วงเสวนาปัญหาค้ามนุษย์ เรียกร้องให้ยกเลิก“การล่อซื้อ”ขายบริการ ด้าน ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ ดีเอสไอแนะลงทะเบียนโสเภณีให้ถูกต้อง เพื่อแก้ปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่ บอร์ดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เห็นชอบร่างฯ ห้ามขายของมึนเมาโดยใช้เครื่องจ่ายฯ ในสถานที่หรือบริเวณร้านค้าสะดวกซื้อ

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ จัดเสวนาในหัวข้อ “จับเข่าคุย ล่อซื้อ 10 ปี แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์หรือยัง?” สืบเนื่องจากเดือนมิถุนายน ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นสัปดาห์วันต่อต้านการค้ามนุษย์ อีกทั้งยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจับเข่าคุยเพื่อหาทางออกและวิธีการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

น.ส.ทันตา เลาวิลาวัณยกุล ผู้ประสานงานมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ กล่าวว่า อยากให้ภาครัฐเอา พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีออกไป เพราะเป็นตัวที่กีดกั้นศักดิ์ศรีของแรงงาน เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ของรัฐล่อซื้อพนักงานบริการ ซึ่งการล่อซื้อเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่นำไปสู่การละเมิดสิทธิ ทำให้สังคมตีตราคนที่ทำงานในสถานบริการทั้งหมดกลายเป็นคนไม่ดี และเป็นคนที่ทำงานผิดกฎหมาย

ด้าน พ.ต.ท.กฤตธัช อ่วมสน รอง ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวว่า พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ เป็นกฎหมายที่มีความคลุมเครือไปในเชิงที่ละเมิดสิทธิ แต่ด้านหนึ่งก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ของรัฐที่หากไม่ปฎิบัติตามกฎหมายก็ถือว่าละเลยการปฎิบัติหน้าที่ โดยบ่อเกิดของการกระทำความผิดในการค้ามนุษย์น่าจะมาจาก พ.ร.บ.สถานบริการ ที่เปิดช่องทางให้เจ้าของกิจการใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด และเปิดให้ผู้ใช้บริการเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จากสถานบริการ ซึ่งผลประโยชน์ตกไปยังเจ้าของกิจการ โดยที่พนักงานบริการกลับตกเป็นผู้ต้องหาเมื่อมีการเข้าจับกุม จึงอยากให้ภาครัฐมีการจดทะเบียนโสเภณีให้ถูกต้อง เพื่อจะได้มีบทกำหนดเข้าไปควบคุมการทำงานบริการของแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการจัดเก็บภาษี การแบ่งสัดส่วนของนายจ้าง ลูกจ้าง รวมถึงสวัสดิการของแรงงาน เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็จะหายไป

ขณะที่ นางอังคณา นีละไพจิตร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า การล่อซื้อพนักงานบริการนั้นไม่มีความจำเป็น เพราะสามารถใช้องค์ประกอบอื่นในการเอาผิดผู้กระทำความผิดได้อยู่แล้ว อีกทั้งปัจจุบันมี พ.ร.บ.การปราบปรามการค้ามนุษย์อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีการล่อซื้อ แม้ว่าสังคมอาจจะได้ความสะใจ และอาจจะตีตราบุคคลดังกล่าวว่าเป็นคนผิด สมควรประณาม แต่ในทางกลับกันเรื่องดังกล่าวกลับเป็นความย้อนแย้งในเรื่องการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลด้วย

ช่วงท้ายของการเสวนา ทางมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ และเครือข่ายพนักงานบริการทั่วประเทศ ได้เสนอข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ไปยังรัฐบาล เจ้าหน้าที่ และองค์กรเอ็นจีโอต่างประเทศ ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลเข้มงวดในข้อตกลงที่ได้รับเสนอมาจากองค์กรนานาชาติ 2.ให้ถือว่าการล่อซื้อเป็นความผิดตามกฎหมาย และ 3.ให้รัฐบาลคุ้มครองคนอาชีพบริการตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยที่ไม่ถือว่าผู้ค้าประเวณีเป็นผู้ผิด

วันเดียวกัน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2561 ว่า คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดวิธีการหรือลักษณะห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยวิธีการใช้เครื่องจ่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณร้านค้า สะดวกซื้อ พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาศัยอำนาจตามมาตรา 30 (6) และมาตรา 27 (8) แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ขอให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีลงนามประกาศใช้

พร้อมกันนี้ ได้เห็นชอบในหลักการการจัดหาเครื่องตรวจระดับแอลกอฮอล์ทางลมหายใจเพิ่มอีก 2,624 เครื่อง โดยที่ประชุมขอให้ใช้งบประมาณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือขอสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทุนความปลอดภัยทางถนน เป็นต้น เนื่องจากข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 พบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ดื่มแล้วขับร้อยละ 40.28