รวบช่างแกะสลัก
ค้างาช้างข้ามชาติ
สั่งซื้อผ่านเฟซบุ๊ค
ขยายผลล่านายทุน
ตำรวจร่วมกรมอุทยานแห่งชาติฯศุลกากร รวบช่างแกะสลักงาช้างลักลอบค้างาช้างข้ามชาติ สั่งซื้อผ่านเฟซบุ๊คส่งไปรษณีย์ ให้ลูกค้า ในไทย นครสวรรค์ สุรินทร์ บุรีรัมย์ รวมทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ ขยายผลยึดของกลางอื้อ151กก.มูลค่าหลายล้านบาท เร่งขยายผลนายทุนภาคอีสานและลูกค้าต่างชาติ
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.)ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจปฏิบัติการปราบปรามการค้างาช้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศงช.ตร.)พร้อมด้วยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมศุลกากรร่วมแถลงจับกุมขบวนการลักลอบค้างาช้างข้ามชาติของกลางงาช้างดิบ จากแอฟริกา 4 ท่อน นำหนัก 20.39 กิโลกรัม มูลค่า 1 ล้านบาท
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ต้องสงสัยถูกส่งมาจากไปรษณีย์ สาขาพะวง จ.สงขลา ปลายทางที่ทำการไปรษณีย์ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จำนวน 3 กล่อง หลังมีการเปิดตรวจพิสูจน์ ปรากฏว่าของกลาง งาช้างดิบ 4 ท่อน น้ำหนักรวม 20.39 กิโลกรัม และมีการขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดคือนายเอกพล อายุ 33 ปี ชาวสงขลา เป็นช่างแกะสลักงาช้า เป็นผู้จัดส่งงาช้างทั้งหมด
จากนั้นได้ขยายผลค้นบ้านพักในอ.สทิงพระจ.สงขลา พบเศษงาช้างอีก 21 กล่องน้ำหนัก 128.8 กิโลกรัม เศษปลายงาช้าง 68 ชิ้น 9 กิโลกรัม เศษผงงาช้าง 4 กล่อง 13.5กิโลกรัม กระดูกช้าง2ชิ้น สิ่งประดิษฐ์ประดิษฐ์ที่ทำจากงาช้าง18.5กิโลกรัม ของกลางงาช้างแอฟริกาชนิดต่างๆน้ำหนักรวม 151.3 กิโลกรัมไม้พะยูง 48 ชิ้น หน้าสมุดบัญชีเงินฝาก 6 เล่ม ใบแสดงรายการรับ-ส่ง สินค้าผ่านทางไปรษณีย์และได้สืบสวนขยายผลจึงทราบว่า ผู้ต้องหาได้ลักลอบค้างาช้างผ่านเฟซบุ๊คโดยส่งสินค้าผ่านทางไปรษณีย์ให้กับลูกค้าทางภาคเหนือ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์
จากการสอบปากคำนายเอกพล เป็นหนึ่งในขบวนการลักลอบค้างาช้างให้การสารภาพว่าเป็นผู้ส่งงาช้างจริง โดยจะส่งงาช้างไปให้ส่งให้ลูกค้าและยังเชื่อมโยงกับกลุ่มพ่อค้างาช้างและช่างแกะสลักงาช้างในจังหวัดนครสวรรค์ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ นำไปแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์โดยติดต่อกันทางเฟซบุ้คโทรศัพท์
สอบสวนเบื้องต้นพบว่ามีการลักลอบนำเข้างาช้างแอฟริกา ผ่านทางด่านสะเดาแล้วโดยส่งทางไปรษณีย์จาก จ.สงขลาไปยังจ.นครสวรรค์ บุรีรัมย์และสุรินทร์เพื่อแปรรูปเป็นเครื่องประดับ ก่อนส่งกลับไปให้นายเอกพลที่สงขลาเป็นผู้จำหน่ายผ่านทางโซเซี่ยล ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่นิยมและมีการสั่งซื้อ ซึ่งตำรวจมีหลักฐานการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์และเฟซบุ๊ค ซึ่งอยู่ระหว่างขยายผลถึงนายทุนในภาคอีสาน และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
นอกจากนี้จะเชิญกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทางเทคโนโลยี(ปอท.)และไปรษณีย์ร่วมบูรณการติดตามขยายผล ไปยังแหล่งต้นทางที่มีการลักลอบนำเข้างาช้าง
เบื้องต้นตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 1 รายนี้แล้ว ส่วนอีก 3 รายที่มีรายชื่อเป็นผู้รับพัสดุ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า เกี่ยวข้องกับงาช้างที่ตรวจยึดหรือไม่และเตรียมออกหมายจับบุคคลที่ทำหน้าที่บงการจัดส่งงาช้าง ให้นายเอกพลเพื่อส่งต่อไปยังเครือข่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี