ชาวบ้าน ต.แม่ระกา อ.วังทอง กว่า 10 ราย ร้องศูนย์ดำรงธรรม วอนขอความช่วยเหลือ หลังนำข้าวเปลือก กว่า 100 เกวียน ไปขายให้ท่าข้าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก แล้วไม่ได้รับเงินแถมถูกผลัดผ่อนไปเรื่อยไม่มีกำหนด ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

7 มี.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก กลุ่มชาวนา จากตำบลแม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางมาเพื่อขอร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กรณีขายข้าวแล้วไม่ได้รับเงิน นานกว่า 3 เดือน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขาดเงินทุนสำหรับทำนารอบใหม่ และเดือดร้อนไม่มีเงินมาใช้จ่ายในการครองชีพ

โดยนายสม อมกระโทก ตัวแทนเกษตรกรชาวนา ที่เดินทางมาร้องเรียนในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ตนเองและชาวนารายอื่นๆ ได้นำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวขายให้กับท่าข้าวแห่งหนึ่งใน ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ช่วงเดือนธันวาคม 60 - เดือน มกราคม 61 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดวันนัดรับเงิน ท่าข้าวดังกล่าวกลับไม่ได้รับเงินตามที่นัดไว้ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 755,000 บาท ซึ่งทางตนเองและชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อน พยายามที่จะทวงถามเจ้าของท่าข้าวมาโดยตลอด แต่ก็ถูกผัดผ่อนไม่ยอมจ่าย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนต้องมาร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ช่วยหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

ด้านนางศรีนวล แก้วสระแสง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 ม.12 ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้บอกว่าตนปลูกข้าวนาปี รอบ 2 เป็นข้าวพันธุ์ กข.51 นำไปขายที่ท่าข้าวดังกล่าวจำนวน 32 เกวียน 67 ถัง เป็นเงินประมาณ 190,000 บาท นัดจ่ายเงินในวันที่ 5 มกราคม 2561 แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด ผลัดมาเรื่อย 2 เดือนกว่าแล้ว ตนลำบากมาก เพราะต้องเป็นหนี้ค่ารถเกี่ยวที่จ้างมา ค่าปุ๋ยค่ายาก็ไม่มีจ่าย เงินทุนก็ไม่มีปลูกข้าวต่อ ไหนจะค่าใช้จ่ายในครอบครัวอีก

ล่าสุด นายอธิปไตย ไกรราช ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก ได้เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก รับหนังสือร้องทุกข์จากเกษตรกรชาวนา พร้อมแนะนำให้ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และล่าสุดได้มีคำสั่งเร่งด่วนให้ พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลกพร้อมด้วยนายอำเภอวังทอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปยังท่าข้าวดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับเกษตรกรชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป