บ้านศรีสมบูรณ์ ตำบลนิคม อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ โชว์ศักยภาพหมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ อย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับการเป็นชุมชนสารสนเทศเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน บ้านศรีสมบูรณ์ หมู่ที่ 4 ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นางทัศนีย์ ทาสม ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง โดย นายประจักษ์ จอมทรักษ์ พัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ นายอุทัย สิงห์ทอง หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ สำนักงานพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวิถีชีวิตชุมชน บ้านศรีสมบูรณ์ ที่มีความหลากหลายด้านอาชีพและยังมีวิถีชุมชนดั้งเดิมในการดำเนินชีวิตประจำวัน จากหมู่บ้านที่เริ่มต้นจากการเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงก่อนจะยกระดับเป็นชุมชนสารสนเทศเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยว่าที่ร้อยตรีธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ นายมีชัย นาใจดี พัฒนาการ อ.สหัสขันธ์ นายพิเชษฐ์ ปรีจิตต์ ผู้ใหญ่บ้าน ได้คณะร่วมเต้นคองก้า อย่างสนุกสนาน
นายพิเชษฐ์ ปรีจิตต์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านศรีสมบูรณ์ กล่าวว่า ชุมชนมีพื้นที่ติดกับเขื่อนลำปาว อาชีพหลักคือการทำการประมงพื้นบ้าน ตั้งแต่การย้ายถิ่นฐานมาในปี 2510 หลังมีการสร้างเขื่อนลำปาว 50 ครัวเรือน ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินเป็นที่อยู่อาศัย 2 ไร่ ที่ดินทำกิน 13 ไร่ จึงมีการทำไร่ ทำสวน และนาข้าว นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงปศุสัตว์ทั้งโคเนื้อ ไก่ สุกร และยังมีการทอผ้าฝ้าย ทอเสื่อกก ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
โดยชาวบ้านได้เริ่มปรับเปลี่ยนการประกอบอาชีพที่อาศัยนวัตกรรม เทคโนโลยีความรู้ใหม่ๆ และการเรียนรู้เพิ่มเติมจากการที่พัฒนาชุมชน อ.สหัสขันธ์ ได้ส่งไปอบรม และเข้ามาส่งเสริมทักษะต่างๆ จนทำให้เกิดการต่อยอดด้านต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์โอท็อป การจัดการชุมชน และด้านเศรษฐกิจ จนทำให้ชาวบ้านและชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่วิถีชีวิตยังคงยึดถือปฏิบัติตามฮีต 12 คอง 14 อย่างเหนียวแน่น รวมถึงการสืบชะตาปลาที่บริเวณเขื่อนลำปาว ที่จะทำในทุกๆ ปี ในห้วงเดือนพฤษภาคม
นายมีชัย นาใจดี พัฒนาการ อ.สหัสขันธ์ กล่าวว่า บ้านศรีสมบูรณ์ มีวิถีชีวิตชุมชนที่น่าสนใจ มีความสมบูรณ์แบบครบวงจรในส่วนของการดำเนินชีวิตด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งอาชีพประมงพื้นบ้านที่จับสัตว์น้ำมาไว้กินในครอบครัวและแปรรูปเพื่อจำหน่าย มีการเลี้ยงโคเนื้อจากเลี้ยงแบบธรรมชาติก็มีการปรับเปลี่ยนสู่ระบบโรงเรือน การทำเกษตรผสมผสานและเกษตรทฤษฎีใหม่ นอกจากนี้ในส่วนของอาชีพสตรีทั้งการทอผ้าและทอเสื่อกก ได้นำเอาองค์ความรู้ใหม่ๆ เข้ามาส่งเสริม ทำให้มีสินค้าโอท็อปของหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อทั้งผ้าฝ้ายทอมือ เสื่อกกลายขิด มีรายได้ที่ยั่งยืนตลอดทั้งปีทั้งจากภาคการเกษตร ประมง และการจำหน่ายสินค้าโอท็อป
กฤษณ์ ทิพเลิศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี