‘สุกิจ’ชี้‘แผน’ไม่ใช่สาระสำคัญ แขวะเป็นพยานแล้วถูกจับคือมาตรฐานใหม่
19 มี.ค.61 นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีข้อความอ้างถึงคดีหวย 30 ล้านบาท ระบุข้อความอ้างว่า “คดีหวย 30 ล้าน กองบัญชาการสอบสวนกลาง และกองบังคับการกองปราบ “แจ้งข้อหา หมวดจรูญ. ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ และรับของโจร”คือสำนวนที่ 1
ส่วน. “กรณี รตทจรูญ แจ้งจับครูปรีชาฯ ในความผิดฐานแจ้งความเท็จนั้น”คือสำนวนที่2
สรุป ตำรวจแจ้งข้อหาทั้งสองฝ่าย
มีปัญหาที่จะต้องพิจารณาคือ นายแผน กระทำผิดฐานให้การเท็จหรือไม่
เห็นว่า นายแผนได้เห็นว่าหมวดจรูญฯเก็บสลากกินแบ่งได้ 5 ใบ ตำรวจภูธรภาค 7 ก็นำมาสอบสวน แต่เมื่อนายแผนไม่ได้ระบุว่าสลากเจ้าปัญหาเป็นของใคร และหมายเลขใด
จะเห็นหรือเห็นคับคล้ายคับคา ก็หาเป็นไม่ใช่สาระสำคัญแห่งคดี ทั้งนี้นายแผนไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่าเป็นสลากที่ถูกรางวัลที่ 1
นายแผนจึงเป็นเพียงพยานบอกเล่า และเป็นพยานแวดล้อมที่เห็นหมวดจรูญเก็บสลากได้เท่านั้น แต่จะเป็นสลากหมายเลขใดนั้น นายแผนไม่ได้ยืนยัน
หากนำเขามาเป็นพยานแล้วไปจับเขาอีก ก็เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ คงไม่มีใครกล้าเป็นพยานแล้วตำรวจกองปราบต้องรับแจ้งคดีแจ้งความเท็จไม่หยุดหย่อน มาตรฐานทางกฏหมายต้องมี ไม่ใช่ให้ข่าวเพียงฝ่ายเดียว การแถลงข่าวนั้นต้องเกิดจากพยานหลักฐานเดิมเป็นอย่างไร และที่ได้หลักฐานใหม่เป็นอย่างไร ต้องตอบสังคมได้ นะครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี