13 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม หรือเงินทอนวัด ซึ่งถูกตั้งข้อสงเกตมาตลอดว่าแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆมา เนื่องจากมีการจับกุมดำเนินคดีกับพระ ว่า มูลเหตุที่นำมาซึ่งการจับพระชั้นผู้ใหญ่ครั้งนี้ เนื่องจากรูปแบบของการทุจริตเงินวัดของวัดสระเกศ , วัดสัมพันธวงศ์ฯ และวัดสามพระยาวรวิหาร ครั้งนี้นั้นแตกต่างจากการดำเนินคดีเงินทอนวัดในครั้งที่ผ่านๆมา เนื่องจากรูปแบบเดิมที่พบในวัดต่างจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จะเป็นฝ่ายเสนองบประมาณให้วัดไปทำโครงการต่างๆ แต่เงินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ถูกโอนคืนกลับไปให้ข้าราชการในสำนักพุทธฯ บางวัดพระจึงกลายเป็นเหยื่อของการกระทำความผิด ตำรวจจึงไม่ได้ดำเนินคดีกับพระ แต่ได้กันไว้เป็นพยานเพราะถือว่าไม่มีเจตนา
แต่กรณีของวัดดังในกรุงเทพฯทั้ง 3 วัดนั้น พระไม่ได้โอนเงินกลับไปยังเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ แต่เงินที่ได้รับมาเพื่อทำโครงการต่างๆกลับถูกโอนเข้าบัญชีฆราวาส บัญชีตัวเอง หรือมูลนิธิฯบางแห่งแทน ในรูปแบบของการฟอกเงิน ซึ่งตัวพระเป็นผู้ที่กระทำทุจริตด้วยตัวเอง จึงต้องถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันฟอกเงินเพราะพระไม่ได้เป็นเหยื่อ เหมือนคดีเงินทอนวัดที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี