ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 7 เดือน ไม่รอลงอาญา “เสี่ยขาว” ผู้บริหาร “ซานติก้าผับ” ฐานเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิต กว่า 85 ล้าน ก่อนคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.4050/2553 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว อายุ 50 ปี กก.ผจก.บริษัท ไวท์ แอนด์ บราเธอร์ส (2003) จำกัด ผู้บริหารซานติก้าผับ ย่านเอกมัย เป็นจำเลย ในความผิดฐานหลีกเลี่ยงการเสียภาษีสรรพสามิต ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 4, 25, 48, 136, 148, 164, 165, 167 ตามฟ้องอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2553 ระบุพฤติการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2546-31 ธันวาคม 2551 จำเลยกับพวก ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ต่อเจ้าพนักงานสรรพสามิต ในการขอใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ โดยมีเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีสรรพสามิต โดยไม่ยื่นแสดงแบบรายการภาษี และไม่ชำระภาษีสรรพาสามิต ต่อกรมสรรพสามิต รวม 85,382,470.67 บาท เหตุเกิดที่แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา แขวงถนนนครไชยศรี และเขตดุสิต กทม. เกี่ยวพันกัน จำเลยให้การปฏิเสธสู้คดี

โดยก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษา ว่า นายวิสุข มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีฯ จริงตามฟ้อง จึงให้จำคุก 4 กระทงๆ ละ 3 เดือน รวมจำคุก 12 เดือน ส่วนข้อหาแจ้งความเท็จ และข้อหาอื่นๆ ให้ยกฟ้องเนื่องจากคดีขาดอายุความ ต่อมา นายวิสุขได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลยกฟ้อง โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันไม่ยื่นแบบรายการภาษี เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีสรรพสามิตประจำเดือนมกราคม 2548-ธันวาคม 2551 อัยการโจทก์ จึงยื่นฎีกา เพื่อให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ศาลฎีกา ได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว เห็นว่า แม้บริษัทไวท์แอนด์บราเธอร์สฯ จะจดทะเบียนเปลี่ยนตัวกรรมการผู้มีอำนาจจากจำเลย เป็นบุคคลอื่นแล้ว แต่จำเลยยังคงเข้าไปดูแลกิจการของสถานบริการซานติก้าผับแต่เพียงผู้เดียวทั้งด้านบริการลูกค้าและด้านการเงิน จึงแสดงให้เห็นว่า ยังคงเป็นเจ้าของอยู่ ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการสถานบริการ ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 4 จึงต้องมีหน้าที่ยื่นแบบรายการภาษีสรรพสามิต และชำระภาษีสรรพสามิต

ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้ให้จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 4 ,48(2), 164 ฐานไม่ยื่นแบบภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีสรรพสามิต ให้จำคุก 4 กระทง โดยจำคุก 1 เดือน สำหรับความผิดในปี 2558 ตามที่อัยการโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานการไม่ยื่นแบบรายการภาษีและไม่ชำระภาษีของเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ส่วนความผิดอีก 3 กระทง ฐานไม่ยื่นแบบภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ให้จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวมทั้งสิ้น 7 เดือน ไม่สมควรรอการลงโทษ จากนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัวนายวิสุขไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ