ผบ.ตร.เผยคดีหวย 30 ล้าน ใกล้ได้ข้อสรุป ระบุให้ความสำคัญหลักนิติวิทยาศาสตร์มากกว่าพยานบุคคล กองปราบฯยันรู้แล้วใครเจ้าของตัวจริง แย้มโดนจับแน่ๆ 1 ราย ใบ้ข้อหามาตรา 174 ให้ร้ายผู้อื่นให้ได้รับโทษ
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวนคดีแย่งชิงกรรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 จำนวนเงินรางวัล 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ กับ นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ รร.เทพมงคลรังสี ว่า ขอเจ้าหน้าที่ทำงานอีกไม่นานก็จะได้ข้อสรุป โดยจะใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เพราะคำให้การของพยาน ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของบุคคลใดแน่ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคดีหวยอลเวง 30 ล้าน จากการลงพื้นที่ของตำรวจกองปราบปราม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้เน้นกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยให้ความสำคัญกับหลักฐานที่ได้ในที่เกิดเหตุคือบริเวณตลาดเรดซิตี้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มากกว่าที่จะให้ความสำคัญกับพยานแวดล้อมที่มีน้ำหนักน้อยกว่า
นอกจากนี้ยังให้ติดตามหาพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อพิสูจน์ความจริงให้ได้มากที่สุด อาทิ สลากฯหมายเลขที่ นายปรีชา อ้างในคลิปว่าไม่ถูกรางวัล รวมทั้งให้พิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่า ร.ต.ท.จรูญ ซื้อสลากฯ จากแม่ค้าคนใดกันแน่ เพราะที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ร.ต.ท.จรูญ ยังยืนยันคำให้การเดิมว่าจำไม่ได้ว่าซื้อจากแม่ค้าคนไหน ซึ่งหากพิสูจน์ได้ก็จะทำให้เกิดความเป็นธรรมในคดีมากยิ่งขึ้น
มีรายงานด้วยว่า ในที่ประชุมของกองปราบปรามได้นำหลักฐานต่างๆ ทั้งการสอบสวนปากคำพยานและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารวบรวมจนสรุปทิศทางได้แน่ชัดแล้วว่าใครเป็นเจ้าของสลากฯ ที่แท้จริงเพียงแต่รอการสอบปากพยานบางปากเพิ่มเติมประกอบสำนวนการสอบสวนเท่านั้น ขณะเดียวกันก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องจนทำให้สลากฯ งวดนี้เกิดปัญหา ซึ่งพบว่ามีการกระทำความผิดกันเป็นขบวนการ
ในเบื้องต้นพบการกระทำความผิดที่ชัดเจนจำนวน 1 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วพบว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 174 คือ ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้คาดว่าจะสรุปสำนวนและออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้ไม่เกินสิ้นเดือนนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี