14 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ของ จ.นครราชสีมาประชาชน คนหนุ่มคนสาว เยาวชน วัยรุ่น รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติ อาทิ อังกฤช . ฝรั่งเศส , ญี่ปุ่น , จีน และคนไทย จากต่างจังหวัด ต่างอำเภอ คนอีสานออกมาสาดน้ำเล่นสงกรานต์คึกคัก ตามถนนสายหลักในตัวเมือง โดยเฉพาะ ถ.ราชดำเนิน , ถ.จอมสุรางค์ยาตร , ถ.โพธิ์กลาง , ถ.มุขมนตรี และ ถ.สุรนารี และสระยาว 50 เมตรน้ำในสวนสุรนารีหรือสวนรักษ์ คราคล่ำไปด้วยผู้คนและรถยนต์กระบะที่บรรทุกถังน้ำมีประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่มคนสาวนั่งจนแน่นกระบะขับวนเวียนใช้อุปกรณ์การสาดน้ำ เช่น ขันน้ำ ถังน้ำเล็ก ปืนฉีดน้ำทั้งสาด ทั้งฉีดน้ำใส่กันและกัน และการปะแป้งจนหน้าตาเนื้อตัวขาวโพน เปียกปอนมอมแมมเป็นที่สนุกสนานแบบสุดขั้ว 

จนเกิดการจราจรติดขัดแทบไม่ขยับเขยื่น เนื่องจากสองข้างทางและรถมีการเปิดเพลงเสียงดังสนั่นหวั่นไหวรถน้ำต้องจอดแช่ และผู้คนยืนร้องยืนเต้นอยู่เต็มสองฝั่งถนนและกลางถนน ประกอบกับรถจักรยายนต์ขับขี่เล่นสงกรานต์หลังจากที่ทุกคนอัดอั้นมานาน โดยประชาชนต่างสวมเสื้อลายดอก เสื้อสายเดี่ยว และชุดไทย ชุดออเจ้า เล่นน้ำ  บางคนสวมเสื้อวาบหวิวเปิดหน้าอกถูกบรรดาวัยรุ่นรุมปะแป้งแล้วถูกจับหน้าอกจำนวนหลายราย 

รวมถึงเหตุทะเลาะวิวาทยกพวกไล่ตีไล่ต่อนกันหลายจุด บางจุดเอาปืนปลอมออกมาข่มขู่กัน ขณะที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมาขอความร่วมมือประชาชนให้เล่นสงกรานต์ได้ถึงเวลา 19.00 น.เฉพาะบริเวณรอบอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เนื่องจากวัฒนธรรมจังหวัดฯมีการจัดกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน ส่วนรอบนอกมีการเล่นสงกรานต์ไม่ยอมหยุดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องผลักดันรถน้ำออกนอกเมืองกว่าจะเคลียร์เสร็จเวลา 21.00 น.เข้าสู่ภาวะปรกติ  

จากการสังเกตตรวจสอบพบเห็นว่า คนหนุ่ม คนสาว วัยรุ่นส่วนใหญ่ แม้แต่เยาวชนอายุไม่ถึง 15 ปีมีอาการมึนเมาสุราและเบียร์ เนื่องจากร้านค้า แผงต่างๆ มีการจำหน่ายสุราและเบียร์กันง่ายๆและอย่างโจ๋งครึ้ม แม้ว่าทางสาธารณสุขและตำรวจจะใช้รถขยายเสียงประชาสัมพันธ์ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บนฟุตบาตรและบนถนน รวมทั้งบนรถกระบะ แต่ทุกคนต่างฝ่าฝืนไม่สนใจยังคงก้มหน้าก้มตาจำหน่ายขายดิบขายดี ส่วนนักดื่มก็ตั้งโต๊ะริมถนนตั้งขวดเหล้า ขวดเบียร์หน้าตาเฉย ยากต่อการควบคุม โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจเช็คทำบัญชีร้านค้า แผงที่ลักลอบจำหน่ายแล้วจะมีการออกใบสั่งเพื่อให้ไปเสียค่าปรับตามกฎหมายต่อไป 

  ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จังหวัดฯ พร้อมด้วยแม่ทัพน้อยที่ 2 , ผู้การตำรวจ และนางณัฎฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกสมาคมสตรี จ.นครราชสีมา และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า คหบดี กลุ่มสตรี ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมากว่า 1,000 คน เราร่วมกันอัญเชิญพระคันธารราษฎร์หรือพระพุทธรูปพระปางขอฝน ที่ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถของวัดฯขึ้นราชรถแห่รอบตัวเมืองไปยังหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี 

เพื่อเปิดให้ประชาชนสรงน้ำเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2561 โดยมีพระราชสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดฯเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์ 19 รูปสรงน้ำ ก่อนเปิดให้ประชาชนสรงน้ำอย่างใกล้ชิดในวันมหาสงกรานต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล การอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ หรือ พระพุทธรูปพระขอฝนเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่ทางจังหวัดได้นำไปประกอบพิธีลอดซุ้มประตูชุมพล หรือประตูเมือง 

โดยมีเหล่าเทพธิดานางฟ้านางสงกรานต์ทั้ง 7 วัน และพุทธศาสนิกชนญาติโยมประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว ได้สรงน้ำและกราบไหว้สักการะ พร้อมทั้งมีการโยงผ้าสีแสด และสีส้มนวล ความยาว 190 เมตร เป็นการชักพระคันธราราษฎร์ ลอดซุ้มประตูชุมพลกลับไปยังอุโบสถวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร โดยเป็นที่อัศจรรย์ขณะพระสงค์ประกอบพิธีอาราธนาศีลท้องฟ้าได้เกิดเมฆครึ้มปกคลุมทั่วบริเวณในฉับพลันแล้วฝนก็ได้ตกลงโปรยปรายลงมาสร้างความตื่นตาตื่นใจแปลกประหลาดซึ่งทุกคนต่างยกมือไหว้รับน้ำมนต์จากฝากฟ้าสร้างความชุ่มฉ่ำเป็นสิริมงคล ซึ่งฝนที่ตกลงมาจนกระทั่งอันเชิญพระคันธราราษฎร์ขึ้นอุโบสถ ฝนก็ได้หยุดตกทันที โดยประชาชนที่ร่วมพิธีต่างตื่นต้นจนขนลุกในความอัศจรรย์ ต่างมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์    

สำหรับประวัติความเป็นมาพระคันธารราษฎร์ หรือพระพุทธรูปขอฝน เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ของวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร มีขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว สูงประมาณ 1 เมตร 30 เซนติเมตร ครั้งเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ พระยานครราชเสนี (สหัด สิงหเสนี) เจ้าเมืองนครราชสีมาขณะนั้น ได้ริเริ่มประกอบพิธีอัญเชิญ พระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล เนื่องในวันสงกรานต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประชาชนชาวโคราชเรื่อยมาจนถึงปี 2522 พิธีกรรมดังกล่าวได้หยุดไป และได้กลับมาเริ่มใหม่ ซึ่งการอันเชิญลอดซุ้มประตูเมืองมีความเชื่อว่า เพื่อเป็นการขอฝนฟ้าให้ตกต้องตามฤดูกาล จึงเรียกชื่ออีกอย่างว่า พระขอฝน