21 พ.ค.61 นางอรอุมา หนูทอง อายุ 49 ปี ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนในการเป็นสื่อกลางติดตามความคืบหน้าในคดีฆาตกรรมบุตรสาว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจากเวลาล่วงเลยผ่านมาครบ 2 เดือนเต็ม คดีความยังไม่มีความคืบหน้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษทางกฎหมายได้ ขณะเดียวกันทางครอบครัวยังได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะความไม่ปลอดภัยในชีวิตเนื่องจากได้รับการข่มขู่จากผู้กระทำความผิดว่าจะย้อนกลับมาฆ่ายกครัว
นางอรอุมา กล่าว ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตชื่อนางสาวมาลิตา กุลศรี สมรสกับ นายเกรียงศักดิ์ กุลศรี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี ส่วนลูกสาวคนเล็กอายุ 17 ปี ยังเรียนหนังสือที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทั้งหมดอาศัยอยู่ที่บ้านของตน เหตุเกิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ลูกสาวคนเล็กได้มาบอกพี่สาวว่า พี่เขยมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โดยมาชอบพอกับตน เมื่อนางสาวมาลิตา ทราบเรื่องจึงพูดคุยกับสามี ทำให้สามีไม่พอใจ พร้อมระบุความต้องการว่าอยากจะได้น้องสาวมาเป็นภรรยาอีกคน จนเกิดการทะเลาะถึงขั้นทำร้ายร่างกาย นางสาวมาลิตาจึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.พรหมคีรี เนื่องจากสามีได้ข่มขู่พร้อมกับสร้างเรื่องประจานว่าได้เสียกับน้องสาวคนเล็ก จนนำมาสู่การแยกทางกัน
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 เวลาประมาณ 19.30น. ตนได้นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.โดยมีนางสาวมาลิตา (บุตรสาว) เป็นผู้ขับขี่เพื่อที่จะไปกรีดยางจ้างในพื้นที่ ต.นาเรียง ขณะที่ขับขี่มาถึงถนนสายเขาปูน-กำแพงถม บริเวณหน้าบ้านของนายสมพงษ์ จันทร์ภักดี นายเกรียงศักดิ์ ได้ขี่ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาเทียบเคียง พร้อมสั่งบังคับให้หยุดรถ ซึ่งในตัวของนายเกรียงศักดิ์ได้สะพายอาวุธปืนลูกซองยาวติดตัวมาด้วย จึงหยุดรถ จากนั้นนายเกรียงศักดิ์จึงได้ชักอาวุธปืนพกสั้นชนิดไทยประดิษฐ์ ไม่ทราบขนาด ยิงเข้าใส่นางสาวมาลิตา บุตรสาวของตน เข้าที่บริเวณอกขวา 1 นัด ล้มลงเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาตนเอง โดยไม่ได้พูดจาอะไร แต่ทิ้งท้ายไว้เพียงว่าจะกลับมาฆ่าล้างครัว ก่อนขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมคีรี โดยมี พ.ต.ท.เริงชัย ราชกิจจา รอง ผกก.สส.สภ.พรหมคีรีเป็นผู้รับคดี
นางอรอุมา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากวันนั้นถึงวันนี้ครบ 2 เดือนเต็ม ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุตนต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ไม่กล้าออกจากบ้านไปทำงาน ทำให้ครอบครัวขาดรายได้ เพราะเกรงว่านายเกรียงศักดิ์จะย้อนกลับมาฆ่ายกครัวตามคำขู่ จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามตัวนายเกรียงศักดิ์มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเข้ายื่นหนังสือกับศูนย์ดำรงธรรม ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เพื่อให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดีอีกทาง เนื่องจากผู้ลงมือก่อเหตุ เป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ โดยจะทวงถามไปว่า นายเกรียงศักดิ์ กุลศรี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี ยังมีตัวตนอยู่หรือไม่
จากการสอบถามไปยัง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีทราบว่า หลังเกิดเหตุได้ทำการออกหมายจับนายเกรียงศักดิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากข้อมูลข่าวทราบว่าคนร้ายไม่ได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่แล้ว ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการสืบหาแหล่งซุกซ่อน อย่างไรก็ตามทาง สภ.พรหมคีรี จะได้ประสานเครือข่ายตำรวจบ้านเพื่อเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้กับครอบครัวนางอรอุมา ซึ่งหากมีความวิตกกังวลหรือผิดปกติในสิ่งใดคิดว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย สามารถแจ้ง จนท.ตร ให้ทราบได้ทันที โดยทาง จนท.จะได้เข้าไปให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ซึ่งช่วงนี้หากมีผู้ใดพบเห็นคนร้ายที่มีลักษณะตามรูป สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ สภ.พรหมคีรี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาให้ได้รับโทษทางกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี