17 มิ.ย.61 พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 รอง โฆษก สตม.เปิดเผยเมื่อ 16 มิ.ย.2561 ว่า กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 โดย พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 ได้มีการประเมินผลการปฏิบัติ ของ ด่าน ตม.สนามบิน ในความรับผิดชอบ ทั้ง 5 ด่าน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ในรอบการทำงานช่วงระยะ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2561 มีข้อมูล โดยเฉพาะด้านความมั่นคงและด้านการอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจ หลังจากที่ช่วงปีที่ผ่านมา มีกระแสเกี่ยวกับการทำงานของ ด่าน ตม.สนามบิน ซึ่งเปรียบเสมือนประตูของประเทศและภูมิภาคอาเซียนมาอย่างต่อเนื่อง
โดยผลการปฏิบัติด้านงานความมั่นคง ซึ่งถือเป็นภารกิจหลัก พบว่าในช่วงครึ่งปีแรก มีการจับกุมผู้กระทำผิดคดีอาญาและพระราชบัญญัติต่างๆ ได้ ทั้งสิ้น 156 ราย โดยในกลุ่มนี้สามารถจับกุม ชาวต่างชาติที่เข้าข่ายใช้หนังสือเดินทางปลอม ทั้งแบบปลอมเล่ม ปลอมใบหน้าหรือ Imposter ปลอมวีซ่าและปลอมตราประทับ รวม 12 ราย ซึ่งการจับกุมดังกล่าวถือเป็นการสกัดเส้นทางการเคลื่อนย้ายของบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นภัยคุกคามในลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ด้วยระบบ Advance Passenger Processing หรือ APPS โดยมีคดีสำคัญ เช่น การจับกุม Mr.Oh Janghyn ชาวเกาหลี คดีค้ามนุษย์ เมื่อ 4 ม.ค.2561 หรือ การจับกุม Mr.Dolen Zuarez ชาวอิสราเอล คดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อ 22 ม.ค.2561 เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังมีการสกัดกั้น ชาวต่างชาติไม่พึงประสงค์ที่เสี่ยงต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ประมาณ 3,461 ราย โดยในจำนวนนี้ มีกลุ่มต่างชาติที่มีพฤติกรรมต้องคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ หรือ Sex offender จำนวน 30 ราย เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศ เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน และ แสดงออกถึงการต่อต้านการเป็น Sex country ในสายตาต่างชาติให้หมดไป
ส่วนด้านการอำนวยความสะดวก พบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 มีคนเดินทางเข้าประเทศ ทางด่าน ตม.สนามบิน ทั้ง 5 แห่ง รวม 17,838,650 คน ในจำนวนนี้ เป็นต่างชาติ 14,752,560 คน ซึ่งภาพรวมทั้งการเข้า - ออก ประเทศ ทั้งสิ้น 41,952,051 คน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 มีการโตเพิ่มขึ้นถึง 31.33% โดย ในส่วนของ ด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประตูหลักของประเทศ มีการเดินทางเข้าประเทศ ถึง 10,696,706 คน ในจำนวนนี้ เป็นชาวต่างชาติ 8,708,064 คน ภาพรวม เข้า - ออก ทั้งสิ้น 21,098,309 คน เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2560 โตถึง 6.89% รองลงมา เป็นด่าน ตม.ดอนเมือง ผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศ รวม 3,750,112 คน ในจำนวนนี้ เป็นต่างชาติ 2,769,090 คน คิดยอดเข้า-ออก รวม 7,467,392 คน เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ดอนเมือง โตกระโดดถึง 18.67%
วิเคราะห์แล้วจะเห็นว่า อาจเป็นเพราะดอนเมือง มีการเพิ่มเที่ยวบินเหมาลำและเปิดเส้นทางยอดนิยม จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และมีสายการบินต้นทุนต่ำ จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยในช่วงท้ายปี 2560 ต่อเนื่องปี 2561 ทาง พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ผบก.ตม.2 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร และ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผบช.สตม.ให้เร่งแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์และการทำงาน โดยเฉพาะปัญหาความหนาแน่น และ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ซึ่งกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ฯ ได้ศึกษาและรายงานปัญหา และ ต่อมา พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ฯ ผบช.สตม.ได้ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนในการปรับปรุงระบบ PIBICS และ ระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Autometic channel ให้กับ ด่านต่างๆ รวมถึง บก.ตม.2 อย่างจริงจังเร่งด่วน จนสามารถรองรับการทำงานได้โดยไม่ติดขัดมาตลอดตั้งแต่ก่อนเข้าช่วงปีใหม่จนถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้น ยังได้รับการสนับสนุนด้านกำลังพล จาก ตร.โดยได้เปิดรับการคัดเลือกจากบุคคลภายนอกจำนวน 254 นาย เข้ามาเป็น ผบ.หมู่ ในสังกัด ด่าน ตม.สนามบิน ซึ่งกลุ่มนี้ เพิ่งผ่านการฝึกทักษะงานตำรวจ และกลับมาประจำสังกัด ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
รวมถึง มีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจใน สตม.และนอก สตม. เป็นตำรวจระดับรองสารวัตร เพิ่มขึ้นจำนวน 37 นาย และผบ.หมู่ เพิ่มขึ้นจำนวน 26 นาย ในวาระการแต่งตั้งที่ผ่านมา โดย บก.ตม.2 ได้จัดกำลังทั้งหมด กระจาย ลงปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 5 ด่าน เพื่อรับสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง หลังจากที่ร่วมกับ บก.ตม.ภูมิภาค แก้ปัญหาด้วยการดึง จนท.ตม.ด่านต่างๆทั่วประเทศมาเสริมกำลัง เพื่อแก้ปัญหาในช่วงเทศกาลสำคัญก่อนหน้านี้
นอกจากนั้น ยังมีการแก้ปัญหาในเชิงบริหารจัดการ ด้วยการจัดระบบคิวในพื้นที่ การจัดช่องทางพิเศษสำหรับกลุ่ม priority เด็ก สตรี คนชรา คนพิการ สตรีตั้งครรภ์ รวมถึง การประกาศชี้แจง สร้างความเข้าใจ ทั้งในระดับสื่อมวลชน และในพื้นที่ปฏิบัติการภายใต้ความร่วมมือแบบบูรณาการกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน และ สายการบินต่างๆ ส่งผลให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤติต่างๆมาได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีนและสงกรานต์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีผู้โดยสารและเที่ยวบินเพิ่มสูงทะลุยอดนิวไฮท์ 160,000 คน ต่อวันก็ตาม
สำหรับ ในช่วงครึ่งปีหลัง พ.ต.อ.เชิงรณฯ เผยว่า พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ฯ ได้เร่งฝึกความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เพื่อฝึกทักษะเตรียมรองรับสถานการณ์เทศกาลในช่วงปลายปีที่จะถึงนี้ ที่สำคัญคือการเน้นความพร้อมด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการติดตั้งระบบจัดเก็บข้อมูลชีวภาพ Biometric ที่ช่องตรวจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสกัดกั้นบุคลไม่พึงประสงค์ เช่นเดียวกับ ด่าน ตม.ท่าอากาศยาน ในประเทศสากลอื่นๆ ตามนโยบายของทางรัฐบาล
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะมียอดผู้โดยสาร เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5% โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลอาจสูงขึ้นเกือบ 10% ทาง พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ได้สั่งการให้ ผกก.และหัวหน้าด่านต่างๆ เร่งประเมิน และวิเคราะห์สถานการณ์ ร่วมกับทางการท่าฯ และสายการบิน ไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมรับมือไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและการลงทุนของประเทศไทย
ตามนโยบายที่ทางรัฐบาล ผบ.ตร และ ผบช.สตม.ได้ให้ไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี