หวยอลเวงพ่นพิษ-กองปราบฯตั้งข้อหาหนัก
จับครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น
ล็อกเข้ากรุงส่งห้องขังทันที
ค้านประกัน-รอส่งศาล2มีค.
‘หมวดจรูญ’ให้อโหสิกรรม
ทนายตั้มลั่นฟ้องกลับแหลก
ตำรวจนำหมายศาลบุกจับ “ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น”4 ข้อหาหนัก แต่ทั้งคู่ยังยืนยันคำเดิม ก่อนถูกนำตัวไปค้นบ้านและพาไปกองปราบฯ คุมตัวไว้สอบเพิ่มพร้อมค้านประกัน ก่อนฝากขัง 2 มีนาคม ด้าน ผบ.ตร.แถลง คดีหวย 30 ล้าน ยันตำรวจรับผิดชอบคดีอาญา คดีแพ่งไปฟ้องกันเอง ส่วนใครเป็นเจ้าของตัวจริงต้องให้ศาลชี้ขาด “ลุงจรูญ” อโหสิคนที่ทำให้เดือดร้อน “ทนายตั้ม” ลั่นฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นล้านบาทใกล้จะถึงบทสรุปสุดท้ายแล้ว สำหรับกรณีการชิงกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท ระหว่างนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา อายุ 50 ปี
ครูชำนาญการพิเศษ รร.เทพมงคลรังษี อ.เมืองกาญจนบุรี กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ ที่ต่างก็อ้างว่าเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ดังกล่าว
ตร.ขอหมายจับ“ครูปรีชา–เจ๊บ้าบิ่น”
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต. ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 ป. พ.ต.อ. พงษ์ไสว แช่มลำเจียก ผกก.หัวหน้ากลุ่มงาน สส.ป. และคณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีหวย 30 ล้าน ประมาณ 10 นาย เดินทางเข้าพบ นายบุญชู ทัศนประพันธ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และรองอธิบดีฯ พร้อมนำคำร้อง พยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขออนุมัติหมายจับ นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ รร.เทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี และนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น อายุ 58 ปี แม่ค้าลอตเตอรี่
ศาลอนุมัติ-เจอ 3 ข้อหาหนัก
โดยหมายจับดังกล่าว ระบุข้อหาผู้ใดแจ้งข้อความเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา อาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ข้อหา ผู้ใดรู้ว่า มิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่ามีการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท และข้อหากระทำการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 174 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท โดยศาลได้ซักถามพนักงานสอบสวนถึงพยานหลักฐานนานราวชั่วโมงเศษจึงแล้วเสร็จ กระทั่งเวลา 11.00 น. ศาลได้ มีคำสั่งอนุมัติหมายจับ ตามข้อหาดังกล่าว
คุมตัวค้นบ้านก่อนพาเข้ากองปราบฯ
จากนั้น เวลา 11.39 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าเดินทางเข้าควบคุมตัวครูปรีชา ที่ รร.เทพมงคลรังษี แต่ทางครูปรีชาขอต่อรองสอนหนังสือก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็อนุญาตและรอนอกห้อง จากนั้นเวลา 12.00 น. ได้ปล่อยนักเรียนออกมารับประทานอาหารกลางวัน ขณะที่ครูปรีชาได้เดินออกมาจากห้องเรียนแล้วรีบเดินไปที่ห้องพักครู บอกสื่อไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ ขอกินข้าวก่อน พร้อมเดินไปเดินมาบ่นว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงหมายจับ ไม่รู้หมายจับจริงหรือปลอม กระทั่งตำรวจได้คุมตัวปรีชาขึ้นรถ พาไปค้นบ้านพัก เลขที่ 143/22 ทุ่งนา ซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก และบางกระแสข่าวบอกว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายปรีชา เดินทางไปที่ อ.บ่อพลอย คาดว่าน่าจะไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่ที่นายปรีชา เคยให้ข่าวว่ามีหลักฐานเป็นคลิปที่ ร.ต.ท.จรูญ ยอมรับว่าเก็บลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้ ก่อนที่จะพาเดินทางไป บก.ป. โดยครูปรีชา ไม่ได้มีสีหน้าวิตกกังวลแต่อย่างใด และยังยืนยันว่าซื้อลอตเตอรี่มาจริง และทำตกหายจริง
“เจ๊บ้าบิ่น”ไม่ยอมรับหมายจับ
เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่กองปราบปรามประมาณ 8 นาย ได้เดินทางไปที่บ้านพักของนางรัตนาพร ที่อยู่ภายในชุมชนเตาปูน 3 เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี โดยให้ นางรัตนาพร เซ็นต์เอกสารอะไรบางอย่าง และว่ามีการตรวจค้นภายในบ้านด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้นำตัว นางรัตนาพร ขึ้นรถออกไป ซึ่งพบว่าสีหน้าของนางรัตนาพรยังคงมีรอยยิ้ม พร้อมกับบอกสื่อมวลชนว่า ไม่ยอมรับหมายจับ และยังขอยืนยันคำเดิม ก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นรถ เดินทางไปสอบสวนที่ บก.ป.
คุมตัวไว้สอบเพิ่มก่อนฝากขัง2มี.ค.
ต่อมา พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เดินทางมารับ ครูปรีชา กับ นางรัตนาภรณ์ ซึ่งทันทีที่เดินทางมาถึง ครูปรีชากับเจ๊บ้าบิ่น ถูกคุมตัวเข้าห้องรับแจ้งความ เพื่อแจ้งข้อหา พร้อมให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งตามอำนาจทางกฏหมาย ตำรวจมีเวลา 48 ชั่วโมงในการควบคุมตัว ก่อนส่งฝากขังศาล โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจจะคุมตัวทั้งคู่ ส่งฝากขังศาลอาญาในวันที่ 2 มีนาคมนี้ โดยท้ายคำร้องจะคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานต่างๆ
ผบ.ตร.แถลง ดูเฉพาะคดีอาญา
วันเดียวกัน เวลาประมาณ 13.15 น. ที่ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้แถลงความชัดเจนของคดีดังกล่าว ที่ยืดเยื้อมานาน โดยระบุว่า ตำรวจจะสอบสวนในส่วนของคดีอาญา ส่วนคดีแพ่งคู่กรณีต้องไปฟ้องร้องกันเอง ในส่วนคดีอาญาของ จ.กาญจนบุรี นายปรีชา ใคร่ครวญ ได้แจ้งความเอาผิด ร.ต.ท.จรูญ วิมล ว่ายักยอกทรัพย์และรับของโจร และได้ฟ้องศาลแพ่ง จากนั้น ร.ต.ท.จรูญ แจ้งความเอาผิด นายปรีชา ฐานแจ้งความเท็จ โดย สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้สอบสวน และให้บช.ภ.7 ไปตรวจสอบ ก่อนร.ต.ท.จรูญคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ในคดีที่ สภ.เมืองกาญจนบุรีสอบสวน เกี่ยวกับคดียักยอกทรัพย์และรับของโจร จึงมาร้องเรียน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ก่อน พล.ต.ท.ฐิติราช จะมาปรึกษาคดีนี้
“ความถูกต้องความเป็นธรรมต้องมีในสังคม ส่วนเรื่องคดีแพ่งคู่กรณีไปฟ้องร้องกันเอาเอง ตำรวจไม่เกี่ยวข้อง และไม่ก้าวล่วงในส่วนตรงนั้น ไม่มีหน้าที่ไปชี้ว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริง เป็นเรื่องของทางแพ่งว่าใครคือผู้ครอบครอง” ผบ.ตร.กล่าว
ลั่นไม่มีผลเสมอ-คนผิดต้องติดคุก
ผบ.ตร. กล่าวว่า สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้สอบสวนคดีของทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากนั้น ร.ต.ท.จรูญ มองว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม อ้างว่า สภ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งสอบพยานของทั้ง 2 ฝ่ายราว 45 ปาก เป็นพยานของฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ แค่ 5 ปาก จึงมาร้องเรียน พล.ต.ท.ฐิติราช จากนั้น พล.ต.ท.ฐิติราช ได้ทำหนังสือหารือกับตนว่าคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน รูปคดีมีความสลับซับซ้อนคดีที่โอนมา บช.ก. คือ คดีอาญาที่คู่กรณีที่ถือว่าเป็นมวยถูกคู่ กีฬามีแพ้ ชนะ เสมอ แต่เรื่องนี้มีแพ้ ชนะ ไม่มีเสมอ มีแต่ติดคุก
ใครคือเจ้าของหวยต้องถามศาลแพ่ง
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า หลังโอนสำนวนคดีมาจาก สภ.เมืองกาญจนบุรี มาที่ บก.ป. พล.ต.ท.ฐิติราช ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 คณะ และเร่งทำงานลงพื้นที่แสวงหาพยานหลักฐาน รวบรวมพยานหลักฐานใช้วลาราว 3 สัปดาก์ ในส่วนของตำรวจ บช.ก. ได้ทำงานสำเร็จลุล่วงด้วยดี ที่สงสัยว่าใครเป็นเจ้าของให้ไปพิจารณากันเอาเอง ถามว่าใครเป็นเจ้าของสลากฯ นั้น ในส่วนของตำรวจทำเฉพาะคดีอาญา พยานหลักฐานที่ทำสำนวนน่าเชื่อได้ว่าไม่มีการยักยอกทรัพย์ รับของโจร ซึ่งนายปรีชา อาจจะสู้ต่อในชั้นศาล
“ที่ถามว่าเมื่อไม่มีการยักยอกทรัพย์ รับของโจรเกิดขึ้น แสดงว่า ร.ต.ท.จรูญ เป็นเจ้าของตัวจริงหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ต้องไปถามหรือรอการพิจารณาของศาลแพ่ง แต่ถ้าอยากรู้จริงๆ ผมจะอ่านเงื่อนไขหลังสลากฯให้ฟัง ซึ่งระบุว่าเงินรางวัลจะจ่ายให้ผู้ถือรางวัลมาขอรับรางวัลเท่านั้น จะจ่ายให้ผู้เป็นเจ้าของแท้จริง เพื่อป้องกันการแอบอ้าง” ผบ.ตร. กล่าว
คดียังอีกยาว-ลั่นไม่มีมวยล้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว ผบ.ตร. ได้อ่านฎีกาในคดีหวยลักษณะเดียวกัน โดยระบุว่าผู้ครอบครองและถือลอตเตอรี่ ถือเป็นเจ้าของ สลากฯ ไม่ใช่ทรัพย์มีทะเบียน ผู้ใดครอบครองย่อมเป็นเจ้าของ ทรัพย์ที่ตกหล่นสูญหายต้องแจ้งเจ้าพนักงานทันที โดยเฉพาะหวยชุดหลายใบ การอ้างว่าจำได้ มีภาพถ่าย แต่ไม่ปรากฏการแจ้งความทันที คดีจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของสลากฯ และทำหายจริงหรือไม่ เมื่อไม่มีพยาน ไม่มีการแจ้งความในทันที ผู้ครอบครองสลากฯ จึงถือว่ามีสิทธิ์ดีกว่า
“เรื่องนี้คงไม่จบภายในวันสองวัน คดีแบบนี้เป็นอุทธาหรณ์ และขอฝากไว้ว่าคดีสลากฯลักษณะเช่นนี้มี 5 คดี คดีนี้คงเป็นคดีสุดท้ายที่ผู้คิดทุจริต วางแผนจะทำอะไร ให้ใช้คดีนี้เป็นตัวอย่าง เพราะได้มีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องฐานแจ้งเท็จ ยืนยันว่ายุค ผบ.แป๊ะ ไม่มีมวยล้มต้มคนดู” ผบ.ตร. กล่าว
ผบช.ก.แจงสาเหตุออกหมายจับ
ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาล ทางตำรวจคงกล่าวอะไรมากไม่ได้ เพราะจะกระทบกับขั้นตอนต่างๆ อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย คือ ร.ต.ท.จรูญ ให้การโดยไม่มีพยานหลักฐานมากล่าวอ้างได้เลย ทางคณะสอบสวนจึงแขวนรอไว้ก่อน ส่วนนายปรีชา มีพยานหลักฐานมากล่าวอ้าง ทางคณะสอบสวนจึงสืบสวนพยานฝั่งเดียวก่อน คือ ฝั่งนายปรีชา โดยใช้การพิสูจน์ทราบทางนิติวิทยาศาสตร์ สรุปได้ว่าคำกล่าวอ้างทั้งหมดของนายปรีชา ขัดแย้งกับหลักฐานทางนิติทางวิทยาศาสตร์ จึงมีการออกหมายจับนายปรีชา กับเจ๊บ้าบิ่น ฐานแจ้งความเท็จ
“ลุงจรูญ”อโหสิคนทำให้เดือดร้อน
ร.ต.ท.จรูญ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจหลังฟังผลการแถลงข่าวของ ผบ.ตร. ว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชน ถ้าไม่มีสื่อคงแย่ เพราะเริ่มต้นมาก็แย่แล้ว ได้สื่อช่วยได้เยอะ ขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจผ่านสื่อ ได้รับแรงใจจากคนที่เข้าใจเยอะแยะ ก็ดีใจมาก ส่วนเรื่องคดีเท่าที่ฟังแถลงพอใจมากๆ ขอขอบคุณ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ พล.ต.ท.ฐิติราช รวมทั้ง พ.ต.อ.ไมตรี ที่ให้ความเป็นธรรมเป็นอย่างมาก ให้ความเป็นธรรมอย่างที่หวังไว้ รวมทั้งขอบคุณทางทีมทนาย ต่อไปคงเป็นหน้าที่ฝ่ายตนกับทนายต้องปรึกษากันว่าจะดำเนินการอย่างไร ตอนนี้อโหสิกรรมให้แก่ทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน จะได้แล้วๆกันไปในชาตินี้ หลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ค่อยกลับไปซื้อลอตเตอรี่อีก แต่ครั้งนี้จะรอบคอบให้มากขึ้น
“ทนายตั้ม”ลั่นฟ้องดะเรียกเป็นล้าน
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความฝั่งลุงจรูญ แถลงว่า ต้องขอบคุณ ผบ.ตร.ที่ลงมาให้ความเป็นธรรม รวมทั้ง พล.ต.ท.ฐิติราช และ พล.ต.ต.ไมตรี ที่ทำงานหนักหาข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาตอบคำถามสังคม โดยในส่วนของคดีแพ่ง ลุงจรูญถูกอายัดเงิน เดี๋ยวจะขอสำนวนจากทางตำรวจ เพื่อดำเนินการขอถอนอายัด เพราะตอนนี้ตำรวจฟันธงแล้วว่าพวกนี้เป็นขบวนการ หลังจากอัยการสรุปสำนวนในคดีที่ถูกแจ้งข้อหาความเท็จ จะไปฟ้องกับผู้ละเมิดที่เกี่ยวข้อง กลั่นแกล้งให้ลุงจรูญรับโทษทางอาญา จะเรียกร้องค่าเสียหายกับทุกคน เรื่องนี้ต้องได้รับบทเรียน
หยันคลิปเด็ดไม่มีจริง
“ส่วนคลิปเด็ดเชื่อว่าไม่มีจริงแน่นอน ขอท้าเลย ถ้ามีให้รีบมอบให้ตำรวจ เอาไปตรวจสอบดูว่าคลิปจริง คลิปปลอม อาจจะได้รับความเป็นธรรมเหมือนลุงจรูญก็ได้ โทษจะได้น้อยลง ส่วนคนอื่นๆที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่ขอให้ราคา เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เช่นเดียวกับคนชื่อฟ้า ถ้ามีคลิปจริง ก็ขอให้รีบเอามาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้มีส่วนร่วมกับคดี ในฐานะนำพยานหลักฐานเท็จเข้าสู่สำนวน โดยยืนยันจะฟ้องทุกคนที่เกี่ยวข้อง เรียกค่าเสียหายคนละเป็นล้านแน่นอน” ทนายตั้ม กล่าว
คุรุสภาเล็งหารือผิดจรรยาบรรณหรือไม่
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวถึงกรณีครูถูกคุมตัวไปดำเนินคดี ว่า ในส่วนของคุรุสภา ขณะนี้ถือว่าครูปรีชายังไม่มีโทษ เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสิน แต่เมื่อปรากฏเป็นข่าวและสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและอาจนำไปสู่ความเสื่อมเสียของวิชาชีพครู ดังนั้น ในวันที่ 2 มีนาคม ตนจะหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฏหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลว่าความผิดที่ครูปรีชาถูกกล่าวหา ว่า อยู่ในข่ายการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพครูหรือไม่ ถ้าอยู่ในข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณ ตาม พ.ร.บ.ครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ก็จะใช้อำนาจเลขาธิการคุรุสภาตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี