ปปง. ร่วมกับ 2 แบงค์ มอบเงินคืนรอบที่ 7 เพื่อนำไปเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหายย้ำโทรสายด่วน ปปง. 1710 ทันที หลังถูกหลอกให้โอนเงิน
3 เม.ย.61 นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ส่งมอบเงินของผู้เสียหายบางส่วนที่สามารถยับยั้งการถอนของมิจฉาชีพได้ รอบที่ 7 จำนวนเงิน 1,523,432 บาท มอบแด่ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ดำเนินการบรรเทาความเสียหายให้กับประชาชน 4 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งก่อนหน้าได้ส่งมอบเงินของผู้เสียหายที่สามารถยับยั้งการถอนจากมิจฉาชีพได้รอบที่ 1 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560 จำนวน 3 ราย เป็นเงิน 1,494,329 บาท รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2561 จำนวน 5 ราย เป็นเงิน 316,010 บาท รอบที่ 3 เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 จำนวน 6 ราย เป็นเงิน 1,481,548 บาท รอบที่ 4 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 จำนวน 9 ราย เป็นเงิน 1,062,414 บาท รอบที่ 5 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 จำนวน 17 ราย เป็นเงิน 2,357,712 บาท และรอบที่ 6 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 จำนวน 5 ราย เป็นเงิน 861,664 บาท รวมทั้ง 7 รอบ เป็นเงินทั้งสิ้น 9,097,109 บาท
นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับสถิติการเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ปปง. มีผู้แจ้งผ่านสายด่วน ปปง. 1710 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 จนถึงปัจจุบัน (2 เม.ย.61) มีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงิน จำนวน 340 ราย เหตุเกิดแล้วรีบแจ้ง 181 ราย เหตุเกิดแล้วแจ้งภายหลัง 159 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 142,704,610.89 บาท สามารถยับยั้งและช่วยเหลือได้จำนวน 81 ราย มูลค่ารวม 35,312,056.07 บาท สำนักงาน ปปง. สถาบันการเงิน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนหลายกลุ่ม แต่มิจฉาชีพก็ยังพยายามหลบหนีและหลบเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ โดยใช้รูปแบบการหลอกลวงแบบใหม่ๆ ที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้การตรวจสอบเส้นทางการเงินยากขึ้นด้วย และใช้ระยะเวลานานกว่าปกติ จึงขอแจ้งเตือนประชาชน ฝากแจ้งเตือนบุคคลใกล้ชิด ขอให้ประชาชนรับฟังการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานของรัฐ และอย่าหลงเชื่อ ซึ่งในอนาคตก็อาจมีการเปลี่ยนรูปแบบใหม่ไปเรื่อยๆ โปรดวางสายทันที เพราะสุดท้ายแล้วมิจฉาชีพต้องการให้ท่านโอนเงิน หรือนำเงินออกจากบัญชีของท่าน และสิ่งสำคัญที่สุดคือ "การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ไม่แจ้งกับใครทางโทรศัพท์ โดยเฉพาะเลขที่บัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัญชีเงินฝาก หมายเลขบัตรเครดิต" ทุกอย่างที่เป็นข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเพียงลำพัง อย่าหลงเชื่อเมื่อมีคนโทรเข้ามือถือหรือโทรเข้าที่บ้าน ให้รีบวางสายทันทีและรีบแจ้งตำรวจ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพใช้บัญชีของประชาชนเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดอีกต่อไป และหากถูกหลอกแล้วให้รีบโทรแจ้งสายด่วน ปปง. 1710 ซึ่งเปิดทำการทุกวันโดยไม่เว้นวันหยุดราชการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี