1 มิ.ย.61 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่ก่อนมีคำพิพากษาคดีจำนำข้าวของศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองช่วงเดือน ส.ค.2560 ต่อมาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้วีซ่า พำนักในประเทศอังกฤษเป็นเวลา 10 ปี ว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2560 หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับที่ 34/2560 ลง 27 ก.ย. 2560 ฐานความผิด ป.อาญา มาตรา 157 (เดิม) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ม. 123/1 อันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ อันเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกประกาศสืบจับและสั่งการให้ทุกหน่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือส่งหมายจับ ไปที่กระทรวงการต่างประเทศ(กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการถอนหนังสือเดินทางและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง กต.ได้แจ้งยกเลิกหนังสือเดินทางประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แล้วทุกฉบับ
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ในส่วนของการทำคำขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก 5 ปีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีจำนำข้าว ซึ่งตามที่มีภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในสื่อต่างๆว่าไปปรากฏในประเทศต่างๆก็เป็นข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งการจะยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้นั้น ต้องชัดเจนเรื่องที่อยู่ในประเทศที่ร้องขอ และเงื่อนไขการขอตามที่บัญญัติใน พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 ที่เป็นคดีความผิดโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี , เป็นคดีอาญาความผิดทั้ง 2 ประเทศ และไม่ใช่เรื่องการทหารหรือการเมือง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยืนยันที่อยู่ที่แน่นอน หลังจากนั้นทางตำรวจจะส่งให้ทางอัยการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศปลายทางต่อไป
ในส่วนของตำรวจได้ใช้ช่องทางตำรวจสากล ในการติดต่อประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับประเทศสมาชิกทั้ง 192 ประเทศ มาโดยตลอด ส่วนการประสานงานกับตำรวจสากลพิจารณาออกหมายน้ำเงิน เพื่อสืบเสาะหาแหล่งพักพิงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทาง ตร.ได้ยื่นคำขอไปแล้ว ต่อมาวันที่ 2 มี.ค.2561 ทางตำรวจสากลได้ปฏิเสธการออกหมายน้ำเงินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องทางการเมือง
“ส่วนที่สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นขอวีซ่าเข้าพำนักในอังกฤษ ได้เป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นวีซ่าเข้าออกอังกฤษได้ตลอด และอยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 6 เดือนนั้น เรื่องวีซ่าอังกฤษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้หนังสือเดินทางของประเทศอื่นไปขอวีซ่า ซึ่งขณะนี้ยังพิสูจน์ทราบไม่ได้ว่าเป็นหนังสือเดินทางของประเทศใด แต่ไม่ใช่ของประเทศไทยแน่นอน โดยหนังสือเดินทางของประเทศไทย ทาง กต.ได้ถอนออกหมดแล้ว ซึ่งการอนุมัติวีซ่าก็เป็นดุลยพินิจ หลักเกณฑ์ กรอบกฎหมายของประเทศนั้นๆ ไม่เกี่ยวข้องกับทางการไทยแต่อย่างใด” รองโฆษก ตร. กล่าว
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า การได้หนังสือเดินทาง และวีซ่าเข้าออกต่างประเทศ รวมทั้งการปฏิเสธการออกหมายน้ำเงิน เพื่อสืบเสาะแหล่งพักพิง ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิของเจ้าหน้าที่ในการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาดำเนินคดี ซึ่งต่อไปทาง ตร. จะประสานไปยังประเทศอังกฤษเพิ่มเติม ถึงแหล่งพำนักของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ชัดเจน ซึ่งดำเนินการตามกรอบเวลา อำนาจหน้าที่ที่ผ่านมา ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ และดำเนินการอย่างจริงจังมาโดยตลอด ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือจากตำรวจต่างประเทศอยู่ตลอด
“พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการในทุกมิติอย่างรอบคอบ ครบถ้วน และเร่งรัดติดตามผลมาโดยตลอด ที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก สำหรับในคดีนี้ขอยืนยันว่าดำเนินการอย่างเข้มงวด เช่นเดียวกับคดีอาชญากรรมอื่นๆ ไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด แต่ยังคงต้องรอผลการตรวจสอบแหล่งข้อมูลจากหลายๆส่วน รวมทั้งข้อมูลจากต่างประเทศด้วย” รองโฆษก ตร.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี