บรรยากาศเกณฑ์ทหารที่อำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา คึกคัก ฮือฮามีสาวประเภทสอง ขณะที่ผู้ที่จับใบดำ-ใบแดง มีทั้งดีใจร้องไห้ และวิ่งในศาลาประชาคมทหารต้องไล่จับ
3 เม.ย.61 ที่ศาลาประชาคม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายสราวุฒิ ธนาเจริญสกุล นายอำเภอตะกั่วป่า พ.อ.กิตติพงษ์ ขวัญเมือง สวัสดีจังหวัดพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ร.25 ได้ร่วมการคัดเลือกทหารทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2561 ซึ่งสีสันบรรยากาศเป็นวันที่ 3 ภาพรวมทั่วประเทศ และเป็นวันที่แรก เฉพาะผู้มารับคัดเลือกในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า เป็นไปอย่างคึกคัก
โดยเฉพาะในวันนี้มีชายไทยที่อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ จาก 8 ตำบล มีผู้มารายงานตัว 390 คน และสละสิทธิ์ผ่อนผัน จำนวนร่วม 239 คน มาแสดงตนเพื่อเข้ารับการตรวจเลือก พบว่ามีสาวประเภทสองจำนวน 3 คน มายื่นแสดงตนเรียกเสียงฮือฮา ก่อนสอบถามประวัติเบื้องต้น พร้อมทยอยนำตัว ไปให้แพทย์ทหารตรวจในห้องลับที่จัดไว้พิเศษ
อย่างไรก็ตาม แพทย์ทหารคณะกรรมการคัดเลือกได้จัดให้ 3 สาวนะย่ะอยู่ในกลุ่มประเภท ซึ่งไม่เข้าคุณสมบัติการเกณฑ์ทหารแต่อย่างใด ส่วนคนที่จับใบดำ ใบแดง บางรายเมื่อจับได้ไบดำถึงกับดีใจร้องไห้จนมีน้ำตาออกมา บางรายดีใจก็วิ่งในศาลาประชาคม ทางเจ้าหน้าที่ทหารต้องวิ่งไล่จับมาลงชื่อไว้ก่อน สำหรับอำเภอเมืองพังงา ต้องการกำลังพลจำนวน 93นาย สมัครใจรับราชการทหารจำนวน 50 ราย หยิบใบดำ-แดง จำนวน 43 ราย
ด้านจังหวัดนราธิวาสคัดเลือกทหารนราธิวาส เงินเดือนเข้ารับใช้ชาติล่อใจตกเดือนละ 10,000 บาทแห่สมัคร100เปอร์เซ็นต์
อาคารหอประชุมที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.ท.สิทธิชัย บำรุงเขต ผบ. ร้อย 151 พัน 2 ค่ายกัลยาณิวัฒนา ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้เป็นประธานในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ซึ่งปีนี้มีชายไทยที่อาศัยอยู่พื้นที่ 3 ตำบล 1 เขตเทศบาล ของ อ.สุไหงโก-ลก จำนวน 762 คน เข้ารับการคัดเลือก โดยปีนี้ทางกองทัพต้องการชายฉกรรจ์เข้าเป็นทหารกองประจำการในเขต อ.สุไหงโก-ลก จำนวน 73 คน มีผู้สมัครใจรับใช้ชาติ 40 คน และต้องจับสลากใบดำใบแดงอีกเพียง 33 คน
ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปก็มีสีสันต์ไม่แตกต่างจากการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการทั่วประเทศ คือมีหญิงประเภท 2 มาทำการคัดเลือกทหารในครั้งนี้ด้วย ท่ามกลางพ่อแม่พี่น้องและเครือญาติได้เดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
โดยการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการในครั้งนี้ มี พล.ต.วัลลภ ฐิติกุล รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พล.ต.สมพล ปานกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส และคณะ ได้ร่วมเดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้ความบริสุทธิ์ยุติธรรมในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ซึ่งไม่มีการเรียกรับเงินใต้โต๊ะในการช่วยเหลือผู้ที่เดินทางมาคัดเลือกอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันการข้อครหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ด้าน พล.ต.สมพล ปานกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากสภาพความพิเศษของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ในทุกๆ ปีมีประชาชนสมัครรับใช้ชาติมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันทหารกองประจำการหรือทหารเกณฑ์ จะได้รับเงินเดือนรวมเบี้ยเสี่ยงภัย ตกเดือนละประมาณ 12,500 บาท ซึ่งถือว่ามากกว่าพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีเงินเดือนต่างกันตกเดือนละประมาณ 10,000 บาท ส่งผลทำให้การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ในปีนี้ที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งมีการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ไปเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 61 ที่ผ่านมา มีประชาชนสมัครใจรับใช้ชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ไม่ต้องมีการจับสลากใบดำใบแดง
นอกจากนี้ พล.ต.สมพล ปานกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราก็มีกระบวนการขั้นตอนในการกลั่นกรองบุคคลที่เข้ารับใช้ชาติ ไม่ว่าจะสมัครใจเป็นทหารหรือผ่านการจับสลาก เราต้องส่งประวัติบุคคลแต่ละรายให้ทางเจ้าหน้าที่ กองอำนวยการความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 9 ในการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อป้องกันสมาชิกแนวร่วมที่อาจจะอยู่นอกระบบของแฟ้มคดีความมั่นคง เข้าไปอยู่ร่วมในกองทัพที่อาจจะได้ผ่านการฝึกฝนจนมีเขี้ยวเล็บ และบุคคลนั้นปลดจากการเป็นทหารกองประจำการ ก็อาจจะใช้วิชาที่ผ่านการฝึกฝนมาจากภาคสนาม นำไปใช้ในการเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่ต้องกังวนในเรื่องนี้ทางกองทัพมีกระบวนการจัดการในการตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี