคิดรวมกันว่าจะปรับแก้อย่างไรได้บ้าง
นายเลาะ ปะดอ นามสมมุตร หนึ่งในสมาชิกพูโล กล่าวว่า ตนเองหลบหนีอยู่ในประเทศมาเลเซียกว่า 30 ปี รับจ้างกรีดยางพารา โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ดีที่คนที่หนี้จะได้กลับบ้านทำงานอยู่ที่มาเลเซียลำบากมากต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ้อนๆ เพราะเราไม่มีบัตรประชาชนประเทศเขา อยากให้รัฐช่วยในเรื่องบัตรประจำตัวประชาชนและที่ดินทำกินเพื่อให้ลูกได้เรียนหนังสือ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี