17 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพลเมืองดีโทรศัพท์มาแจ้ง พบ 2 พี่น้องพิการ (พี่)พิการโปลิโอ อาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน โดยการรับจ้างงานทั่วไป และร้อยมาลัยขาย ฐานะค่อนข้างยากจน อยู่บ้านเลขที่ 129 บ้านสวาย หมู่ 6 ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงรุดลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่พลเมืองแจ้งข่าวเข้ามา
ไปถึงพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว สภาพเก่าทรุดโทรมมากแล้ว มีพี่น้องอยู่ด้วยกัน 2 คน ทราบชื่อต่อมา ชื่อนายสาคร สุลินทราบูรณ์ อายุ 56 ปี (พี่ชาย) และนางสาวพัทยา สุลินทราบูรณ์ อายุ 49 ปี (น้องสาว) ทั้ง 2 คนต่างทำงานตามหน้าที่ตน โดยที่นายสาคร สุลินทราบูรณ์ (พี่ชาย) กำลังตัดต้นมันสำปะหลังเป็นท่อนๆ ใส่ถุงไว้ เพื่อเตรียมไว้ไปปลูกช่วยน้องชายของตน ที่ได้แยกไปมีครอบครัวอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เนื้อที่ประมาณ 6-7 ไร่ เมื่อตัดต้นมันสำปะหลัง และเอาใส่ถุงปุ๋ยเสร็จ ก็เอาไปแช่ฮอร์โมนเร่งรากไว้ประมาณ 30 นาที ช่วงเวลาว่างจากการเอาต้นมันสำปะหลังไปแช่ฮอร์โมนไว้ ก็ออกไปพูดคุยกับควายสุดรักที่เลี้ยงไว้ และพาควายไปดื่มน้ำในหนองน้ำข้างบ้าน หลังจากเอาความไปผูกไว้ให้กินหญ้าเสร็จ ก็จะมาช่วยน้องสาวร้อยมาลัยขาย โดยที่ข้างๆ บ้านได้ปลูก ดอกพุด ไว้เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อดอกไว้มาไว้ร้อยมาลัย และมาช่วยกันนั่งร้อย จนกว่าจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ เมื่อเสร็จกิจจากการร้อยมาลัย ก็ต่อด้วยสานแหขาย ตามที่มีคนมาสั่งจองเอาไว้
นางสาวพัทยา สุลินทราบูรณ์ อายุ 49 ปี (น้องสาว) กล่าวว่า เมื่อหลายเดือนก่อน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เข้ามาบอกกับตนว่า ทางกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ได้ประชุมหาแนวทางการช่วยเหลือพี่ชายตนแล้ว แต่ตนก็ไม่รู้ว่าความคืบหน้าเป็นยังไง ไม่ได้ติดตาม จนถึงปัจจุบันก็ปาไปหลายเดือนแล้ว เรื่องนี้ยังเงียบอยู่ ส่วนหน่วยงานอื่นๆ ตนไม่เคยเห็นมีใครมาเลย ทุกวันนี้ ได้น้องสาวที่ไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ คอยส่งเงินมาช่วยเหลือจุนเจือบ้าง และตนก็มีรายได้จากการร้อยมาลัยช่วงก่อนวันพระ 1 วัน ตนขายพวงละ 5 บาท จำนวน 100 พวง และกำดอกไม้ไว้ไหว้พระ กำละ 5 บาท ทำ 300 กำ ใน เมื่อร้อยเสร็จ ตนจะขับรถจักรยานยนต์คันเก่าคู่ใจ ไปส่งให้ลูกค้าที่สั่งประจำ เพื่อเอาไปขายต่อ หากเหลือไม่มีใครรับไปขายต่อก็ต้องทิ้งไป กำไรก็ยิ่งน้อยลงไปอีก และช่วงยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ตนขายไม่ค่อยได้เลย เพราะต่างคนก็ต่างลำบาก บางครั้งก็ขายไม่ได้เลย ต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย
เมื่อช่วงที่ตนยังเด็ก ตนปีนต้นไม้เพื่อเก็บมะขามมาไว้เดินขาย เกิดพลัดตกลงมาทำให้แขนหักต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จนมาถึงทุกวันนี้ แขนข้างซ้ายก็ยังงอไม่ได้เลย หากเป็นช่วงหน้าหนาว ตนจะรู้สึกปวดมาก จนต้องไปหายาแก้ปวดมารับประทาน เรื่องรายได้ ตนและพี่ชายหาได้ รวมกับเบี้ยคนพิการของพี่ชาย เดือนละ 800 แล้ว อยู่ที่ประมาณ เดือนละ 3-4,000 บาท ยังไม่หักค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน ค่าดอกไม้ไว้ร้อยมาลัย และโชคดีที่ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 300 บาท สามารถช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการซื้อข้าวสาร น้ำปลา และอื่นๆ ได้เยอะเลย ตนอยากจะขอบคุณรัฐบาลมากๆ ที่มีโครงการแบบนี้ ช่วยคนจนๆ อย่างตน
นายสาคร สุลินทราบูรณ์ อายุ 56 ปี (พี่ชาย) เล่าว่า บางครั้งชาวบ้านก็ให้ไปรับเหมาถางหญ้าในสวน ได้เงินประมาณ 100 – 250 บาท บางคนให้ถึง 1,000 บาท หากสวนใหญ่หน่อย ส่วนช่วงนี้ น้องชายตนซึ่งอยู่คนละหมู่บ้าน ให้ตนไปช่วยปลูกมันสำปะหลัง กว่า 6-7 ไร่ ตนไม่ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน แต่เป็นข้าวของซะมากกว่า อย่างเช่น ข้าวสาร น้องชายของตนก็แบ่งมาให้เรื่อยๆ ตนมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ต่างคนก็ต่างไปมีครอบครัว ออกไปทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วนน้องสาวที่อยู่ด้วยกันเป็นลูกคนที่ 4 ก็มีน้องคนนี้แหล่ะที่อยู่เป็นเพื่อน และดูแลซึ่งกันและกัน ตนพยายามไม่ให้เป็นภาระของใคร ตนทำเองทุกอย่าง ในเมื่อตนเกิดมาเป็นยังงี้แล้ว ก็ไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อน และไม่เคยคิดน้อยใจในชะตากรรมของตัวเองด้วย พยายามให้กำลังใจตัวเองมาโดยตลอด
ทั้งนี้หากใครต้องการช่วยเหลือครอบครัว 2 พี่น้อง ชีวิตสุดแสนอาภัพนี้ ไม่ว่างจะช่วยบริจาคสิ่งของ หรือช่วยอุดหนุนพวงมาลัยราคาถูกๆ สามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ 087-128-7748 คุณพัทยา (น้องสาว)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี