กรมส่งเสริมการเกษตรเตือนภัย 'โรคไหม้ข้าว' ในระยะกล้า

กรมส่งเสริมการเกษตรเตือนภัย 'โรคไหม้ข้าว' ในระยะกล้า

วันอังคาร ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 13.53 น.
Tag :

เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูกข้าว และหลายพื้นที่ข้าวอยู่ในระยะกล้า ประกอบกับในช่วงนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง กลางคืนมีความชื้นสูง กลางวันอากาศร้อน ซึ่งสภาพแวดล้อมเช่นนี้เหมาะต่อการระบาดของโรคไหม้ข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร จึงขอเตือนเกษตรกรที่ปลูกข้าวในทุกภาคของประเทศไทยโดยเฉพาะในแถบภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจากข้อมูลการติดตามสถานการณ์ศัตรูข้าวในแปลงติดตามสถานการณ์ศัตรูพืช เริ่มพบการทำลายของโรคไหม้ข้าวในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ดังนั้น เกษตรกรจึงมีความจำเป็นต้องสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเริ่มพบอาการของโรคไหม้ เช่น ใบข้าวมีแผล จุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา มีสีเทาอยู่ตรงกลางแผลให้รีบแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่ เพื่อขอคำแนะนำและดำเนินการควบคุมและป้องกันกำจัดทันที

เชื้อราสาเหตุสำคัญของโรคไหม้ข้าว คือ Magnaporthe oryzae หรือ Pyricularia oryzae Cavara โดยลักษณะการทำลายของโรคไหม้ข้าวสามารถพบได้ทุกระยะการเจริญของต้นข้าว เริ่มตั้งแต่


ระยะกล้า ใบมีแผลเป็นจุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา มีสีเทาอยู่ตรงกลางแผล ความกว้างของแผลประมาณ 2 - 5 มิลลิเมตร และความยาวประมาณ 10 - 15 มิลลิเมตร แผลสามารถขยายลุกลามและกระจายทั่วบริเวณใบ ถ้าอาการของโรครุนแรงกล้าข้าวจะฟุบแห้งตาย อาการคล้ายถูกไฟไหม้

ระยะแตกกอ อาการที่พบได้ คือ ใบข้าว ข้อต่อของใบ และข้อต่อของลำต้น ขนาดของแผลจะใหญ่กว่าที่พบในระยะกล้า แผลลุกลามติดต่อกันได้ตามบริเวณข้อต่อ ใบจะมีลักษณะแผลช้ำสีน้ำตาลดำ และหลุดจากกาบใบ

ระยะออกรวง (โรคไหม้คอรวง) ในข้าวที่เริ่มออกรวง เมื่อถูกเชื้อราเข้าทำลายเมล็ดจะลีบ ถ้าเชื้อราทำลายในช่วงรวงข้าวแก่ใกล้เก็บเกี่ยว จะปรากฏรอยแผลช้ำสีน้ำตาลที่บริเวณคอรวง ทำให้รวงข้าวเปราะหักง่าย รวงข้าวหลุดร่วงผลิตได้รับความเสียหาย

การแพร่ระบาด ของโรคไหม้ข้าวพบมากในแปลงที่ปลูกข้าวหนาแน่น อับลม ใส่ปุ๋ยในอัตราสูง สภาพอากาศร้อนในตอนกลางวัน และชื้นจัดในตอนกลางคืน อีกทั้งกระแสลมแรงยังเป็นตัวช่วยในการแพร่กระจายโรคได้ดีอีกด้วย

ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคไหม้ข้าวนั้น หากพบอาการของโรคไหม้ข้าว ให้พ่นด้วยเชื้อบีเอส (บาซิลลัส ซับทีลิส) หรือพ่นด้วยเชื้อราไตรโครเดอร์มา(เชื้อสด) อัตราตามคำแนะนำการใช้ หรือหากมีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีให้พ่นเฉพาะบริเวณที่พบการระบาดของโรค เพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายเป็นวงกว้าง โดยสารเคมีที่แนะนำ ได้แก่ อิดิเฟนฟอส 50 เปอร์เซ็นต์ อีซี หรือบลาสติซิดิน - เอส 2 เปอร์เซ็นต์ อีซีหรือไตรไซคราโซล 75 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตราตามคำแนะนำการใช้ ควรพ่นในแปลงนาที่มีประวัติว่าเคยพบการระบาดของโรคและไม่ควรพ่นสารเคมีซ้ำหลายครั้งเพราะจะทำให้เชื้อราจะต้านทานสารเคมี หรือดื้อยา

สำหรับในฤดูกาลเพาะปลูกถัดไป เกษตรกรควรเลือกใช้พันธุ์ต้านทานต่อโรคไหม้ เช่น พันธุ์กข5  กข๑๑ กข๒7 กข33 (หอมอุบล80) กข37 กข41 กข43 กข47 ชัยนาท1 สันป่าตอง1 สุพรรณบุรี1 สุพรรณบุรี2 สุพรรณบุรี3สุพรรณบุรี60 สุพรรณบุรี90 และคลองหลวง1 ปทุมธานี1 และพันธุ์พิษณุโลก60-2 หว่านเมล็ดพันธุ์ในอัตราที่เหมาะสม 15 – 20 กิโลกรัมต่อไร่ หรือใช้เชื้อราไตรโครเดอร์ คลุกเมล็ดพันธุ์ข้าว หรือนำไปแช่บ่มเตรียมการก่อนปลูก หรือคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น ไตรไซคลาโซล , คาซูกาไมซิน , คาร์เบนดาซิม , โพรคลอราซ อัตราตามคำแนะนำการใช้ รวมถึงลดปริมาณการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนลง ซึ่งวิธีนี้อาจมีผลกระทบต่อผลผลิตบ้างแต่จะช่วยให้ข้าวไม่อ่อนแอต่อโรคไหม้

ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มพยากรณ์และเตือนการระบาดศัตรูพืช  กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร หมายเลขโทรศัพท์ 0-2955-1514 , 0-2955-1626 หรือ https://www.doae.go.th/doae/upload/files/Rice_BlastDisease_230561.pdf

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top