เปิดใจพระสงฆ์เจ้าของโพสต์ “ไก่หัวขาด-แต่ไม่ตาย” วัย 34 ปี ทนายความฝีปากเอกเมืองราชบุรี เผย “คุณนำมันมาเลี้ยงเพื่อหาผลประโยชน์จากมัน พอหมดประโยชน์ก็นำมาปล่อยทิ้งให้มันอยู่ตามยถากรรมมันเป็นบาป ไก่ตัวนี้หัวใจมันนักรบโดยแท้จริง แม้หัวมันจะขาดหายไปบางส่วนแต่มันก็ไม่อยากตาย” ขณะที่หมอรักษาระบุ ไก่ยังแข็งแรงดี แต่ต้องเฝ้าติดตามการติดเชื้อที่บาดแผล
27 มี.ค. 61 จากกรณีที่โลกกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและเรื่องราวของ ไก่หัวขาดแต่ไม่ตาย ที่โพสต์โดย ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "นพพงษ์ สนิทรักษา" ได้โพสต์ภาพพร้อมคลิปที่ทำเอาหลายๆ คนถึงกับต้องอึ้ง กับเรื่องราวของ “ไก่ไม่มีหัว” ตัวหนึ่ง ที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร พระอารามหลวง ตำบลหน้าเมือง อำเภอ จังหวัดราชบุรี
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับเจ้าของเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นพระภิกษุสงฆ์ นามพระนพพงษ์ ฐิตธัมโม เป็นพระลูกวัด อายุ 34 ปี ชาวอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และมีอาชีพเป็นทนายความในเมืองราชบุรี โดยได้เปิดเผยเรื่องราวของไก่หัวหายตัวดังกล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะมาบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่วัดนี้ ตนเองมีอาชีพเป็นทนายความ รับว่าความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อน และการถูกเอารัดเอาเปรียบ ได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ เข้าเดือนที่ 4 เป็นการ บวชให้โยมพ่อโยมแม่
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมาหลังจากพระทำวัตรเย็น เวลาประมาณหกโมงเย็น มีหลวงพี่พัฒนา เป็นพระรุ่นพี่ในวัดมาบอกว่าเขาเจอไก่ประหลาดตัวหนึ่ง อยู่ที่มุมหนึ่งของโบสถ์วัด ให้ไปดูที จึงได้ถามกลับไปว่าเป็นอย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่าให้มาดูเอง พอพระไปเห็นก็ตกใจงงเหมือนกัน คือเจ้าไก่มันยังไม่ตายเดินเหมือนไก่ปกติ ที่พระเคยดูใน internet คือไก่มันไม่มีหัวแต่มันยืนได้ พระไม่ได้มองว่าเราจะหาผลประโยชน์อะไรจากไก่ตัวนี้หรอก คือ ทุกอย่างสิ่งมีชีวิตมันมีค่า และตัวมันจะเหมือนมันไม่ยอมแพ้มันก็เดินของมันไปได้
จากนั้นจึงให้เพื่อนพระอีกรูปอุ้มไก่ตัวดังกล่าวไปที่กุฏิ เพื่อมาดูอาการรักษาและให้อาหาร โดยจากอาการคือส่วนปากและตาหาย เหลือใบหูทั้ง 2 ข้าง กะโหลกศีรษะ ซึ่งพอดีพระมีอาหารนกขุนทองเหลืออยู่ พระเลยขอ‘ไซริงค์เพื่อใช้เวลาตอนเวลาฉีดให้อาหารไก่ทางสาย เข้าที่ลำคอ นอกจากนี้ไก่มันเชื่องมาก มันกินทันทีและกินเยอะมาก พระเลยคิดว่ามันคงไม่อยากตาย มันคงต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป สัตว์ก็คงมีชีวิตของมันได้ ถ้าเมื่อมันอยากมีชีวิตเราก็ป้อนอาหารให้มันไป แต่เราเรียกมันได้ยินนะ
พระนพพงษ์ ฐิตธัมโมเปิด เผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 มี.ค.61 พระได้สอบถามไปยังพระรูปหนึ่งได้เล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังกวาดพื้นรอบโบสถ์ ได้เห็นไก่ตัวนี้ มันโดนไก่แจ้ตี ไก่แจ้ของวัด ขณะนั้นมันยังมีหัวครบไม่ขาดไม่แหว่ง โดยปกติทั่วไป ที่วัดจะมีไก่ แมว และสุนัขอยู่จำนวนมาก จะเลี้ยงแบปล่อย และปกติมันจะไม่ดุ และพระรูปดังกล่าวยังเล่าให้ฟังว่าเห็นไก่ตัวนี้ถูกไก่แจ้เจ้าถิ่นรุมตีเอา เพราะเป็นไก่ที่เพิ่งถูกนำมาทิ้ง หลังจากที่มันถูกตีมันก็จะไปอยู่อีกมุมหนึ่งของโบสถ์ที่ไม่มีไก่อื่นอยู่ แต่พระท่านไม่ได้สนใจ เพราะมันอยู่ในบริเวณนี้ จนล่าสุดมาพบว่ามันใบหน้าขาดหายไป และจากคำบอกเล่าของเด็กวัดเคยเห็นหมากัดไก่ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าไก่หรือเปล่า แต่ก็ค่อนข้างเป็นไปได้เพราะที่พื้นมีขนไก่ซึ่งเป็นสีขาว ตรงกับตัวไก่ตัวดังกล่าว ตอนที่นำมันมาเลี้ยงดุแลมันที่บริเวณหน้ากุฏิ ใช้สุ่มไก่ครอบไว้ และก็คอยป้อนอาหารให้มัน อีกทั้งยังแอบดุมันตลอด จริงๆ ก็ดูชีวิตของไก่ตัวนี้ หลังจากให้อาหารก็คิดว่ามันอาจจะตายก็ได้ แต่ทว่ามันแข็งแรง เหมือนไก่ปกติทั่วไปเลย พอตอนตี 5 พระต้องเตรียมตัวออกไปบิณฑบาต เจ้าไก่ตัวนี้ก็ลุกขึ้นยืนนะฟังไก่ตัวอื่นขัน มันจะยืนส่ายหัวไปส่ายหัวมา ตอนนั้นคิดว่ามันไม่ตายหรือ เกิดอาการงง ซึ่งตนเองก็ไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงไก่เลย แต่ที่เลี้ยงมันไว้เพราะมันก็คือสัตว์โลก ถ้าเขาอยากมีชีวิตต่อ อีกทั้งวัดเรานี้ยังหาผู้ที่มีคุณสมบัตินี้ได้เลย
พระเลยเลยตัดสินใจโพสต์ขอคนอุปการะ ซึ่งขณะนี้ได้มีโยม ’แอ๊ะ’ ได้มาให้ความช่วยเหลือประสานงานโรงพยาบาลสัตว์เมืองโอ่ง มารับไปรักษา หมอก็แนะนำว่ารักษาตามอาการ พระก็เลยส่งไปและก็ติดตามคอยโทรหารอยู่ สิ่งที่หวั่นใจคือหอบ
สัตว์มันยังมีพื้นที่ในการดำรงชีวิตอยู่ และยังเป็นการสอนญาติโยมด้วยว่า คือบางคนมีปัญหาชีวิตก็ยากที่จะฆ่าตัวตาย บางทีหนีปัญหาคือการฆ่าตัวตาย คือถ้าพูดถึงว่าไก่มันเป็นขนาดนี้ ถ้าพูดถึงมันเป็นนักกีฬามันสู้มากเลย และการที่คุณเลี้ยงมันเพื่อความสนุก นำไปแข่ง นำไปตี พอถึงวันหนึ่งคุณก็ทิ้งเค้า พอทิ้งเขาปล่อยให้เขาตายทั้งเป็น ลักษณะของไก่ตัวนี้มันเชื่องจับมันก็อยู่
ขณะที่สัตวแพทย์หญิงสุภักดี อรัญทอง รพ.สัตว์เมืองโอ่ง เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางโรงพยาบาลสัตว์เมืองโอ่งได้รับแจ้งจึงเดินทางไปรับตัวไก่ดังกล่าว ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.ราชบุรี มารักษา พบว่าเป็นไก่ชนเพศผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสคาดว่าถูกสุนัขกัดจนปากและดวงตาหายไป เมื่อมาถึงได้ทำการรักษาทันที โดยใช้เครื่องเลเซอร์ยิงที่บาดแผลบนใบหน้า และนำใส่กรงเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด เพราะหวั่นแผลติดเชื้อ อย่างน้อยประมาณ 7 วัน
เบื้องต้นไก่ยังมีโพงจมูกหายใจได้ตามปกติ ส่วนลิ้นเหมือนจะหลุดเพราะเนื้อเริ่มแห้งตาย จะทำให้ไก่ไม่รู้รสชาติแล้ว ต้องใช้การให้อาหารทางสายตลอดเวลาตอนนี้เราได้วางแผนการรักษาไว้ การฆ่าเชื้อโดยให้ทางการฉีดยาวันละครั้ง ทำแผล ล้างแผล และได้เลเซอร์แผลอยู่ ส่วนการให้อาหารจะต้องลองใช้วิธีการใส่สายยางเข้าไปในถุงอาหาร ส่วนเรื่องบาดแผลตอนนี้รักษากันตามอาการก่อน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเราคิดรวมๆ เหมาๆ แค่วันละ 300 บาท ควบคุมทั้งหมด รวมไปถึงการป้อนอาหารด้วย แต่ประเด็นสำคัญ ใครจะเป็นผู้ที่นำเขากลับไปดูแลต่อ ซึ่งจะหมายถึงว่าจะต้องดูแลเขาไปตลอดชีวิตของเขา เหมือนมีผู้ป่วยพิการ 1 ตัวที่จะต้องคอยดูแลตลอด แต่ต้องยอมรับนะว่าไก่ตัวนี้มีความเป็นนักรบของแท้ หัวใจไก่แกร่งมา
สำหรับคนที่ต้องการอยากจะช่วยเหลือก็สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่โรงพยาบาลสัตว์เมืองโอ่ง จังหวัดราชบุรี โทร 032315037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี