“เสือดำ” บุกประชิดถ้ำ“เปรมชัย” กราฟฟิตี้โผล่ใกล้สำนักงานอิตาเลียนไทยฯ ด้าน “ศรีวราห์” ขึงขังลงพื้นที่เร่งรัดคดีที่ภาค 7 ก่อนสั่งมารับเพิ่ม 3 ข้อหารวด “ติดสินบน-งาช้าง-อาวุธปืน” ภายใน 14 มี.ค. ยอมรับ “เจ้าสัว” เตรียมโดดขึ้นเครื่องเจ็ทส่วนตัวบินไป “บังคลาเทศ” ยืนยันทำได้ ไม่อยู่ในเงื่อนไขประกันตัว “บิ๊กป้อม” ฟุ้งคดีใกล้จบ
คดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี ที่มี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน ถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหา พร้อมหลักฐานอาวุธปืน เครื่องกระสุน พร้อมซากสัตว์ป่า อาทิ เสือดำ และไก่ฟ้าหลังเทา ตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม ทั้งในเรื่องของคดีความ และการเคลื่อนไหวเกาะติดคดีของภาคสังคม ประชาชน และนักอนุรักษ์
‘บิ๊กป้อม’ชี้ห้าม‘กราฟฟิตี้’จี้คดีเสือดำไม่ได้
ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.61 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของประชาชนที่ออกมากดดันให้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย ว่า ความเคลื่อนไหวในโซเชียลเป็นกระแสสังคม เป็นอีกเรื่อง แต่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามพยานหลักฐาน เป็นไปตามกฎหมาย มีการหาพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างเป็นไปตามรูปคดี ไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยเหลือ รับรองได้
“การแสดงออกของประชาชนผ่านการเขียนรูป กราฟฟิตี้ ภาพถ่าย ตามจุดต่างๆเป็นเรื่องที่ไม่สามารถไปห้ามประชาชนได้” พล.อ.ประวิตร กล่าว
การันตี ‘บิ๊กปู’ทำงานดี-คดีใกล้จบแล้ว
เมื่อถามว่ามีกระแสกดดันให้เปลี่ยนตัว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ในการรับผิดชอบคดีดังกล่าว ทาง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทำงานได้ดี และเป็นคนตรงไปตรงมา คำพูดอาจโผงผางบ้าง ซึ่งขณะนี้ไม่มีแนวโน้มอะไรที่จะเปลี่ยนตัว เพราะคดีใกล้จะจบแล้ว
ป้ายเสือดำร้องไห้โผล่อิตาเลียนไทย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณด้านหน้าของบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด มีชายไม่ทราบชื่อ ใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า นำแผ่นป้ายรูปเสือดำกำลังร้องไห้ไปวางหน้าตึกอิตัลไทยทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี-ตัดใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ของนายเปรมชัย
จากการสอบถามชายดังกล่าวขอไม่เปิดเผยชื่อ บอกเพียงว่าตนเองเป็นศิลปินอิสระ และทำเรื่องดังกล่าวเพียงคนเดียว ภายหลังจากนำแผ่นป้ายรูปเสือดำมาเสร็จได้เดินออกจากหน้าอาคารกลับไปทันที จากนั้นประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่อาคารอิตัลไทยได้ให้แม่บ้านนำแผ่นป้ายรูปเสือดำออกจากอาคารทันที
วาดกราฟฟิตี้‘เสือดำ’เยื้องถ้ำ‘เปรมชัย’
นอกจากนี้จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก A CALL for Animal Rights Thailand โพสต์ข้อความเชิญชวนศิลปินกราฟฟิตี้ และเจ้าของกำแพงส่วนบุคคล ร่วมจับคู่วาดกราฟฟิตี้บนกำแพงนั้น ปรากฏว่าเมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (8 มี.ค.61) ที่บริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เยื้องตึกอิตัลไทยทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี-ตัดใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ของนายเปรมชัย ได้มีการจัดกิจกรรมสร้างแลนด์มาร์ค “เสือดำ” โดยกลุ่มกราฟฟิตี้จับคู่กับเจ้าของกำแพงส่วนบุคคล พ่นสีบนผนังด้วยสีสเปรย์เป็นรูป “เสือดำ” (อ่านรายละเอียด : สร้างแลนด์มาร์ค!กราฟฟิตี้'เสือดำ'หน้าตึก'อิตาเลียนไทย' (ประมวลภาพ) http://www.naewna.com/local/325451/)
“ศรีวราห์”ลงภาค7-สอบ“หน.วิเชียร”
ทางด้านความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย และพวก วันนี้(8 มี.ค.61) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7(บช.ภ.7) จ.นครปฐม เพื่อติดตามความคืบหน้าสำนวนคดี โดยในวันนี้ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก และเจ้าหน้าที่อุทยานฯชุดจับกุมนายเปรมชัยได้เดินทางมาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
สั่ง“เปรมชัย”รับ3ข้อหารวด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า วันนี้ได้ประชุมกับพนักงานสอบสวน เพื่อเร่งรัดสำนวนคดี และรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ทุกข้อหา ก่อนส่งฟ้องพนักงานอัยการให้ทันในวันที่ 26 มี.ค.61 นอกจากนี้ในการประชุมได้ตรวจพยานหลักฐานเกี่ยวกับข้อหาพยายามติดสินบนเจ้าพนักงานของนายเปรมชัย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายวิเชียร กรณีเป็นผู้ร้องทุกข์แจ้งความเอาผิด
“มีประจักษ์พยานที่จะเอาผิดนายเปรมชัยในข้อหาพยายามติดสินบนได้ โดยวันนี้จะแจ้งข้อกล่าวหานายเปรมชัย ก่อนจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 14 มี.ค.61 พร้อมข้อหาที่ได้แจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ 2 ข้อหา คือ คดีเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืน และร่วมครอบครองงาช้างแอฟริกาโดยผิดกฎหมาย” รอง ผบ.ตร.กล่าว
ยอมรับ“เจ้าสัว”เตรียมบินไปนอก
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวยอมรับด้วยว่า ได้รับรายงานว่านายเปรมชัย มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นสิทธิ์ของนายเปรมชัยสามารถทำได้ เพราะไม่อยู่ในเงื่อนไขการประกันตัวของศาล และนายเปรมชัยได้แจ้งมาที่เจ้าหน้าที่แล้ว แต่ไม่ได้แจ้งจุดหมายและกำหนดกลับ ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางไว้ว่านายเปรมชัยเดินทางไปที่ใด
ส่วนวันที่ 14 มี.ค.61 ที่นายเปรมชัยต้องมารับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อหาใหม่ ก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาได้ แต่หากไม่มาและไม่แจ้งขอเลื่อน ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 โดยการเดินทางอออกนอกประเทศครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินคดีใน 9 ข้อหาแรก เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่งฝากขังต่อศาลและอยู่ในอำนาจของศาลแล้ว
แฉบินเจ็ทส่วนตัวเข้าบังคลาเทศ-แจ้งกลับ11มี.ค.
สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศของนายเปรมชัยนั้น มีการทำหนังสือถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยแจ้งกำหนดการเดินทางโดยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เดินทางออกจากประเทศไทยในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ทางสนามบินดอนเมืองไปยังประเทศบังคลาเทศ ในเวลา 09.00 น. มีลูกเรือ 2 คน และผู้โดยสารจำนวน 4 คน และเดินทางกลับมาในวันที่ 11 มี.ค.ในช่วงเวลาประมาณ 17.30 น.
กรมอุทยานฯรับมอบงาช้างจากปทส.
วันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) นายนุวรรต ลีลาพตะ รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายถิรเดช ปาละสุวรรณ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ดำเนินการตรวจวัดขนาดและอัตลักษณ์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของงาช้าง 2 คู่ ที่ตรวจยึดมาจากบ้านพักนายเปรมชัย ก่อนรับไปจากตำรวจ ปทส. เพื่อนำไปเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานในคดีที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานายเปรมชัย และภรรยา ครอบครองซากสัตว์ป่า จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
แฉซิกแซกอ้างมรดกจดเป็น“งาช้างไทย”
ด้าน พ.ต.อ.มงคล พรานสูงเนิน ผกก.1 บก.ปทส. กล่าวว่า นายเปรมชัยได้ขอขึ้นทะเบียนงาช้างทั้ง 2 คู่ ว่า เป็นงาช้างบ้าน โดยระบุว่าเป็นมรดกตกทอด แต่ภายหลังการตรวจพิสูจน์ พบว่า เป็นงาช้างแอฟริกา จึงต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวน ปทส. ได้นัดนายเปรมชัย และภรรยา รวมทั้ง น.ส.วันดี สมภูมิ ผู้รับรองว่าเป็นงาช้างบ้าน มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มีโทษตามมาตรา 47 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับที่ ปทส. ในวันที่ 14 มี.ค.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี