ตามติดเรื่องของการทำงานของ 3 หน่อ เจ้ากระทรวงเกษตรฯ ที่ท่านนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มอบหมายงานเข้ามาสะสางงานภาคการเกษตรฯ ซึ่ง นำโดยท่าน “กฤษฎา บุญราช” อดีตข้าราชการปกครอง ขาลุยแห่งแดนใต้ และพ่วงมาด้วยปราชน์แห่งแผ่นดิน อย่างอาจารย์ยักษ์ “วิวัฒน์ ศัลยกำธร” ที่มีคนบอกว่าท่านรู้ถ่องแท้ เรื่องของแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง และตามมาด้วย ท่าน “ลักษณ์ วจนานวัช” ที่เป็นอดีต ผู้บริหาร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ที่เข้าใจเข้าถึงเกษตรกรอีกคนหนึ่ง
และต้องบอกว่า เท่าที่มีการติดตาม โปรไฟล์ ทั้ง 3 ท่านหากเข้าใจถ่องแท้ เรื่องการเกษตรจริงละก็ งานนี้ภาคการเกษตรไทย คงถึงฝั่งฝันไม่ยากที่จะนำพาเกษตรกรไทยให้ไปในทิศทางที่ดี ขึ้น เพราะเท่าที่ฟังมาหลายเวที ในการพูดคุยกับทั้งเกษตรกร และข้าราชการ ของท่านรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่าน โดยเฉพาะท่าน “รมต.กฤษฎา” ต้องยอมรับว่า เท่าที่ฟังมา เป็นคนค่อนข้างจะเข้าใจและเข้าถึง แก่นสาน ของคำว่าเกษตรกรและเข้าใจคำว่าเกษตรแผนไทยจริงๆ และท่านมีแผนชัดเจน เรื่องการปฏิรูปการเกษตร ให้เกิดเป็นรูปธรรม วางแผนการผลิต ทุกตัวสินค้าเกษตร ป้องกันผลกระทบราคาให้ผลชัดเจน เป็นการทำเชิงรุกในทุกพื้นที่พร้อมกับประสานทีมประชารัฐ แก้ไขปัญหาความยากจน ฟื้นฟูอาชีพ ปลดหนี้สินให้ได้ภายในปี 2565 และยังมีแนวคิดที่จะนำโครงการพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ เป็นแหล่งรองรับสินค้าเกษตร หรือแก้มลิงชะลอพืชผลการเกษตร ในช่วงออกกระจุกตัวแก้ปัญหาพ่อค้ากดราคาได้ซึ่งต้องบอกว่าหากตั้งใจจริงของเป็นกำลังใจให้นะขอรับ
มาถึงท่านรมต. อีกคน ที่มาจาก ธ.ก.ส. อย่างท่าน “ลักษณ์” ที่ถูกมอบหมานเรื่องของการผลิต ต้องบอกว่าเดินหน้าเต็มสูบโดยวันพฤหัสที่ผ่านมาท่านก็แอบไปดูตลาด อ.ต.ก. พร้อมทั้งมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงาน เพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้าเกษตรให้เข้าสู่มาตรฐานสากลให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยให้มีการนำองค์ความรู้การประสบความสำเร็จของอ.ต.ก.ในส่วนกลาง นำไปขยายสู่ตลาดในส่วนภูมิภาค เพื่อพัฒนาให้เป็นตลาดที่มีคุณภาพขายดิบขายดีกันต่อไป
มาคนสุดท้ายอย่างท่านอาจารย์ “ยักษ์“ ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ที่สนใจแนวคิด งานท่านบอกว่าต้องการเน้นๆ เรื่องการส่งเสริมให้คนหันมาสนอกสนใจ เรื่องการแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียงมาใช่ในการดำเนินชีวิตให้กินอยู่อย่างพอเพียงให้พึ่งพาตนเองได้ ซึ่งก็เป็นอีกทางหนึ่ง ในการอยู่รอดบนวิถีเกษตรพอเพียง แม้อาจารย์จะคิดดีทำดี แต่ก็มีปัญหาคนรอบข้างไม่น้อย เพราะแว่วว่า ทีมงานของท่านบางคนดันเป็นพิษ ผิดวิสัยพอเพียง เสียเอง โดยเฉพาะเรืองการแห่แหน กันตามนายแบบไม่สนใจ ว่าควรหรือไม่ควร ทำให้นายถูกด่า เป็นภาษาอีสานว่าพวก “ซากพ้อ” เฮ้อ อย่างนี้ต้องคิดเสียใหม่ ว่ากันว่านอกจากแห่แหนกันไปแล้ว ยังไปใช้ ฮ.ฝนหลวง แบบไม่บันยะบันยัง จนนักบิน เอือมระอา แทนที่จะได้ไปบินทำฝน กับมารับภาระกิจที่มันไม่ใช่ โดยเฉพาะเรื่องที่จะนำ ฮ. ไปตรวจราชการ แบบเร่งด่วน จุดละนิดจุดละหน่อย ไม่กี่นาที หรือนี่เป็นการตรวจราชการแบบพอเพียงขอรับอย่างลืมบินแต่ละทีผลาญเงินหลวงที่ละหลายหมื่นบาท ทราบแล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วนเดี๋ยวจะผิดคอนเซ็ปต์พอเพียง หรือนี่คือพอเพียงแบบติดปีก...ตอบมา ขอรับท่าน
ราชดำเนิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี