"บิ๊กโจ๊ก"เปิดปมแค้น"สันธนะ"มาจากการจุบกุมโต๊ดเถื่อนในสนามม้าในอดีต เผย"ผบ.ตร."สั่งเร่งให้ดำเนินคดีโดยเร็วและเป็นธรรม ด้าน"สันธนะ"ไม่กังวลถูกพิจารณาถอดยศ เตรียมขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานที่มีการพระราชทานยศโดยตรง ยันเดินหน้าฟ้อง3นายพล จวกตำรวจอีกดอกเล่นแรงถึงพ่อ "วิษณุ"ชี้ถอดยศทำได้ไม่ยาก
วันนี้ (17 พ.ค.61) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับตำรวจสันติบาล ในฐานะประธานที่ปรึกษา บริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด ผู้ต้องหาคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมืองว่า ใกล้จะจบแล้ว ยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้ง ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้เสียหายให้ครบถ้วนก่อน จากนั้นจะเป็นขั้นตอนของอัยการและศาลที่จะต้องดำเนินการต่อ
แฉปมแค้น"สันธนะ"ถูกจับโต๊ดเถื่อน
"ยืนยันว่าผมไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร และไม่ได้มีปัญหาขัดแย้ง พ.ต.ท.สันธนะ แม้ว่าจะมีชื่อติดอยู่ 1 ใน 3 นายพลตำรวจที่ถูกกล่าวอ้างก็ตาม ซึ่งอาจเป็นเพราะผมเคยไปจับโต๊ดเถื่อนในสนามม้าในอดีต ผมจับทุกราย มีสถิติจับกุมชัดเจน จึงอาจทำให้มีคนไม่พอใจบ้าง แต่ก็ต้องทำตามหน้าที่ ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือไปทะเลาะกับ พ.ต.ท.สันธนะ เพราะไม่เคยคุยกันเลย ไม่มีเลือกปฏิบัติ วันนี้ถ้าเราไม่จัดการแล้วใครจะจัดการ" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของตำรวจมอง พ.ต.ท.สันธนะ เป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้มองเป็นผู้มีอิทธิพลเลย เพราะวันนี้เรามองว่าไม่มีผู้มีอิทธิพล แต่เป็นเพียงการกระทำความผิดเฉพาะกลุ่มหรือบุคคลเท่านั้น มาเฟียก็ไม่มี เราไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงส่วนนี้ส่วนเดียว แต่เราจะต้องดูทุกส่วนให้ครบถ้วน
เผยสอบ"พ่อสันธนะ"แล้วไม่เข้าข่าย
เมื่อถามถึงกรณีที่สังคมกังขาที่ตำรวจออกหมายเรียก พ.ต.อ.สมชาย ประยูรรัตน์ วัย 91 ปี บิดา พ.ต.ท.สันธนะ ฐานให้ที่พักพิงผู้ต้องหาว่า ตนได้สอบถามไปยัง ผกก.สน.โชคชัย แล้ว ทราบว่าเป็นเพียงการตรวจสอบเท่านั้น ซึ่งหลังจากการตรวจสอบพบว่าไม่เข้าข่ายการกระทำผิด ก็ไม่มีอะไร จึงไม่มีการดำเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เราจะเน้นเพียงผู้กระทำผิดเท่านั้น ใครผิดก็จะต้องดำเนินคดีกับคนนั้น คนไหนไม่ผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขา ยืนยันว่าไม่มีเรื่องพ่อแม่เข้ามาเกี่ยวข้อง
"ผบ.ตร."สั่งเร่งดำเนินคดี-เป็นธรรม
ส่วนที่ภรรยา พ.ต.ท.สันธนะ ไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เพราะกลัวถูกยัดข้อหานั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ตนพร้อมให้ตรวจสอบทุกส่วนอยู่แล้วว่าเราทำหน้าที่อย่างไรบ้าง ตำรวจเป็นบุคคลสาธารณะ เมื่อเราทำหน้าที่ก็ต้องพร้อมให้สังคมตรวจสอบด้วย ทำดีหรือไม่ดี สังคมก็ต้องรับรู้ ซึ่งการทำงานในครั้งนี้มีหลายหน่วยงานทำงานร่วมกัน และตนเชื่อว่าไม่มีใครกล้าแตกแถว อยากให้มีการตรวจสอบเยอะๆ จะได้โปร่งใส อยากให้เข้าใจว่าการจะดำเนินคดีกับใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสิทธิและเสรีภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ การจะไปดำเนินคดีกับใครจะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการอย่างไรหรือไม่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มี มีเพียง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ที่สั่งการให้ดำเนินคดีนี้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม เพราะประชาชนรออยู่ วันนี้สังคมจะต้องไม่สับสน สังคมจะต้องเห็นว่าคนดีต้องส่งเสริม คนไม่ดีต้องจัดการ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ง่าย
ตร.ปัดออกหมายเรียก"พ่อสันธนะ"
ด้าน พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจ สน.โชคชัย ออกหมายเรียก พ.ต.อ.(พิเศษ) สมชาย ประยูรรัตน์ บิดาของ พ.ต.ท.สันธนะ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 พ.ค.นี้ กรณีให้ที่พักพิง พ.ต.ท.สันธนะ หลังจากหลบหนีกรณีถูกศาลอาญาออกหมายจับ ในคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ โดยระบุว่า ไม่เคยมีการออกหมายเรียก พ.ต.อ.(พิเศษ) สมชาย หรือบุคคลใดให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ตามที่มีกระแสข่าว แต่อย่างใด
"สันธนะ"ลั่นเดินหน้าฟ้อง3นายพล
ทางด้าน พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ กล่าวว่า กรณีการออกหมายเรียกพ่อของตนเข้าให้ปากคำกรณีให้ที่พักผู้ต้องหานั้น ตนมองว่าเป็นการเล่นแรงเกินไป ส่วนตัวมองว่าอาจจะถูกกดดันจากตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไม่ใช่ในระดับท้องที่ แต่ล่าสุดมีรายงานว่าจะไม่ออกหมายเรียก พ.ต.อ.(พิเศษ) สมชาย แล้ว โดยจะมีการสอบปากคำพยานคนอื่นๆ แทน
พ.ต.ท.สันธนะ ยังระบุว่า ขณะนี้ตนยังอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อฟ้องร้องเอาผิด 3 นายพล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดเผยรายชื่อออกไป โดยเฉพาะในมาตรา 157 คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ในเร็วๆ นี้
"สันธนะ"ยันไม่กังวลถูก"ถอดยศ"
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาดำเนินการเรื่องการถอดยศตนเองด้วยว่า ตนถือว่ายศที่ได้รับค่อนข้างมีความสำคัญ เพราะถือเป็นเกียรติแก่ตนเองและครอบครัว ซึ่งต่อจากนี้ตนอาจจะเดินเรื่องขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานที่มีการพระราชทานยศโดยตรง ซึ่งส่วนตัวไม่รู้สึกกังวล หรือน้อยใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะได้มีการประเมินสถานการณ์มาก่อนแล้ว และเชื่อว่าน่าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้จากองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริง
ส่วนกรณีที่ข้าราชการตำรวจระดับสูงอ้างว่าตนเข้าข่าย 1 ใน 7 ข้อ ที่สามารถจะดำเนินการถอดยศได้ คือประเด็นการทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย ตนมองว่าข้อคิดเห็นดังกล่าวเป็นความเห็นส่วนตัวของนายตำรวจบางคน รวมถึงยังอาจจะเป็นการเข้าขั้นลุแก่อำนาจ ซึ่งตนมองว่าการกระทำทั้งหมดที่แสดงออกมา ก็เพื่อต้องการให้ตนยุติการต่อสู้ผ่านกระบวนการที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าทุกอย่างเป็นไปตามการบังคับใช้ข้อกฎหมาย เนื่องจากตนมีข้อมูลลับบางอย่างขององกรค์กรตำรวจแห่งชาติ โดยอาจมีใครบางคนที่ไม่ต้องการให้ตนเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
วิษณุแจงถอนยศ"สันธนะ"ไม่ยาก
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เรื่องการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาดำเนินการเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.สันธนะ ว่า เรื่องนี้ทำไม่ยากและถอดกันมาเยอะแล้ว ในสมัยที่ตนเป็นเลขาคณะรัฐมนตรีก็มีการถอดยศปีหนึ่งนับเป็น 10 คน ถอดเป็นประจำเกือบทุกวัน แต่ส่วนใหญ่เป็นชั้นประทวน
เมื่อถามว่า กรณีของ พ.ต.ท.สันธนะ ถือว่าการกระทำเข้าเกณฑ์การพิจารณาถอดยศหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้เลย และเหตุของเรื่องว่าอย่างไรก็ไม่รู้ เรื่องการถอดยศก็มีระเบียบว่าด้วยการถอดยศ กำหนดไว้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องตื่นเต้นมาตั้งคณะกรรมการพิจารณา เมื่อก่อนเวลาจะถอดไม่วุ่นวายเหมือนตอนนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี