ยิ่งขุดยิ่งเจอ"ข้าราชโกง"! ป.ป.ท.ส่งลิสต์ชื่อแก๊ง"โกงคนจน"ให้ พส.เพิ่มอีก 60 ราย เตรียมพิจารณาย้ายออกนอกพื้นที่อีกล็อต พร้อมตั้งวอร์รูมไล่เช็คเส้นทางการเงิน-ประเมินค่าเสียหาย ไล่บี้ชดใช้เงินคืนรัฐ ขณะที่ผลสอบขบวนการงาบ"ทุนเสมาฯ"ถึงมือ"หมอธี" พบ 4 กลุ่มใหญ่เจ้าของ"บัญชีผี"รับโอนเงินจาก"รจนา" มีทั้ง"ตชด.-ทหาร-ที่ดิน-ครูเทศบาล" พรุ่งนี้หิ้วตัวส่ง ป.ป.ท.เค้นสอบ พบอีก"ซี 8-2จนท.ศธ"ส่อเอี่ยว
ยิ่งขุดยิ่งเจอ สำหรับการตรวจสอบกรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง หน่วยงานในสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เมื่อมีการตรวจพบข้าราชการแลเจ้าหน้าที่ที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการ “โกงเงินคนจน” เพิ่มเติมอีกกว่า 60 คน เช่นเดียวกับกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ที่ผลการตรวจสอบพบบัญชีการเงินของบุคคล 4 กลุ่ม ที่มีทั้งตำรวจ ทหาร กทม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) และสังกัดกรมที่ดิน ที่รับโอนเงินจากนางรจนา สินที อดีตนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักกิจการการศึกษา สำนักงานปลัด ศธ. ที่รับสารภาพว่าทุจริตเงินกองทุนเสมาฯ และถูกไล่ออกจากราชการไปแล้ว
รัฐบาลเรียกแจงคืบหน้า"โกงคนจน"
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประสาท สุขเกษตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง โดยมีนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.), นายวิทยา นิติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) , เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เข้าร่วมประชุม เพื่อรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ปปท.ขุดเจออีก60‘ข้าราชโกง’
นางนภา กล่าวว่า หลังจากที่ ป.ป.ท.ส่งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ฯ มาให้ พม. เพื่อดำเนินการทางวินัย เบื้องต้นได้พิจารณาพบว่ามีประมาณ 14 รายชื่อ สอดคล้องกับที่ พส.ได้ดำเนินการลงโทษ ทั้งสั่งย้าย พักราชการและสอบวินัยร้ายแรงไปแล้ว ดังนั้นในส่วนที่เหลืออยู่อีกประมาณ 82 รายชื่อ จะต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีความผิดในระดับใด เพื่อให้มีการดำเนินการตามกระบวนการได้เร็วขึ้น
"นอกจากนี้ได้รับทราบจาก ป.ป.ท.ว่าจะส่งข้อมูลรายชื่อผู้เกี่ยวข้องที่พบการทุจริตมาให้ พม.เพิ่มเติม นอกเหนือจาก 96 รายชื่อ คาดว่าน่าจะมีเพิ่มมาอีกราว 60 กว่ารายชื่อ" นางนภา กล่าว
พส.เตรียมสั่งย้ายพ้นพื้นที่อีกล็อต
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการสั่งย้ายเพิ่มอีกหรือไม่ นางนภา กล่าวว่า ตอนนี้รอส่วนที่เหลือของ ป.ป.ท.อยู่ ยังไม่มีการพักราชการเพิ่ม มีเพียงผู้ที่พักราชการก่อนหน้านี้ 5 คน ต้องรอผลของเราให้ชัดเจนอีกครั้ง ว่าจะสอบเพิ่มอีกกี่คน จึงจะดำเนินการต่อได้ ซึ่งต้องใช้เวลาดูข้อมูลก่อน แต่จะเร็วขึ้น เพราะ ป.ป.ท.ได้ส่งข้อมูลให้เราแล้วส่วนหนึ่ง
"โดยเฉพาะในรายชื่อที่ ป.ป.ท.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงไปแล้ว อาจพิจารณาสั่งย้ายออกจากพื้นที่ได้ทันที รวมถึงการพิจารณาสอบวินัยทั้งร้ายแรงและไม่ร้ายแรงด้วย ตอนนี้เราคุยกันว่าข้อมูลทั้งของ ป.ป.ท. , ป.ป.ช. และ พม. จะร่วมกันดำเนินการ แต่ถ้าเป็นข้าราชการในระดับซี 8 ที่อยู่ในตำแหน่งชำนาญการ จะให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ ถ้าเป็นซี 8 ปกติจะให้ ป.ป.ท.ดำเนินการ ส่วน พส.จะดูภาพรวม และดำเนินการในทุกหน่วยงาน เพื่อนำข้อมูลมารวมกันอีกครั้ง" นางนภา กล่าว
ตั้งวอร์รูมไล่บี้ทวงเงินคืนรัฐ
นางนภา กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ได้มีการหารือและร่วมทำงานกับทุกฝ่าย ซึ่ง พส.ก็เร่งรัดการทำงานให้เร็วที่สุด ทั้งนี้การตรวจสอบมีขั้นตอน ตามระเบียบ หากพบความผิดทางวินัย จะต้องพิจารณาถึงฐานความผิดว่าเข้าข่ายระดับไหน ก่อนส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. จากนั้นจะตั้งคณะกรรมการสอบละเมิด เพื่อประเมินค่าเสียหาย ที่ผู้กระทำความผิดจะต้องชดใช้คืนรัฐ
ปปง.ระบุทรัพย์สินแก๊งโกงคืบ60%
ด้านนายวิทยา กล่าวภายหลังการประชุม ว่า วันนี้มารายงานความคืบหน้าและลำดับกระบวนการตรวจสอบ ส่วนรายละเอียดคดีนั้น บางเรื่องยังไม่อยากให้ข้อมูล เช่น เรื่องของ ปปง.ในการการตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะเป็นเรื่องของความลับ อย่างไรก็ตามขณะนี้แต่ละหน่วยมีความคืบหน้าเกิน 60% แล้ว
ไล่เช็คเส้นทางการเงินผอ.ศูนย์ฯ
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ส่วนความยากในกระบวนการนำเงินกลับคืนมานั้น เรื่องดังกล่าวมีกระบวนการทางกฎหมายตรวจสอบอยู่ ขณะนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ส่วนเรื่องการสอบเส้นทางเงินของข้าราชการนั้นเป็นความลับ หากพยานหลักฐานไปถึงใครก็ต้องตรวจสอบทั้งหมด ส่วนที่เป็นห่วงในเรื่องการโยกย้ายทรัพย์สินนั้น เราต้องใช้เวลาตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ เพราะหากดำเนินการกับเงินที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะมีประเด็นขึ้นมาอีก
โยงใครตรวจหมดไม่เว้นขรก.เกษียณ
เมื่อถามว่าเป็นระดับ ผอ.ศูนย์หรือไม่ นายวิทยา กล่าว ใช่ เป็นระดับผอ.ศูนย์ฯ สำหรับระดับปลัดกระทรวง พม. และข้าราชการระดับสูงนั้นยังไม่แน่ใจ ส่วนข้าราชการที่เกษียณอายุไปแล้วนั้น ตามกฎหมาย ปปง.สามารถตรวจสอบได้หมดอยู่แล้ว
"ถ้าทรัพย์สินไปที่ใครก็สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลร่วมกัน ทั้ง ปปง. , ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ถ้าเป็นข้าราชการระดับสูงก็ต้องส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณา ถ้าเป็นระดับซี 8 ลงมา ทาง ป.ป.ท.จะทำหน้าที่พิจารณา ซึ่งกรอบเวลาในการพิจารณาจะเร็วกว่าเดิมที่กำหนดไว้ในเดือน พ.ค." นายวิทยา กล่าว
"หมอธี"เผยพบงาบ"ทุนเสมาฯ"แล้ว96ล.
ส่วนการตรวจสอบกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) นั้น วันเดียวกัน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลัง นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ปลัด ศธ.) และนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตดังกล่าว ได้เข้ารายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริง ว่า ขณะนี้ผลการสืบสวนมีความก้าวหน้ามาก
"จากการสืบสวนเส้นทางบัญชีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินกองทุนเสมาฯไปตั้งแต่เดือน ส.ค.2548 ถึงเดือน พ.ย.60 จำนวน 1,049 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 230,251,144 บาท ในจำนวนนี้ถูกโอนไปเข้าบัญชีบุคคลอื่นที่ไม่ควรจะได้รับ จำนวน 471 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 96 ล้านบาท" นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
แฉพบอีก‘ซี8’/2คนศธ.ส่อเอี่ยว
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ในจำนวนนี้ พบว่า มีการโอนเงินไปให้ทั้งหมดแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ มีทั้งญาติ , คนรู้จัก , อดีตนักเรียนทุน และอาจจะมีข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ระดับซี 8 เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาว่าเกี่ยวข้องในลักษณะใด เช่น อาจจะรู้เห็นเป็นใจด้วย และยังตรวจสอบพบมีข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ มีชื่อในบัญชีรับโอนเงินจากกองทุนเสมาฯด้วย 2 คน ก็กำลังแกะรอยอยู่ว่าเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด
รู้หมดแล้วใครเจ้าของบช.รับโอนเงิน
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการชุดนี้สืบสวนเพื่อนำไปสู่การพิจารณาทางวินัย แต่ถ้าพบผู้ทุจริตแล้ว ไม่สามารถดำเนินการไปถึง ก็จะส่งเรื่องไปให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) , สำนักนักงานตำรวจแห่งชาติ , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ดำเนินการต่อ แต่ขณะนี้เรารู้ตัวบุคคลที่มีชื่อในบัญชีรับโอนเงินแล้ว จึงอยากให้มาให้ข้อมูล เพื่อนำไปสู่การสอบสวน
แก๊งโกงหนาว!เตรียม"เด้ง"ระนาว
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวด้วยว่า การสืบสวนเกือบได้ข้อสรุปหมดแล้ว แต่อยากให้คณะกรรมการสืบสวนทำงานอย่างรอบครอบ ต่อจากนี้ก็จะให้ ปลัด ศธ.ในฐานะหัวหน้าหน่วยราชการ พิจารณาว่าจะโยกย้ายผู้ที่เกี่ยวข้องออก ซึ่งสังคมก็ให้เวลาคณะกรรมการสืบสวนได้ทำงานเต็มที่แล้ว และมีความก้าวหน้าไปมาก คงไม่มีใครหลุดพ้น ใครสร้างกรรมอะไรไว้ก็รับผล เพราะทุจริตกันมานานมากตั้งแต่ปี 2548 ขณะนี้เราก็เอาจริงเอาจังจะได้เป็นตัวอย่าง
สืบพบโอนเงินเข้า52"บัญชีผี"
ด้านนายอรรถพล กล่าวว่า ขณะนี้สืบเส้นทางบัญชีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินกองทุนเสมาฯ พบว่า ถูกโอนไปเข้าบัญชีบุคคลอื่นที่ไม่ควรจะได้รับ 471 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 96 ล้านบาท ในจำนวนนี้พบว่าเป็นบัญชีที่โอนซ้ำซ้อน หรือ “บัญชีผี” รวม 52 บัญชี จึงได้สืบสวนและรู้เจ้าของแล้ว 34 บัญชี ยังเหลืออีก 18 บัญชีที่ต้องสืบต่อว่าเป็นบัญชีของผู้ใด และกำลังส่ง 18 บัญชีนี้ไปให้กับทาง ปปง.ตรวจเช็คให้
เปิด4กลุ่มรับโอนเงินจาก“รจนา”
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ในจำนวน 52 บัญชี พบว่า ถูกโอนไปให้บุคคล 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มนางรจนา และเครือญาติ ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด 2.กลุ่มแวดวงเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกัน ทั้งหลักสูตรปริญญาตรี ปริญญาโท เนื่องจากบางคนมาให้การรับสารภาพกับทางคณะกรรมการสืบสวนแล้ว 3.กลุ่มองค์กรการกุศล ประเภทมูลนิธิ โดยประธานมูลนิธิเป็นผู้รับโอนเงินเข้าบัญชีตนเองรวม 7 ครั้ง จำนวนเงินกว่า 2 ล้านบาท
4.กลุ่มนักเรียนทุนเสมาฯ และอื่นๆ ซึ่งมีความใกล้ชิดสนิทสนม และเรียก นางรจนา ว่า ครู ซึ่งถูกนางรจนาวานให้เปิดบัญชีเพื่อรับโอนเงินเข้า บางรายเล่าว่าเมื่อเปิดบัญชีเสร็จแล้วก็นำบัตรเอทีเอ็มไว้ให้กับนางรจนา จนถึงวันนี้เด็กก็ไม่รู้ว่ามีเงินเข้า-ออกจำนวนเท่าใด
44คนรวมหัวปล้นศธ.โยง“ตชด.-ทหาร-ที่ดิน-ครู”
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า จากเส้นทางการนำสืบของรูปคดี พบว่า มีผู้เกี่ยวข้องจากการเขียนเช็คให้ และที่นางรจนาจ่ายเช็คให้ 6 ราย ซึ่งได้ส่งให้ ป.ป.ท.ดำเนินคดีแล้ว รวมเป็น 28 ราย และพบคนที่ไม่มีบัญชีรับโอน แต่มีชื่อจากการนำสืบแล้วพบว่ามีความเกี่ยวพันใหม่อีก 16 ราย ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบใหม่ตั้งแต่ปี 2548-2561 รวมเป็น 44 ราย ตนจะส่งรายชื่อให้ ป.ป.ท.ทั้งหมด
“มีข้าราชการอยู่ 7 คน ทั้งในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และสังกัดกระทรวงอื่น เช่น ทหารชั้นประทวน 1 ราย, ตำรวจ ตชด. ยศ ร.ต.ต.หรือ ร.ต.ท. 1 ราย, เจ้าหน้าที่กรมที่ดินอยู่ต่างจังหวัด 1 ราย , เจ้าหน้าที่สังกัด กทม. 1 ราย ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของนางรจนาสมัยเรียน และครูเทศบาล 1 รายแต่รายนี้แค่เข้าข่ายสงสัย” นายอรรถพล กล่าว
จนแต้ม!หลักฐานมัดแก๊งงาบสารภาพทุกคน
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คณะกรรมการสืบสวนได้เชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติม 10 ราย รวมถึง นางรจนา โดยมีผู้มาให้ปากคำรวม 5 ราย ก็รับสารภาพทุกคน เพราะจนแต้มด้วยหลักฐานการรับโอนเงิน ยกเว้นนางรจนาที่ยังไม่ได้เดินทางมาให้ปากคำ และจนถึงขณะนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้ โดยในวันพรุ่งนี้(10 เม.ย.61) มีผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 2-3 ราย รับปากว่าจะเดินทางมาที่ ศธ.เพื่อร่วมเดินทางพร้อมกับตนไปให้การกับ ป.ป.ท.ด้วย
หิ้วตัวส่งปปท.เค้นสอบพรุ่งนี้
นายอรรถพล กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ เวลา 11.00 น. ปลัด ศธ.ได้มอบหมายให้นิติกร สำนักงานปลัดกระทรวง ไปแจ้งความกับ ป.ป.ท.พร้อมกับตนด้วย เนื่องจากขณะนี้ สน.ดุสิต ได้โอนคดีนี้ไปให้ ป.ป.ท.ดำเนินการแล้ว เพราะฉะนั้นคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ไปที่ ป.ป.ท.ได้เลย
"พรุ่งนี้ผมจะเดินทางไปยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมให้กับ ป.ป.ท. และจะมีเจ้าของบัญชีผู้รับโอนเงินเดินทางไปที่ ป.ป.ท.ด้วย เพื่อไปให้ข้อมูลกับทาง ป.ป.ท.ถึงกรณีที่ได้รับโอนเงินจากนางรจนาหลายครั้ง" นายอรรถพล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี