หมู่บ้านแทบแตก!ชาวบ้านสุรินทร์โวยประปาหมู่บ้านพังนับเดือน ไร้หน่วยงานเหลียวแล
19 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเชื้อเพลิงสามัคคี หมู่ 12 ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กว่า 200 หลังคาเรือน ว่ากำลังได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากเครื่องผลิตน้ำประปาหมู่บ้านชำรุดมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ไม่มีใช้สำหรับอุปโภค บริโภค ต้องพากันลำบาก และต้องซื้อน้ำใช้ในราคาแพง
นอกจากนี้ ชาวบ้านได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านเชื้อเพลิงสามัคคี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อบต. ทราบแล้ว แต่ได้รับแจ้งว่าต้องรองบประมาณจากทางราชการ ซึ่งไม่ทราบว่าจะมาเมื่อใด ส่วนเงินในหมู่บ้าน ซึ่งมีรายได้จากตลาดนัดในหมู่บ้าน การขายปลาในสระน้ำในหมู่บ้าน เงินเก็บค่าน้ำประปาแต่ละเดือน และงบประมาณทางราชการครั้งก่อนเป็นจำนวนมาก สามารถที่จะนำมาซ่อมเครื่องผลิตน้ำประปาได้ แต่มีการเบิกเงินดังกล่าวไปใช้ส่วนอื่นๆจนหมด โดยไม่ซ่อมประปา เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งพบว่ายังมีการบริหารเงินหมู่บ้าน ส่อไปในทางทุจริตหลายรายการ โดยไม่มีการชี้แจง
ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่บ้านเชื้อเพลิงสามัคคี หมู่ 12 พบว่า น้ำประปาหมู่บ้านไม่ไหลมากว่า 1 เดือนแล้ว ชาวบ้านต้องพากันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการซื้อน้ำในราคาแพงถึงถังละ 30 บาท เพื่อใช้อุปโภค บริโภค และลงขันกันซื้อท่อพีวีซี และขอยืมปั้มไดโว่จากวัดบ้านเชื้อเพลิง เพื่อมาสูบน้ำจากหนองน้ำสาธารณะบ้านเชื้อเพลิง เข้าบ้านเพื่อใช้น้ำทุกวัน ขณะที่ชาวบ้านบางรายที่ไม่มีเงินพอ ก็ต้องมาตักน้ำจากหนองน้ำสาธารณะบ้านเชื้อเพลิง ขึ้นมา หิ้วคุถัง กลับไปบ้านประมาณกว่า 500 เมตร
นางขนิษฐา สายไทย ชาวบ้านเชื้อเพลิงสามัคคี กล่าวว่า ชาวบ้านเชื้อเพลิงสามัคคี กว่า 200 หลังคาเรือน เดือดร้อนเรื่องน้ำประปาหมู่บ้านชำรุดมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ไม่มีแม้กระทั่งน้ำจะซักผ้า อาบน้ำ ทำให้เนื้อตัวเหม็นกันทั้งหมู่บ้าน ต้องไปซื้อน้ำมาใช้ในราคาแพง โอ่งละ 30 บาท ชาวบ้านก็ฐานะยากจนกันอยู่แล้ว ไม่สามารถที่จะซื้อน้ำใช้ได้ตลอด
“อยากวิงวอนผ่านสื่อถึง ผู้นำ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่แก้ไขให้ชาวบ้านอย่างเร่งด่วน เงินชาวบ้านก็ให้ไปแล้ว 25,000 บาท แต่ก็ไม่ยอมซ่อมไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร วันนี้ชาวบ้านจึงรวมกลุ่มกันประท้วง และร้องเรียนให้นักข่าวลงพื้นที่ จี้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งแก้ไข” นายขนิษฐา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะลงพื้นที่ นายวิลิตร์ ทาแค ผู้ใหญ่บ้านเชื้อเพลิงสามัคคี และชายฉกรรจ์คนสนิท 3-4 คน ได้ขับรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สี่ประตู สีขาว ขับเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมจอดถามกลุ่ม ชาวบ้าน และนักข่าวว่าพากันมาทำอะไร
จากนั้น นายวิลิตร์ กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือไปที่ อบต.เชื้อเพลิง เพราะงบประมาณในการซ่อมประปาหมู่บ้านมันเกิน และได้ติดต่อช่าง ตนมีการสร้างนั่งร้านจะเปิดให้ใช้น้ำประปา ก็ปรากฏว่ามีคนมาแอบต่อ จนทำให้ซัมเมอร์ส หรือปั๊มบาดาล ไหม้เสียหาย มีช่างเยอะในการทำเอง ในขณะที่ตนกำลังสร้าง กำลังซ่อม ตนวิ่งหาช่างที่ชำนาญงาน เพราะผู้ใหญ่บ้านทำเองมันไม่ได้ ตนวิ่งหาช่าง และไม่ได้นิ่งนอนใจ
นอกจากนี้ ตนยังติดรับประชาคมหมู่บ้าน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจากนั้นก็ไปสร้างศาลาใหม่ที่นิคม จะต้องคอยคุมช่าง เตรียมเอาเงินมาซ่อมเพื่อบรรเทาปัญหาให้ชาวบ้าน ซึ่งคณะกรรมการหมู่บ้านยังถือเงินอยู่ ยังไม่ได้มีการประชุม คิดว่าจะเรียกประชุมประชาคมหมู่บ้านวันนี้
“ส่วนเงินที่ชาวบ้านให้มา 25,000 บาท ก็ดำเนินการอยู่ เงินผมไม่ได้ถือเอง ให้คณะกรรมการหมู่บ้านเขาถืออยู่ ด้วยภารกิจผู้ใหญ่บ้านมีมาก ไปวิ่งเอากองทุนเงินล้าน เพื่อมาแจกจ่ายชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนมาก ได้ประสานของบประมาณ จาก นายก อบต.เชื้อเพลิง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายวิลิตร์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้โทรศัพท์สอบถาม นางอนงค์ เมืองไทย นายก อบต.เชื้อเพลิง ซึ่งเปิดเผยว่า ทาง อบต.เชื้อเพลิง ยังไม่ได้รับการประสานขอรับงบประมาณจากผู้ใหญ่บ้านเชื้อเพลิงสามัคคีแต่อย่างใด ซึ่งโดยปกติแล้วการบริหารจัดการประปาหมู่บ้าน จะมีคณะกรรมบริหารการใช้น้ำ และมีการจัดเก็บค่าใช้น้ำประปา ทำให้มีรายได้เข้ากองทุนประปาหมู่บ้าน ซึ่งมีงบประมาณเพียงพออยู่แล้ว ทาง อบต.เชื้อเพลิง ได้ช่วยแก้ปัญหาด้วยการส่งรถน้ำแจกจ่ายน้ำ ให้กับชาวบ้านมานานกว่า 1 เดือนแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี