7วัน418ศพ
ปิดสงกรานต์เลือด
จับเมา-ขับพุ่ง100%
จ่อเด้งผู้การ3จังหวัด
ปิดฉาก 7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ ยอดตายพุ่งแตะ 418 ศพ บาดเจ็บอีก 3.8 พันคน “โคราช”
แชมป์เสียชีวิต เชียงใหม่อุบัติเหตุสูงสุด ขณะที่ 4 จังหวัด “ระนอง-สมุทรสงคราม-หนองคาย-หนองบัวลำภู” ตายเป็นศูนย์ คสช.แฉคนไทยเมาปลิ้น ยอดจับดื่มแล้วขับพุ่งกระฉูด 100% ด้าน ผู้การ 3 จังหวัดหนาว ผบ.ตร. ฮึ่มย้ายเข้ากรุ หลังคุมอุบัติเหตุไม่อยู่
วันที่ 18 เมษายน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์ 2561 ว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเมื่อวันที่ 17 เมษายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ฯ ได้เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้งผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 336 คน
ขณะที่เมื่อรวมอุบัติเหตุสะสมตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน รวม 7 วัน เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 3,724 ครั้ง เสียชีวิต 418 ราย บาดเจ็บ 3,897 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 4จังหวัด ได้แก่ ระนอง,สมุทรสงคราม, หนองคาย และหนองบัวลำภู ส่วนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 133ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดคือเชียงใหม่ 142คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 20 ราย ขณะที่สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ คือ เมาแล้วขับ ร้อยละ40.28 และขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 26.50 กลุ่มที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง คือ กลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.85 โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรงร้อยละ 64.66 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 37.57 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.51ทั้งนี้ ทั้งนี้จากการจัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,029 จุด มีการเรียกตรวจยานพาหนะ 726,847 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 146,589 ราย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับยอดผู้เสียชีวิตสะสมในห้วง 7 วันอันตรายปีนี้ ซึ่งมีจำนวน 418 ราย ถือว่าสูงกว่าปี 2560 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 390 ราย
วันเดียวกัน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงสรุปภาพรวมการทำงานในช่วง 7 วันอันตรายของ คสช. ว่า มีการตรวจพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ทั้งสิ้น 490,512 ครั้ง แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 280,631 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 209,881 ครั้ง ลดลงจากสถิติผู้กระทำผิดในปี 2560 ประมาณร้อยละ 38 สำหรับการยึดรถที่ฝ่าฝืนมีจำนวนทั้งสิ้น 16,288 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 11,768 คันและรถยนต์ 4,520 คันสถิติการยึดรถเพิ่มขึ้นคิดเป็น 100% จากสงกรานต์ปี 2560ยึดรถได้รวม 8,128 คัน ส่วนการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดปีนี้ มีทั้งหมด 310,299 คน แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 196,613 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 113,686 คน เป็นสถิติที่ลดลงจากปี 2560 คิดเป็น ร้อยละ 35 มาจากประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พบว่าการเดินทางไป–กลับ ของประชาชนบนถนนสายหลัก ตรวจพบการดื่มแล้วขับในจำนวนที่น้อยกว่า
รองโฆษก คสช. กล่าวว่า มาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ที่ คสช. ดำเนินการมาตลอดระยะ 4 ปี เป็นมาตรการที่ได้รับเสียงสะท้อนในทางบวกจากประชาชน รวมทั้งมีการเสนอความคิดเห็นให้ยืดระยะเวลาการเก็บรักษารถ รวมถึงบทลงโทษกับผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ คสช. ได้นำสถิติข้อมูลหลังปฏิบัติงานช่วงเทศกาลมาวิเคราะห์และปรับการทำงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้เส้นทาง หวังป้องกันและลดอุบัติเหตุให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
วันเดียวกัน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. แถลงว่า ภาพรวมการเกิดเหตุทั้งประทุษร้ายต่อร่างกายและคดีเกี่ยวกับชีวิตทรัพย์สินลดลง ส่งผลให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมลดลงไปด้วยเช่น ทำร้ายร่างกายผู้อื่น 100 ราย จับได้ 47 ราย ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย 9 ราย จับได้ทั้งหมด ส่วนความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน 442 ราย จับได้ 227 ราย
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ผลจากการอำนวยการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน พบว่า มีบางจังหวัดที่การอำนวยการจราจรของตำรวจไม่เป็นที่น่าพอใจ ผลลัพธ์เกิดการสูญเสีย โดยในวันที่ 19 เมษายน จะออกคำสั่งย้ายผู้บังคับการตำรวจภูธร 3 จังหวัด เข้ามาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เพราะถือว่า เป็นหัวหน้าหน่วยต้องดูแลจัดการในพื้นที่แต่กลับเกิดความบกพร่องสาเหตุปัญหาจราจรมาจากการปฏิบัติงานของตำรวจ ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ การสูญเสีย การบังคับใช้กฎหมาย ใครหย่อนยาน ปล่อยปละละเลย ก็ต้องดำเนินการ
“เรื่องนี้รัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเอาจริง ผมเป็นคนแบบนี้ สั่งการไปแล้ว แต่ไม่สนองตอบ หย่อนยานละเลยก็ต้องจัดการ ชีวิตประชาชนสำคัญ ผมเอง ยังไปตรวจจราจรไปดูพื้นที่ 3 จังหวัด จัดรถตู้บริการประชาชน เหตุที่ย้ายไม่ใช่ เรื่องความพอใจ หรือไม่พอใจของผม จะพอใจ หรือไม่อยู่ที่ประชาชน และเท่าที่ดูทั่วประเทศภาพรวมก็ดี แต่มีเรื่องจราจรที่จะต้องสั่งย้าย ผบก.ภ.จว.แน่ๆ รอดูคำสั่งพรุ่งนี้แล้วกัน” พล.อ.อ.จักรทิพย์ ย้ำ
ทั้งนี้มีรายงานว่า สำหรับ ผบก.ภ.จว. ที่ พล.อ.จักรทิพย์ กำลังพิจารณาว่าจะมีคำสั่งย้ายหรือไป ประกอบด้วย พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พล.ต.ต.สัณฆ์ โพธิ์รักษา ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ และ พล.ต.ต.ถวาย บูรณรักษ์ ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี