18 มิ.ย.61 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา ขณะที่ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว,นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ และพ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส) สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกันตั้งจุดตรวจค้นการลักลอบขนยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย บริเวณจุดตรวจร่วม อ.05 กองร้อยทหารพรานที่ 1201 หน้าด่านพรมแดนคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามคำสั่งของ พ.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา

ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วมได้ตรวจพบสาวใหญ่ชาวกัมพูชาต้องสงสัย สวมเสื้อเชิ๊ตแขนยาว ลายสก็อตสีน้ำเงิน สวมหมวกผ้าลายสีฟ้า ในมือหิ้วถุงพลาสติกสีขาว เดินข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย ลักษณะคล้ายเป็นแม่ค้าชาวเขมรที่จะเข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ แต่เจ้าหน้าที่พบพิรุธบริเวณหน้าท้องคล้ายมีสิ่งของซุกซ่อนมาในตัวด้วย เมื่อถึง จุดตรวจร่วม อ.05 จนท.จึงให้อาสาสมัครทหารพรานหญิง ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 ทำการตรวจค้นกระดาษหนังสือพิมพ์ห่อหุ้มวัตถุขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 10 นิ้วเศษ จำนวน 2 ห่อ ซุกซ่อนอยู่ภายในเสื้อที่สวมใส่ 

เมื่อเปิดออกดูพบมีวัตถุโบราณเป็นกำไลสำริดโบราณ มีสนิมสีเขียวของความเก่าเกาะติดทั้งกำไล และมีร่องรอยของการถูกฝังดินมานาน จนกำไลหลายอันเกาะติดเป็นเนื้อเดียวกันและมีเศษดินพอกอยู่เต็ม นอกจากนี้ยังพบกำไลสำริดโบราณ ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกอีก 1 ชิ้น จนท.จึงควบคุมตัว นางเฮียง กึม อายุประมาณ 50 ปี ชาวกัมพูชา พร้อมของกลางมาทำการสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 หน้าด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จากการสอบถามเบื้องต้นนางเฮียง กึม อ้างว่า มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้ามือสองในตลาดโรงเกลือ ส่วนวัตถุโบราณที่ จนท.ตรวจพบนางเฮียง กึม อ้างว่าเป็นกำไลสำริดโบราณ จะนำไปขายให้พระไทยเพื่อนำไปทำหวย โดยบอกว่าเนื่องจากเป็นกำไลสำริดที่อยู่ในข้อมือศพคนตายโบราณ ถูกชาวเขมรลักลอบขุดมาเพื่อนำไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ แต่ไม่ยอมบอกว่าจะไปส่งให้พระวัดไหน อ้างว่าเป็นผู้รับจ้างขนเข้ามาฝั่งไทยเท่านั้น โดยได้ค่าจ้างเพียง 100 บาท ซึ่งคำอ้างดังกล่าวของนางเฮียง กึม จนท.ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีการซุกซ่อนเพื่อลักลอบเข้ามาอย่างเนียนๆ

จากการตรวจสอบวัตถุโบราณทั้ง 3 ชิ้นของ จนท.พบว่ามีลักษณะคล้ายกำไลเนื้อสำริดโบราณ ชิ้นแรกหนาประมาณ 1 นิ้ว จำนวน 8 อันติดกัน ถูกฝังดินนานจนมีสนิมสีเขียวเกาะและทำให้กำไลติดกันเป็นแพ มีดินพอกอยู่เต็มด้านใน ส่วนอีก 2 ชิ้น เป็นกำไลเนื้อสำริด ขนาดกว้างหนาประมาณ 0.5 ซม. เรียงติดกันเป็นแพชิ้นละ 20อัน ทั้ง 2 ชิ้น มีสนิมสีเขียวเกาะติดกันทั้งหมดและด้านในมีดินติดอยู่แน่นพื้นที่ ลักษณะเป็นกำไลสำริดโบราณที่ชาวเขมรโบราณจะฝังไว้รวมกับคนตาย ซึ่งเป็นพิธีกรรมของคนโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุกว่า 1,000 ปีขึ้นไป  จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งให้ สว.(สอบสวน) สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว นำวัตถุคล้ายของโบราณนี้ส่งให้สำนักโบราณคดี กรมศิลปากร ทำการพิสูจน์ว่าเป็นของโบราณจริงหรือไม่ เพื่อนำมาดำเนินคดีกับนางเฮียง กึม ต่อไป