สั่งขัง30วัน‘ร้อยโท’
เมากร่างดึงคอเสื้อตชด.
ให้ย้ายกลับต้นสังกัดเดิม
ทำงานโยธาในค่ายทหาร
กกล.บูรพาสั่งลงโทษวินัยร.ท.หน่วยข่าวโชว์เก๋าเมากร่างกระชากคอเสื้อตชด.สั่งให้ไปขอขมาคู่กรณีแล้ว พร้อมลงโทษสถานหนักขัง 30 วันย้ายกลับต้นสังกัด รวมทั้งให้ทำงานโยธาทุกวันในเรือนจำทหารค่ายจักรพงษ์ปราจีนบุรี
ความคืบหน้ากรณีร.ท.อรุณ แก้วเหลี่ยม สังกัด ร้อย.ลว.ไกล พล.ร.2 รอ.ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าชุดปฏิบัติงานข่าว กองกำลังบูรพา (หน.ชปข.กกล.บูรพา)ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จับดึงคอเสื้อและพูดในลักษณะเชิงสั่งสอนต่อตำรวจตะเวนชายแดน(ตชด.)สังกัด ตชด.12ในพื้นที่ บ้านคลองแผลง ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จนมีการนำคลิปวิดีโอไปเผยแพร่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมนั้น
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม กองกำลังบูรพา ( กกล.บูรพา ) ได้ชี้แจงว่า หลังเกิดเหตุได้ส่งนายทหารและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนกรณีนี้ตามระเบียบ ทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือร.ท.อรุณ แก้วเหลี่ยม จึงได้ดำเนินการลงโทษไปแล้ว โดยให้ร.ท.อรุณไปทำการขอขมาต่อ ส.ต.ต.เจตรินทร์ โฮมแพน ผบ.ชค.ตชด.12 เพื่อยุติปัญหาข้อบาดหมางและความขัดแจ้งต่อกันหลังจาก ส.ต.ต.เจตรินทร์ ไปแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ยังให้ส่งตัว ร.ท.อรุณ กลับไปปฏิบัติหน้าที่ ณ ที่ตั้งหน่วยปกติต้นสังกัด โดยให้รายงานตัว ณ ร้อย.ลว.ไกล พล.ร.2 รอ. ภายในวันที่ 3 พ.ค. พร้อมทั้งพิจารณาลงโทษสถานหนัก ร.ท.อรุณ เต็มอำนาจของ ผบ.พล จำนวน 30 วัน และระหว่างที่ขังได้กำหนดให้ทำการปรับปรุงวินัย และทำงานโยธาทุกวัน ในเรือนจำทหารค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกล.บูรพา ยังได้ชี้แจงและสรุปเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย.61 โดย ร.ท.อรุณ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านซึ่งเป็นแหล่งข่าว เรื่องขบวนการลักลอบนำแรงงานชาวกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ จึงได้เดินทางไปพบปะและร่วมดื่มสุรากับชาวบ้านเพื่อหาข่าวเชิงลึกในบริเวณดังกล่าว ในระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ ตชด. จำนวน 10 นาย ได้เดินทางมาร่วมแจกของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ บ.คลองแผลงฯ โดยได้จอดรถกระบะของหน่วยทิ้งไว้โดยไม่ได้ล็อกประตู
ชาวบ้านซึ่งกำลังนั่งดื่มสุรากับ ร.ท.อรุณ จึงได้พูดขึ้นว่า ขโมยปืนมันเลย เมื่อ ร.ท.อรุณ ได้ยินคำพูดดังกล่าว จึงได้ตักเตือนว่า อย่าไปทำเขา และได้เข้าไปตักเตือน จนท.ตชด. ถึงเรื่องการจอดรถ และไม่ได้ล็อกประตู อาจทำให้ทรัพย์สินสูญหาย โดยใช้มือจับดึงเสื้อบริเวณหน้าอกของ ตชด.ดังกล่าว โดย ร.ท.อรุณ ได้ยอมรับว่า ในขณะนั้น มีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา
ส่วนส.ต.ต.เจตรินทร์ โฮมแพน ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.ตชด.12 ปฏิบัติหน้าที่ ประจำร้อย ฉก.ตชด.2 คู่กรณีให้การว่า เมื่อ 30 เม.ย.61 ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ให้การต้อนรับคณะที่เดินทางมามอบถุงยังชีพให้กับประชาชน บ.คลองแผลง ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ที่ประสบภัยน้ำท่วมเนื่องจากฝนตก
ระหว่างที่เตรียมความพร้อมเพื่อรอทำการต้อนรับ คณะที่เดินทางมามอบถุงยังชีพอยู่นั้น ได้มีชายไม่ทราบชื่อและมีอาการมึนเมาเดินเข้ามายังรถยนต์ตราโล่ ที่ใช้เดินทางมายังสถานที่ดังกล่าว และเปิดประตูรถ แล้วโน้มตัวเข้าไปในรถยนต์ เมื่อกำลังพลชุดปฏิบัติหน้าที่เห็นชายคนดังกล่าว จึงได้บอกชายคนดังกล่าวว่า อย่าเปิดประตูรถเข้าไป พร้อมกับทำการปิดประตูรถยนต์ตราโล่ทันที
ขณะเดียวกันนั้นชายคนดังกล่าวแสดงอาการไม่พอใจ ใช้มือกุมที่คอเสื้อของ ส.ต.ต.เจตรินทร์ และเมื่อชายคนดังกล่าวปล่อยมือ ส.ต.ต.เจตรินทร์ พร้อมพวกจึงได้เข้าแถวเพื่อทำการต้อนรับคณะ และเดินทางกลับที่ตั้ง
รายงานการสอบสวน ระบุด้วยว่า สำหรับภาพและคลิปวีดีโอที่ปรากฏว่า ร.ท.อรุณ ได้เมาสุราและได้ทำการข่มขู่ จนท.ตชด.นั้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่า เป็นการกระทำผิดตามตัวอย่างการกระทำผิดวินัยทหาร 9 ข้อ ดังนี้ ข้อ 4 เลินเล่อต่อหน้าที่ราชการ, ข้อ 7 ใช้กิริยาวาจาไม่สมควร หรือประพฤติไม่สมควร และข้อ 9 ดื่มเครื่องดองของเมาจนเสียกิริยา และอาจมีผู้นำไปกระจายข่าวขยายผลจนเกิดข้อขัดแย้งระหว่าง จนท.ตชด. และ จนท.ทหาร ตลอดจนกระทบต่อภาพลักษณ์อันดีของหน่วย ซึ่งกกล.บูรพา ได้ดำเนินการลงโทษทางวินัยสถานหนักต่อกำลังพลดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี