ป.ป.ท. จ่อชงตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนโกงเงินคนยากไร้เพิ่มอีก 5 จังหวัด “บึงกาฬ-หนองคาย-สุราษฎร์- น่าน-ตราด” แฉมีหมดคนใน-คนนอกรวมหัวทุจริต ยิ่งสาวลึกยิ่งเน่าทั้งคนตาย-คนมีอันจะกินมีชื่อได้รับเงินช่วยเหลือกันอื้อซ่า คนจนตัวจริงได้แค่เศษเงิน
วันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งมีวาระการพิจารณากรณีทุจริตเบิกจ่ายเงินส่งเคราะห์สงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีรายงานว่า พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการ ปปท. จะเสนอขออนุมัติตั้งอนุกรรมการไต่สวนกระทำผิดดังกล่าวใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย หนองคาย, บึงกาฬ, สุราษฏร์ธานี, น่าน และตราด
ขณะที่ พ.ท.กรทิพย์ ได้ออกมายอมรับว่า ในการประชุมดังกล่าว จะมีการเสนอตั้งอนุกรรมการไต่สวนอย่างน้อย 3 จังหวัดอย่างแน่นอน คือ บึงกาฬ, หนองคาย และสุราษฎร์ธานี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไต่สวนไปแล้ว 2 จังหวัด คือ ขอนแก่น และเชียงใหม่ จากเป้าหมายเบื้องต้น 37 จังหวัด
พ.ท.กรทิพย์ กล่าวอีกว่า โดยภาพรวมการสอบสวนที่ได้เบาะแสมา พบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งที่รับราชการอยู่และออกไปแล้ว รวมทั้งบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ข้อมูลยังไปไม่ถึงว่าจะเกี่ยวพันกับนักการเมือง ข้าราชการระดับสูงของ พม. หรือไม่ รวมทั้งยังไม่พบข้อมูลว่าอาจารย์ ม.มหาสารคาม ที่คุกคามนักศึกษาผู้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่ามีความเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ แต่ฝ่ายสอบสวนกำลังหาความเชื่อมโยงกันอยู่
ด้าน พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า ได้เล็งไปที่ 37ศูนย์จังหวัดที่ได้รับเงินงบประมาณเกิน 1 ล้านบาท ซึ่งภายในสิ้นเดือนนี้คงสอบข้อเท็จจริงเรียบร้อยแต่เบื้องต้นพบรายงานความผิดปกติใน 24 จังหวัด สำหรับรายละเอียดในการตรวจสอบนั้น มีเอกสารจำนวนมาก แต่พบสาระสำคัญ คือ บางศูนย์มีรายชื่อแต่ไม่ได้รับเงิน หรือได้รับเงินน้อยกว่าที่กำหนดไว้ บางแห่งมีการเอาผู้ไม่มีสิทธิ์มารับเงิน ซึ่งผู้ที่รับเงินในส่วนนี้ถือว่ามีความผิดด้วยเพราะขาดคุณสมบัติ
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ ปปท.พื้นที่เขต 9 ได้ปูพรมตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งใน 6 จังหวัด คือ สงขลา สตูล พัทลุง ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส เพื่อทำการสอบถามประชาชนที่มีรายชื่อได้รับเงินทุกคน รวม 13,012 ราย ว่าได้รับเงินในส่วนนี้อย่างไรหรือไม่
จากการตรวจสอบพบว่า 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่อ้างว่าได้รับเงินทั้งหมด กลุ่มที่ไม่ได้รับเงินเลย และกลุ่มที่ได้รับเงินเพียงบางส่วน เบื้องต้นพบว่ามีประชาชนผู้มีรายชื่อไม่ได้รับเงิน แต่มีลายมือชื่อในเอกสารรับเงิน การลงพื้นที่ตรวจสอบในจังหวัดสตูล พบประชาชนไม่ได้รับเงิน ทั้งที่มีรายชื่อและลงลายมือชื่อเอาไว้ และพบว่าบางพื้นที่มีบุคคลที่มีรายชื่อเป็นผู้รับเงิน กลับไม่ทราบเรื่อง และไม่เข้าเกณฑ์เนื่องจากบางรายเป็นข้าราชการ และไม่ได้เป็นผู้ยากไร้
ส่วนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นายทองสุข ณ พล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ปปท.เขต4 ลงเก็บข้อมูลการทุจริตเบิกจ่ายเงินส่งเคราะห์สงเคราะห์ผู้ยากไร้ และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตรวจฎีกาการเบิกเงินต่าง ๆ ในแต่ละครั้ง และได้พบเอกสารสำคัญคือตามรายชื่อที่ปรากฏในเอกสาร บางรายเสียชีวิตแล้ว ก็ยังมีการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือ ซึ่งจะมีการตรวจสอบต่อไปว่ามีความผิดพลาดอย่างไร
ที่ จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ปปท.กระจายไปตรวจสอบในพื้นที่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ,ต.โป่งผา อ.แม่สาย มีผู้ได้รับสิทธิ์กว่า 300 คน วงเงิน8แสนบาท ซึ่งผล ผลการสอบถามชาวบ้านจำนวนประมาณ 20 รายนั้นทางชาวบ้านให้การว่าได้มีผู้ไปติดต่อให้รับเงินดังกล่าวพร้อมนำเอกสารไปให้ลงชื่อจริง และพวกเขาได้รับเงินคนละเพียง 500 บาท แทนที่จะได้รับตามในจำนวนเต็มคือ 2,000 บาท
นอกจากนี้จากการสุ่มตรวจไปยังผู้ที่ได้รับเงินบางราย พบว่า เป็นคนที่มีฐานะดีไม่ได้ยากจนจนเข้าลักษณะเป็นคนยากไร้แต่อย่างใด โดยมีทั้งรถยนต์และเครื่องประดับ ขณะเดียวกันสืบทราบว่าเงินบางส่วนที่ขาดหายไปถูกนำไปใช้ในการพัฒนาหมู่บ้านซึ่งถือว่าผิดวัตถุประสงค์ บางครั้งนำใส่ซองจดหมายแล้วนำไปมอบให้กับกรรมการหมู่บ้านบางแห่งลักษณะคล้ายการซื้อเสียงด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี