15 ก.พ.61 ร.ต.อ.ถิรกร ไทยฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่ามีเหตุพบศพคนจมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณคูน้ำริมถนนสายบ่อโพธิ์ - เทิดพระเกียรติ ใกล้ศาลเจ้าถ่ามกุงหย่า นครศรีธรรมราช หมู่ 7 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.,พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ รอง ผกก.สส.,กำลังตำรวจชุดสืบสวน สายตรวจ,ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราช,แพทย์เวร โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้ง รุดไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันสอบสวนและชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุบริเวณคูน้ำริมถนนพบศพผู้ตายลอยพองอืดอยู่ในคูน้ำ เจ้าหน้าที่จึงลงไปลากศพขึ้นมาจากฝั่ง ปรากฏว่าในคูน้ำเจ้าหน้าที่ยังพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่สีน้ำตาล ทะเบียน กธ -1564 นครศรีธรรมราช เสียหลักจมน้ำห่างจากศพประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงลากรถเก๋งและนำศพขึ้นมาบนถนนและจากการค้นหลักฐานในตัวผู้ตายทราบว่าผู้ตายชื่อนายสุริยันต์ กุหลาบวรรณ หรือ”ผู้ใหญ่แลน” อายุ 56 ปี สภาพศพพองอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ ในชุดสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีลายดอกน้ำตาลดำ นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สวมรองเท้าผ้าใบ ตรวจสอบสภาพศพไม่พบบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4วัน แพทย์ลงความเห็นระบุสาเหตุเสียชีวิตเกิดจากจมน้ำเสียชีวิต

จากการสอบสวนปากคำญาติๆทราบว่า นายสุริยันต์ หรือ ผู้ใหญ่แลน เป็นผู้ใหญ่บ้านนักพัฒนาคนหนึ่งในหมู่บ้าน ก่อนเกิดเหตุเมื่อค่ำวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสุริยันต์ ได้ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวออกจากบ้านมาร่วมงานเลี้ยงวัน อส.ที่ร้านอาหารตาลคู่ ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งทางอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จัดงานขึ้น โดยมีกำนันผู้ใหญ่บ้านและข้าราชการ อส.ไปร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวจำนวนมาก

จนกระทั่งเวลา 23.30 น.ของคืนวันที่ 14 ก.พ.61 นายสุริยันต์ ได้ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวออกจากงานเลี้ยงเพื่อจะกลับบ้านพักไปตามถนนสายบ่อโพธิ์ -เทิดพระเกียรติ แต่ปรากฏว่าเมื่อนายสุริยันต์ ขับถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งใกล้ศาลเจ้ารถเกิดเสียหลักแหกโค้งพุ่งตกลงไปในคูน้ำริมถนน ทำให้รถเก๋งจมน้ำ ซึ่งขณะนั้นนายสุริยันต์ พยายามตะเกียกตะกายออกจากตัวรถ แต่ไม่ทัน ทำให้หมดแรงจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว จนกระทั่งมาพบศพนายสุริยันต์ จมน้ำพองอืดเสียชีวิต ซึ่งญาติๆไม่ติดใจสาเหตุการตาย หลังจากทำการชันสูตรพลิกศพแล้วทางเจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้กับญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป.