20 เม.ย.561 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายโค ชาง คุน หรือนายเคลวิ่น (MR.KO CHAN KU) สัญชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 89/2561 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2561
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลและการปฏิบัติการ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการปราบปรามเครือข่ายแก็งคอลเซ็นเตอร์และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่หลอกลวงและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ด้วยความห่วงใยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศป.ฉปทน.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ และมี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ โดยได้ทำการสืบสวนและปราบปรามจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตามที่ชุดสืบสวนของ ศป.ฉปทน.ตร.ได้บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.61 และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 23 คน เป็นคนไทย 22 คน และคนไต้หวัน 1 คน ควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองดูไบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทางการไทยได้ประสานขอตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับมาดำเนินคดีในราชอาณาจักรไทย ซึ่งทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ส่งตัวผู้ต้องกลับมาดำเนินคดีแล้ว 2 ครั้ง ได้นำตัวผู้ต้องหาสัญชาติไทย 22 คน ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยเพื่อดำเนินคดีในความผิดตามหมายจับของ สน.คลองตัน
ต่อมาวันนี้ (20 เม.ย.) ตำรวจชุดปฏิบัติการของ ศป.ฉปทน.ตร. สืบสวนติดตามจับกุม นายโค ชาง คุน หรือ นายเคลวิ่น สัญชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 89/2561 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2561 ในความผิดฐาน “มีส่วนร่วมในองค์กรข้ามชาติ, กระทำการเป็นอั้งยี่และซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ขณะเดินทางเข้าประเทศไทยโดยเที่ยว TG 518 ผ่านเข้ามายังราชอาณาจักรไทย เพื่อเปลี่ยนเครื่องที่จะเดินทางต่อไปยังสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เจ้าหน้าที่จึงประสานทางท่าอากาศยานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการจับกุมตัวนายโค ชาง คุน โดยภายหลังการจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า นายโค ชาง คุน หรือนายเคลวิ่น ได้กระทำความผิดฐาน “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, กระทำการเป็นอั้งยี่และซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างผู้ต้องหาตามหมายจับคดีคอลเซ็นเตอร์ ที่หลบหนีการจับกุมตามหมายจับที่พนักงานสอบสวนทั่วประเทศได้ดำเนินการออกหมายจับไว้ถึงปัจจุบัน (19 เม.ย.61) มีทั้งสิ้น 526 หมายจับกุมแล้ว 295 หมาย ผู้ต้องหาอยู่ต่างประเทศรอการส่งกลับ 47 ราย คงเหลือ 231 หมาย (ไม่มีคุณภาพ 36 หมาย) คงเหลือจำนวนทั้งสิ้น 148 หมาย
สรุปผลการประสานงานความร่วมมือระหว่างประเทศ จำนวน 5 ครั้ง
ครั้งที่ 1 ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2561จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 คน เป็นคนไต้หวัน จำนวน 3 คน, คนมาเลเซีย 2 คน
ครั้งที่ 2 ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2561จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 37 คน เป็นคนไต้หวัน 6 คน, คนไทย 26 คน และคนกัมพูชา 5 คน
ครั้งที่ 3 ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2561 จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 16 คน เป็นคนไต้หวัน 5 คน และคนไทย 11 คน
ครั้งที่ 4 ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองดูไบ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2561 จับผู้ต้องหา จำนวน 23 คน เป็นคนไต้หวัน 1 คน และคนไทย 22 คน
ครั้งที่ 5 ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มณฑลฝูเจี้ยน เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2561 จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 6 ราย เป็นคนไต้หวัน 1 คน และคนไทย 5 คน
สรุปรวมจับกุมผู้ต้องหา ทั้งสิ้น 87 คนเป็นคนไต้หวัน 16 คน, คนไทย 64 คน, คนมาเลเซีย 2 คน และคนกัมพูชา 5 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี