19 เม.ย.61 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. , พ.ต.อ.ฐิรวิทย์ บุษบัน ผกก.2 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว ผกก.สส.บก.น.6 , พ.ต.ท.ภูริส จินตรานันท์ รอง ผกก.ป.สน.บางรัก , พ.ต.ต.นพรัตน์ บุญถนอม สว.กก.ดส.และชุดปฏิบัติการ ศปจร.น.แถลงจับกุม นายสมพงษ์ หรือ พงษ์ จำปา อายุ 33 ปี นายจักรภพ หรือ เปเล่ ลีนะธรรม อายุ 28 ปี พร้อมของกลาง รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา แบบแค็ป ทะเบียน 1 ฒส 3960 กทม. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเอกสารอื่นๆ เกี่ยวกับรถยนต์อีกจำนวนหนึ่ง ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร" จับกุมได้ที่ได้ภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปจร.น.จับกุม นายอนันต์ น้อยเคน อายุ 35 ปี นายชาญชัย อ่อนศิริอายุ 39 ปี ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ฯ (รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์) นำส่ง สน.บางพลัด ดำเนินคดี และจับกุมตัว นายธวัชชัย มรกต อายุ 31 ปี ในข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม นำส่ง สน.ดอนเมือง ต่อมาชุดปฎิบัติการ ศปจร.น.สืบสวนขยายผลพบว่า มีการก่อเหตุลักรถยนต์อีกหลายๆ ท้องที่ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายสุวัฒน์ จันทรโส อายุ 48 ปี ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่าถูกคนร้ายขโมยรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา แบบแค็ป ทะเบียน 1 ฒส 3960 กทม.ไป โดยได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่กลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุลงบนโซเชียลมีเดีย
ภายหลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้ประสานงานกับ ศปจร.น.เพื่อติดตามคนร้าย จนกระทั่งทราบว่ารถคันดังกล่าว ถูกนำไปโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก ชื่อ "พงษ์ พรรณราย" มีลักษณะรูปพรรณตรงกับรถของนายสุวัฒน์ ที่แจ้งหายไว้ ชุดจับกุมจึงติดต่อขอซื้อผ่านเฟซบุ๊กดังกล่าว จนทราบว่านายสมพงษ์ เป็นนายหน้าขายรถ ภายหลังตกลงได้นัดรับรถที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ พร้อมของกลางรถยนต์ที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.บางพลี และจากการสืบสวนขยายผลทราบเพิ่มเติมว่า นายจักรภพ เป็นนายทุนรับซื้อขาย จำนำรถรายใหญ่ทางภาคใต้ โดยเฉพาะใน จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎร์ธานี ที่คนในวงการรับจำนำรถรู้จักกันเป็นอย่างดี ในนามเฟซบุ๊กชื่อ "เปเล่ วัยรุ่นสร้างตัว ครอบครัวคือที่หนึ่ง" มีเงินหมุนเวียนในบัญชีหลายล้านบาทต่อเดือน และนายจักรภพ หรือเปเล่ ให้ข้อมูลว่า รถยนต์คันนี้ตนเองซื้อมาจากนายแก้ว ในราคา 90,000 บาท เป็นกลุ่มนายทุนอีกคน (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) เพื่อขยายผลต่อ จากนั้นนำมาให้ลูกข่ายของตนเอง ประกาศขายในเฟซบุ๊กในราคา 125,000 บาท
ด้าน นายสุวัฒน์ จันทรโส อายุ 49 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนทำงานอยู่บริษัทเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งแถวบางพลี จ.สมุทรปราการ ขับรถไปทำงานปกติ จนกระทั่ง 2 เดือนก่อนหน้านี้ รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา แบบแค็ป ทะเบียน 1 ฒส 3960 กทม.หายไป หลังจอดบริเวณหน้าที่ทำงาน ตนได้พยายามตามหาผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการติดต่อมาพบว่า รถติดถูกขายต่อผ่านทางอินเตอร์เน็ต จากการตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้น จนจำร่องรอยที่มีกระจกหน้ามีร่องรอยยุบ ที่ถูกรถจักรยานยนต์ชน กระจกหน้า ไฟท้ายข้างหลัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการประสานงานให้ทำการล่อซื้อรถของตนเอง จนกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว ตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ติดตามรถของตนเองจนได้คืนมา
อีกรายเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฎิบัติการ ศปจร.น.และ กก.สส.บก.น.6 จับกุม นายธงไชย อภิยางกูล อายุ 27 ปี และนายพิเชษฐ์ เอี่ยมโอษฐ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาลักลอบเปิดเพจเฟซบุ๊ก รับทำเอกสารประกอบตัวรถปลอม ของกรมการขนส่งทางบก และบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ประเภทต่างๆ ประกอบด้วย สมุดเล่มทะเบียน , เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี , สำเนารายการจดทะเบียนรถ , และแผ่นป้ายทะเบียน จำหน่ายให้แก่กลุ่มบุคคลที่สนใจ เพื่อใช้ในการกระทำความผิด และเพื่อนำเอาไปสวมกับรถที่ได้มาโดยผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ และได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชลไปแล้วนั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปจร.น.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ได้ทำการขยายผลจับกุมกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวที่มีอยู่ทั่วประเทศ จนสามารถตรวจยึดรถได้ 3 คัน ประกอบด้วย 1.เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ตรวจยึด/จับกุมรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สวมป้ายทะเบียนปลอม 1 กส 969 กทม.นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน 2.เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ตรวจยึด/จับกุมรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ สวมทะเบียนปลอม 5 กช 5882 กทม.นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน และ 3.เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ตรวจยึด/จับกุมรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สวมทะเบียนปลอม 4 กร 8914 กทม.นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี