ไม่แจ้ง300ล.
เปิดบัญชี‘สมยศ’พ้นสนช.
เงินเสี่ย‘กำพล’ล่องหน
‘ปปช.’อุบไต๋ชี้แจงแล้ว
เปิดบัญชีทรัพย์สิน “พล.ต.อ.สมยศ” หลังพ้นตำแหน่ง สนช. ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน โดยหนี้ลดลงกว่า 15 ล้านบาท แต่ไร้หลักฐานยืม-คืนเงิน“เสี่ยกำพล” เจ้าของวิคตอเรีย ซีเครท 300 ล้าน ด้านเลขาฯ ป.ป.ช.อุบไต๋ เผย “สมยศ”แจงแล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้ ส่วนจะชี้แจงในบัญชีตอนเป็นผบ.ตร.หรือไม่ ให้สื่อวิเคระห์เอง ย้ำอยู่ระหว่างตรวจสอบ รอข้อมูลสถาบันการเงิน ขณะที่ ยธ.เผยดีเอสไอขยายผลฟอกเงินคดีค้ามนุษย์ วิคตอเรียซีเครท พบพัวพัน40บุคคล เปรยต้องตามเสี่ยกำพลมาให้ข้อมูล
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) มีการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงและคู่สมรส กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา โดยรายละเอียดการแจ้งบัญชีทรัพย์สินระบุมี ทรัพย์สินทั้งหมด 358,683,700 บาท เป็นทรัพย์สินของพล.ต.อ.สมยศ 262,802,209 บาท ของคู่สมรส 95,881,491 บาท
สำหรับรายละเอียดทรัพย์สินของพล.ต.อ.สมยศ ในส่วนเงินฝาก 6,223,731 บาท เงินลงทุน 74,285,877 บาท เงินให้กู้ยืม 109,000,000 บาท ที่ดิน 40,792,600 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,000,000 บาท ยานพาหนะ 500,000 บาท ทรัพย์สินอื่น ที่มีราคาตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป จำนวน 30,000,000 บาท และทรัพย์สินคู่สมรส ในส่วนเงินฝาก 8,415,241 บาท เงินลงทุน 8,822,300 บาท ที่ดิน 45,300,300 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 23,343,950 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป) 10,000,000 บาท
ส่วนหนี้สินนั้นเป็นของพล.ต.อ.สมยศ ในส่วนเงินกู้จากธนาคารและสถาบันอื่นจำนวน 3,313,473 บาท ดังนั้น จึงมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 355,370,227 บาท
ทั้งนี้ ในบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สินที่พล.ต.อ.สมยศยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่งสนช. เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 แจ้งว่า พล.ต.อ.สมยศและคู่สมรสมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 355,857,726 บาท เป็นทรัพย์สินทั้งสิ้น 374,679,849 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 18,822,122 บาท โดยแบ่งเป็นทรัพย์สินของพล.ต.อ.สมยศมูลค่า 246,455,152 บาท ได้แก่ เงินฝาก 11,544,651 บาท, เงินลงทุน 53,117,900 บาท, เงินให้กู้ยืม 109,000,000 บาท, ที่ดิน 40,792,601 บาท, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,000,000 บาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 30,000,000 บาท มีหนี้สิน 13,947,446 บาท
ส่วนทรัพย์สินของคู่สมรสมูลค่า 128,224,696 บาทได้แก่ เงินฝาก 27,790,529 บาท, เงินลงทุน 1,280,216 บาท, ที่ดิน 65,810,000 บาท, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 23,343,950 บาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 10,000,000 บาท มีหนี้สิน 4,874,676 บาท
เมื่อเทียบระหว่างกรณีเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งพบว่า ทรัพย์สินของพล.ต.อ.สมยศ และคู่สมรส มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินลดลง 487,499 บาท โดยพบว่าทรัพย์สินลดลง 15,996,149 บาท หนี้สินลดลง 15,508,649 โดยพบว่าหนี้สินของพล.ต.อ.สมยศ ซึ่งเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ลดลงไป 10,633,973 บาท ส่วนหนี้สินของคู่สมรสไม่มีหนี้สิน ทั้งที่แจ้งไว้เมื่อเข้ารับตำแหน่งมีหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่นจำนวน 4,874,676 บาท
ในส่วนของทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สมยศ เงินฝากลดลง 5,320,920 บาท เงินฝากคู่สมรสลดลง 19,375,288 บาท เงินลงทุนพล.ต.อ.สมยศ เพิ่มขึ้น 21,167,977 บาท เงินลงทุนคู่สมรส เพิ่มขึ้น 7,542,084 บาท เงินให้กู้ยืมจำนวนเท่าเดิม ขณะที่ดินของพล.ต.อ.สมยศมีมูลค่าเท่าเดิม ส่วนคู่สมรสลดลง 20,510,000 บาท ส่วนโรงเรือนสิ่งปลูกสร้างมูลค่าเท่าเดิม ขณะที่ทรัพย์สินอื่นทั้งพล.ต.อ.สมยศและคู่สมรสมูลค่าเท่าเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทรัพย์สินอื่นที่พล.ต.อ.สมยศและคู่สมรสยื่นเอกสารประกอบไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินนั้น อาทิ นาฬิกาโรเล็กซ์ นาฬิกาปาเต็กฟิลลิป นาฬิกาแพนนาไฮน์ ปืนลูกซอง ปืนสั้น ปืนออโตเมติก พระเครื่อง 12 องค์ 25 ล้านบาท เครื่องประดับต่างๆ เช่นสร้อยเพชร สร้อยไข่มุก แหวนเพชร เข็มกลัดเพชร-มุก ต่างหู นาฬิกาแฟรค์งมูลเลอร์ นาฬิกาคาร์เทีย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ ไม่ได้แจ้งเรื่องกู้ยืมเงินหรือการคืนเงินนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์-อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครทมูลค่า 300 ล้านบาทตามที่เป็นข่าว ไว้ในบัญชีทรัพย์สินในส่วนของหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือหนี้สินอื่นแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่า ได้แจ้งหลักฐานการยืมเงินและคืนเงินของนายกำพลต่อป.ป.ช.แล้ว
ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวถึงกรณีไม่ปรากฎหลักฐานการยืมและคืนเงิน 300 ล้านบาทให้นายกำพล ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์-อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครทตามที่พล.ต.อ.สมยศเคยยืนยันว่าแจ้งให้ป.ป.ช.ทราบแล้วว่า พล.ต.อ.สมยศแจ้งบัญชีทรัยพ์สินต่อป.ป.ช. 2 ตำแหน่งคือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และสนช. โดยบัญชีทรัพย์สินในตำแหน่งผบ.ตร.นั้น ตามกฎหมายป.ป.ช.ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะได้ แต่ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจสอบเรื่องการยืมเงิน 300 ล้านบาทจากนายกำพล เบื้องต้นให้พล.ต.อ.สมยศ ชี้แจงมาแล้ว แต่เปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ นอกจากนี้ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบกระแสการเงิน โดยส่งหนังสือถึงสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องด้วย
“พล.ต.อ.สมยศ ยืมเงินนายกำพลช่วงที่เป็นผบ.ตรหรือไม่ ผมไม่ขอตอบ แต่เมื่อในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินของสนช.ไม่ปรากฏ สื่อมวลชนต้องไปวิเคราะห์กันเอง ขณะนี้รอสถาบันการเงินชี้แจงกลับมา เมื่อได้พยานหลักฐานแล้วจะให้เจ้าหน้าที่สรุปข้อมูลเบื้องต้น แล้วรายงานมาให้ทราบ”นายวรวิทย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่มีหลักฐานการยืมเงิน 300 ล้าน แล้วพล.ต.อ.สมยศ ไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของเงินได้ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ นายวรวิทย์กล่าวว่า อย่าเพิ่งคาดเดา รอให้ป.ป.ช.ทำงานก่อน ปกติจะให้เวลาสถาบันการเงินส่งเอกสาร หลักฐานมาชี้แจงภายใน 30 วัน ป.ป.ช.ส่งหนังสือถึงสถาบันการเงินนาน 2 เดือนแล้ว มีบางส่วนที่แจ้งกลับมาและบางส่วนยังไม่ได้แจ้งกลับมา รวมถึงบางส่วนที่ป.ป.ช.ต้องสอบถามเพิ่มเติม ทั้งนี้ ถ้าจำเป็นก็ต้องประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามกาฟอกเงิน (ปปง.)ด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวนี้ยังอยู่ในขั้นตอนแสวงหาข้อเท็จจริง ยังไม่ถึงขั้นตั้งอนุกรรมการไต่สวน และในการรวบรวมพยานหลักฐานก็ต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและถ้อยคำ ถ้านายกำพลไม่สามารถมาให้ข้อมูลได้ก็ต้องดูที่พยานหลักฐานอื่น
ในส่วนนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เปิดเผยถึงการสอบสวนขยายผลคดีค้ามนุษย์กรณีสถานอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ซึ่งมีธุรกรรมเงินกู้ 300 ล้านบาท เชื่อมโยงระหว่างนายกำพล เจ้าของวิคตอเรีย ซีเครทกับพล.ต.อ.สมยศ ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีอาญานายกำพลกับพวก ความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการสอบสวนเสร็จสิ้นสรุปสำนวน พร้อมความเห็นส่งพนักงานอัยการดำเนินการแล้ว
ส่วนการขยายผลตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงอันน่าเชื่อว่า นายกำพลนำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการทำความผิดฐานค้ามนุษย์ไปเปลี่ยนสภาพปกปิดอำพรางทรัพย์สินดังกล่าว ไปยังบุคคลประมาณ 40 ราย ดีเอสไอจึงแยกสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 10/2561 และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบพฤติการณ์โอน รับโอนเงิน รวมทั้งสอบสวนสถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยถึงข้อเท็จจริง ส่วนตัวพล.ต.อ.สมยศ ดีเอสไอ ก็เชิญมาสอบปากคำด้วย คดีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน มีธุรกรรมการเงินจำนวนมากต้องตรวจสอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี