คำถาม ผมพบปัญหาการเก็บเมล็ดพันธุ์พืช
แล้วขึ้นรา เสียหายหมด เพาะไม่ขึ้น
ขอทราบความรู้ควรปฏิบัติในเรื่องนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
สถาพร องอาจสิทธิกูล
อ.เมือง จ.ชุมพร
คำตอบ
เมล็ดพันธุ์ จะมีอัตราการงอกและอายุการเก็บแตกต่างกันไป จะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่มีผลต่ออายุการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ ดังนั้นวิธีการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์จึงสำคัญมาก ที่จะทำให้มีอายุการเก็บของเมล็ดได้นาน และสามารถคงความงอกและความแข็งแรงไว้ได้นานด้วย
ปัจจัยที่ทำให้เมล็ดพันธุ์มีอายุการเก็บรักษาได้นาน ได้แก่
1.ชนิดของพืช โดยธรรมชาติแล้ว เมล็ดพันธุ์พืชบางชนิดเก็บได้นาน แต่บางชนิดเก็บไม่นาน หรืออายุการเก็บรักษาสั้น เช่น เมล็ดพันธุ์ข้าว เก็บรักษาได้ง่ายกว่าเมล็ดพันธุ์ถั่วต่างๆ เป็นต้น
2.พันธุ์ ในพืชชนิดเดียวกันนั้น เมล็ดพันธุ์พืชบางพันธุ์ เก็บรักษาได้นานกว่าพันธุ์อื่น เช่น เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองพันธุ์ สจ.4 เก็บรักษาได้นานกว่าพันธุ์เชียงใหม่ 60 เป็นต้น
3.ระดับความเสื่อม เมล็ดพันธุ์สามารถเสื่อมคุณภาพได้เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับสาเหตุต่างๆ เช่น เก็บเกี่ยวล่าช้า ได้รับความกระทบกระเทือนจากการเก็บเกี่ยวหรือนวด ถูกฝนหรือเปียกน้ำค้าง จะเก็บรักษาได้น้อยกว่า เมล็ดพันธุ์ชนิดเดียวกันที่ยังสมบูรณ์แข็งแรงกว่า
4.ความชื้นของเมล็ด เมล็ดพันธุ์ที่มีความชื้นต่ำ จะเก็บรักษาได้นานกว่าเมล็ดพันธุ์ชนิดเดียวกัน และคุณภาพระดับเดียวกันที่มีความชื้นสูงกว่า
5.ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศในโรงเก็บ หรือมวลไอน้ำในอากาศรอบๆ เมล็ดพันธุ์ ถ้าความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ จะสามารถเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ได้นานกว่าสภาพที่มีความชื้นสัมพันธ์สูง
6.อุณหภูมิของอากาศในโรงเก็บ หรือบรรยากาศรอบๆ เมล็ดพันธุ์ เช่น ถ้าเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ ก็จะเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ได้นานกว่าที่ที่มีอุณหภูมิสูง
การเก็บและการดูแลรักษาเมล็ดพันธุ์พืช มีหลายวิธี เกษตรกรอาจจะนำไปดัดแปลงพัฒนาเพื่อให้เข้ากับความต้องการใช้งานจริงของตน ดังนี้
1.แบบเปิด เป็นวิธีที่ไม่สามารถควบคุมความชื้นและอุณหภูมิของบริเวณที่เก็บเมล็ดพันธุ์ได้ ความมีชีวิตของเมล็ด จึงผันแปรไปตามสภาพอากาศ ถ้าอยู่ในสภาพความชื้นสูง จะทำให้ความชื้นในเมล็ดสูงด้วย
2.แบบควบคุมความชื้นในเมล็ด โดยเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท เช่น ซองพลาสติก กระป๋อง
3.แบบปรับสภาพให้เย็นและแห้ง วิธีนี้เหมาะกับการเก็บรักษาเมล็ดพืชหลายชนิด เช่น ผัก ไม้ดอก ธัญพืช ควรรักษาระดับความชื้นในเมล็ด 3-8% และเก็บในอุณหภูมิ 1-5 องศาเซลเซียส
4.แบบเย็นและชื้น เหมาะกับการเก็บรักษาเมล็ดพืชที่มีอายุสั้นหลายชนิดที่ไม่ชอบสภาพแห้ง
5.แบบอุ่นและชื้น เหมาะกับการเก็บรักษาเมล็ดพืชเมืองร้อนหลายชนิด เช่น ลำไย เงาะ มังคุด มะม่วง ทุเรียน โกโก้ เพราะเป็นเมล็ดพืชที่มีอายุสั้น
การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ที่ดี เพื่อให้คงความงอกและความแข็งแรงได้ ควรปฏิบัติดังนี้ คือ ให้เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชไว้ในเขตที่มีอากาศแห้ง ให้เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชไว้ในโรงเก็บที่ควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำอยู่เสมอ เก็บรักษาไว้ในโรงเก็บที่ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ให้ต่ำ เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช โดยการบรรจุในภาชนะที่ปิดได้สนิท และสามารถป้องกันการรั่วไหลของอากาศได้ เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชในภาชนะปิดสนิท จะทำให้เก็บรักษาได้นาน เพราะความชื้นของเมล็ดพันธุ์จะไม่สูงขึ้น หรือไม่เปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงของอากาศ แต่จะยังคงมีความชื้นต่ำตลอดไป ซึ่งทำให้เมล็ดพันธุ์ตายช้า และไม่ควรเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ในตู้เย็น เนื่องจากในตู้เย็นมีความชื้นสัมพัทธ์สูง เมล็ดพันธุ์ก็จะดูดความชื้น และมีความชื้นสูงตามไปด้วย เมื่อนำเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวออกจากตู้เย็น จะเกิดการเสื่อมอย่างรวดเร็ว นะครับ
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี