7 เม.ย.61 พระครูพิสิฐ ประชานาถ หรือหลวงพ่อแดง นันทิโย เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ต.แควอ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่า วัดอินทารามจัดงานส่งเสริมการขายสินค้าทางการเกษตร มาหลาย 10 ปีแล้ว เพราะเห็นว่า จะพึ่งเพียงแต่ทางราชการจัดงานเทศกาลลิ้นจี่ และของดีเมืองแม่กลองฝ่ายเดียวๆ ไม่ได้ ภาคเอกชนก็ต้องช่วยกันไปด้วยพร้อมๆกัน พระจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไรเพราะเราไปรับเอาข้าวเอาแกง เอาน้ำ ที่เขาถวายมากินกินข้าวแดงแกงร้อน ชาวบ้านมากินหนำสำราญแล้วปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อนได้อย่างไรมีทางไหนช่วยได้ ก็ต้องช่วยกันไปในการจัดงานเกษตรวัดอินกินลิ้นจี่อัมพวา ใช้ชื่อว่า "พุทธเกษตรกรรม" ประกอบทางวัดอินทารามกำลังจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมและทางโลกควบคู่กันไป 

โดยใช้ชื่อโครงการว่า "พุทธเกษตร" หมายถึงความร่วมมือระหว่าง ชาวพุทธ กับเกษตรกรโดยทั่วไป โดยจัด ที่บริเวณหน้าวัดอินทารามที่ติดกับคลองแควอ้อม มีที่ว่างพอจะจัดตลาดนัดได้จึงจัดเป็นตลาดน้ำ และตลาดบก ควบคู่กันไปให้ชาวบ้านนำสินค้าเกษตรมาจำหน่าย ในวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดพิเศษ เริ่มขายตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป เริ่มตั้งแต่วัน 12 เมษายน - 30 เมษายน 2561 บ้านใครไม่ติดทางรถ ก็มาทางเรือ ใครอยู่ติดทางรถก็เอาสินค้ามาขายทางรถส่วนผู้ซื้อส่วนใหญ่ เป็นคนต่างจังหวัดมาท่องเที่ยว มาแสวงบุญ กัน ก็มาซื้อ พืชผักผลไม้ ที่ชาวบ้านนำมาขาย ได้ประโยชน์ 2 ต่อ ได้บุญด้วยได้อิ่มปากอิ่มท้องด้วย สร้างรายได้ให้กับชุมชนปกติชาวบ้านจะมีรายได้จากการเก็บพืชผักผลไม้ในสวนจำหน่ายกันเอง ไม่มีตลาดรองรับ 

บางครั้งขายเหลือหรือตกค้างก็เน่าเสียหากมีสถานที่วางจำหน่ายก็ขายได้ตลอดชาวบ้านมีรายได้ วัดก็มีรายไดบ้านกับวัดแยกกันไม่ได้ ต้องพึ่งพาอาศัยกันสมัยใหม่เรียก การบูรณาการร่วมกันโดยการให้ประชาชนข้ามามีส่วนร่วมทางราชการคอยดูแล เรื่องสิ่งแวดล้อมและความสะอาดความปลอดภัยคือนโยบายไทยยั่งยืน ของท่านนายกรัฐมนตรีทุกปี ที่ลิ้นจี่ติดดอกออกผล 

วัดอินทารามก็จัดตลาดนัดผลไม้ หน้าส้มโอก็ขายส้มโอหน้าลิ้นจี่ ก็ขายลิ้นจี่ มีผลไม้ในฤดูก็นำมาขาย เช่นมะเฟือง มะไฟ มะกรูดมะนาว มะพร้าว พุทรา ละมุดลำไย น้อยหน่า ฝรั่ง ชมพู่ มะม่วง มะละกอและสินค้าเกษตรตัวใหม่คือ ทุเรียน และเมร่อนที่เกษตรกรเริ่มทดลองปลูกกัน ได้ผลดีเสียด้วยต่อไปเชื่อว่า อัมพวา ต้องมีทุเรียนและเมร่อนของอัมพวานำมาจำหน่ายส่วนสาเหตุที่ว่า ทำไมวัดอินทารามจึงต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าทำไมไม่ใช่กิจของพระ ของสงฆ์ มันก็ใช่อยู่แต่ภาวะในปัจจุบันหากชาวบ้านจนขายสินค้าทางเกษตรไม่ได้แล้วจะมีเงินไปซื้อ ข้าวสารอาหารแห้งมาใส่บาตรหรือเมื่อญาติโยม ยากจน วัดจะอยู่ได้หรือ โบสถ์ศาลากุฏิสงฆ์ ก็คงพัง ชำรุดทรุดโทรม ไม่มีเงินซ่อมแซมเพราะไม่มีคนมาทำบุญ

ถ้ามีตลาดนัดขายพืชผลทางเกษตรยิ่งเฉพาะเกษตรปลอดสาร ที่มีผู้นิยมกันมากในเรื่องผักพลไม้ปลอดสารเคมี มีเท่าใดก็ขายได้หมดผู้คนในปัจจุบัน เลือกบริโภค จะเลือกซื้อสินค้าที่กินแล้วปลอดภัย ทางวัดอินจึง บอกกล่าวกับแม่ค้าพ่อค้า ให้นำพืชผลทางเกษตร ที่ปลอดสารพิษหรือสารเคมี ที่เป็นอันตรายกับผู้บริโภคนำมาจำหน่ายเท่านั้น หากมีสินค้าที่เป็นพืชผลทางเกษตร ไม่ปลอดภัย ลักลอบมาจำหน่ายทางวัดจะไม่ให้เข้ามาจำหน่ายในวัดอินต่อไปทางวัดอินจะใช้บทลงโทษ โดยใช้สังคมลงโทษคือถูกตำหนิ จนยืนอยู่ในสังคมไม่ได้

นอกจากนี้ ในการจัดตลาดนัดซื้อขายลิ้นจี่พันธุ์ค่อม และพันธุ์อื่นๆ และส้มโอขาวใหญ่ รวมทั้งส้มสายพันธุ์อื่นๆตลอดจนสินค้าแปรรูปจากพืชผักผลไม้เช่นเปลือกส้มโอเชื่อม มะละกอแก้ว ลิ้นจี่ลอยแก้วทองม้วนสมุนไพร ลอดช่องสิงคโปร์ มะกวน มะม่วงแก้วพุทราเชื่อม มะยมอิ่ม มะขามหวาน น้ำตาลมะพร้าวมะพร้าวอ่อนน้ำหอม มีทั้งสด และเป็นสินค้าแปรูป แล้วสำหรับตลาดนัดผลไม้ ของวัดอินทาราม ในช่วงนี้ผลไม้หลักคือลิ้นจี่ ผลไม้รองลงมาก็คือส้มโอ และมะพร้าวอ่อนน้ำหอมตอนนี้ลิ้นจี่กำลังให้ผลผลิตเต็มที่ ติดดอกออกผลเกือบทุกสวน 

สวนไหนอยากนำลิ้นจี่และผลไม้อื่นๆ มาจำหน่ายที่วัดอิน ยินดีจะจัดสถานที่ให้ แต่ราคาต้องไม่สูงมากนัก ลิ้นจี่วัดอินทารามจำหน่ายกิโลกรัมละ 100 บาท ส่วนส้มโอขาวใหญ่กิโลกรรมละ 40-60 บาท ส้มโอราคาลดลงมาเพราะลิ้นจี่กำลังมาแรง ที่มาแรงเพราะ 4 ปี ผ่านมาลิ้นจี่พึ่งจะติดดอกออกผลในปีนี้ต้องบนบานสานกล่าวกันพอสมควรก็ขอเชิญ มาเที่ยววัดอิน กินลิ้นจี่ ของดีอัมพวาทางวัดอินไม่ใช้คำว่า ของดีแม่กลองเพราะแม่กลองไม่มีลิ้นจี่ แต่อัมพวากับ และบางคนทีมีทั้งส้มโอ และลิ้นจี่ ภาพรวมแล้วคือทั้งสองเป็นของดีสมุทรสงคราม หรือจะซื้อไปทานเองหรือซื้อไปเป็นของขวัญของฝาก ญาติมิตรเข้ามาได้ที่วัดอินทาราม รับรองความผิดหวังมาไหว้พระที่วัดอิน และกินลี้จี่อัมพวา